“การกินอาหารตามกรุ๊ปเลือด” มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งในเรื่องการทำงานของระบบย่อยอาหาร การสร้างอินซูลิน การเผาผลาญอาหาร และความสมดุลของฮอร์โมนอีกด้วย และยังช่วยลดความอ้วนได้อีก นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำของรูปแบบอาหารที่แตกต่างกันไป ได้แก่ กรุ๊ป A มังสวิรัติ กรุ๊ป B อ้วนง่าย กรุ๊ป O เน้นโปรตีน และกรุ๊ป AB มังสวิรัติผสมคาร์โบไฮเดรต

การกินอาหารตามกรุ๊ปเลือด ยังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะบอกได้ว่าถ้ากินตามคำแนะนำแล้วจะส่งผลต่อสุขภาพตามที่มีการพูดถึงกัน เพราะคุณภาพงานวิจัยเกือบทั้งหมดอยู่ในระดับที่ต่ำ ไม่ได้มีการแบ่งกลุ่มเพื่อเปรียบเทียบ ใช้ตัวชี้วัดที่ไม่เหมาะสมในการบ่งบอกภาวะสุขภาพ กลุ่มตัวอย่างขนาดเล็กไม่มีน้ำหนักมากพอที่จะให้ความแตกต่างทางสถิติที่น่าเชื่อถือ

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดจะไม่มีหลักฐานมากพอที่จะให้ปฏิบัติ แต่วันนี้ก็มีคำแนะนำแยกตามกรุ๊ปเลือดว่า มีข้อดีและข้อเสียอย่างไร ถ้าจะปรับควรปรับเปลี่ยนอย่างไรเพื่อให้ดีต่อสุขภาพ โดยยึดหลักการกินอาหารเพื่อสุขภาพว่าควรจะกินอย่างไร

การกินให้สุขภาพดีห่างไกลจากโรค มีใจความสำคัญอยู่ 2 ประเด็น คือ

  1. ความสมดุล หมายถึง สมดุลทั้งพลังงานและปริมาณอาหารที่ร่างกายต้องการ กินเท่าไหร่ถึงเรียกว่าพอดี ไม่น้อยเกินไปจนร่างกายขาดสารอาหาร ซูบผอม ป่วยง่าย และไม่มากเกินไปจนน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น โรคอ้วนและคณะถามหา
  2. ความพอเหมาะ หมายถึง เราจะควบคุมการกินอาหารอย่างไรให้อยู่ในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่กินมากเกินไปเพราะมันอร่อย หรือไม่กินเลยเพราะเราไม่ชอบกิน ทั้งนี้เราสามารถกินอาหารได้ทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นอาหารที่มีประโยชน์ หรืออาหารหวาน มัน เค็ม แต่ต้องกินในปริมาณที่พอดี

ประเทศไทยมีข้อปฏิบัติในการกินอาหารเพื่อสุขภาพดี เรียกว่า โภชนบัญญัติ เป็นการแนะแนวทางในการกินอาหารให้ถูกต้องตามหลักโภชนาการ 9 ข้อดังนี้

...

  1. กินอาหารครบ 5 หมู่ แต่ละหมู่ให้หลากหลายและหมั่นดูแลน้ำหนักตัว
  2. กินข้าวเป็นอาหารหลัก สลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ
  3. กินพืชผักให้มากและกินผลไม้เป็นประจำ
  4. กินปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่และถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ
  5. ดื่มนมให้เหมาะสมตามวัย
  6. กินอาหารที่มีไขมันแต่พอควร
  7. หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสหวานจัด และเค็มจัด
  8. กินอาหารที่สะอาด ปราศจากการปนเปื้อน
  9. งดหรือลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

คำแนะนำในการกินอาหารตามกรุ๊ปเลือด ที่กินแล้วมีประโยชน์ต่อร่างกาย มีดังนี้

กรุ๊ป A 

ควรกินมังสวิรัติที่ยังกินปลา ไข่และนมได้ กินผักและผลไม้ ข้าวกล้อง

ข้อดี : เน้นอาหารที่มีใยอาหาร แหล่งของโพแทสเซียม แคลเซียม แมกนีเซียม ช่วยควบคุมความดัน ลดไขมัน ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และมีไขมันอิ่มตัวที่ต่ำ

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

กรุ๊ป B 

อ้วนง่ายและภูมิคุ้มกันไม่ดี อาหารเน้นกลุ่มที่มีโอเมก้า 3 จากปลา เน้นการกินผักใบเขียว กินข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต นม ไข่

ข้อดี: อาหารที่มีโอเมก้า 3 จะช่วยต้านการอักเสบ ป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด มีใยอาหารที่จะได้จากผัก ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต และแหล่งโปรตีนที่ดีจากทั้งปลา ไข่และนม

กรุ๊ป O 

เน้นโปรตีน อาหารประเภทเนื้อแดงหลายชนิด ปลาและอาหารทะเล ผักและผลไม้

ข้อดี : ได้รับโปรตีนคุณภาพดี วิตามิน แร่ธาตุและใยอาหารจากผักผลไม้ แต่ควรเพิ่มเติมในส่วนของนมเพื่อให้ได้แคลเซียมที่เพียงพอ

กรุ๊ป AB 

มังสวิรัติผสมคาร์โบไฮเดรต ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองและเต้าหู้ นม ไข่ โยเกิร์ตไขมันต่ำ ข้าวโอ๊ต ผักและผลไม้

ข้อดี : ได้รับโปรตีนที่มีกรดมันอิ่มตัวต่ำ ใยอาหารจากผักผลไม้ แต่ยังขาดในส่วนกรดไขมันที่ดีจากเมล็ดธัญพืช ถั่วและปลา

ทั้งนี้ ในแต่ละกลุ่มอาหารที่แนะนำก็มีแต่อาหารเพื่อสุขภาพ แต่สิ่งที่สำคัญของการดูแลสุขภาพคือ ความพอดี คือเราเลือกสิ่งที่ดีแล้ว แต่ต้องพอเหมาะกับความต้องการของร่างกาย หลักการคือใช้จานอาหารเพื่อสุขภาพมาเป็นแนวทาง

  • 30% คือผัก
  • 20% คือ ผลไม้หรือประมาณ 6-8 ชิ้นคำ/มื้อ
  • 25% คือ โปรตีน
  • 25% คือ ข้าวแป้ง เน้นที่มีใยอาหารสูง
  • น้ำเปล่า 1 แก้ว

หลักการกินอาหารให้ดีต่อสุขภาพง่าย ๆ คือ ลดหวาน ลดมัน ลดเค็ม และเติมเต็มด้วยผักผลไม้

1. กลุ่มข้าว แป้ง

ควรเลือกกิน

  • กินข้าวสลับกับอาหารประเภทแป้งอื่น ๆ บ้าง เช่น ขนมจีน ก๋วยเตี๋ยว เผือก มัน
  • ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีตและธัญพืชเต็มเมล็ดไม่ขัดสี

ควรลด/หลีกเลี่ยง/กินเป็นครั้งคราว

  • ข้าวแป้งขัดขาว เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว
  • เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น น้ำหวาน กาแฟเย็น ชาเย็น น้ำผลไม้ปั่น ชาเขียวปั่น ชานมไข่มุก
  • ขนมหวาน
  • ขนมขบเคี้ยวและขนมอบกลุ่มเบเกอรี่ เช่น ครัวซอง เค้ก พาย
  • การเติมน้ำตาลทรายเพิ่มในอาหารปรุงสำเร็จ (รวมทั้งเครื่องปรุงรสต่าง ๆ เช่น น้ำปลาพริก น้ำจิ้มต่างๆ ซอสปรุงรส ซอสมะเขือเทศ)

...

2. กลุ่มเนื้อสัตว์ นม ไข่ ถั่วเมล็ดแห้ง

ควรเลือกกิน

  • เนื้อปลา ทั้งปลาน้ำจืดและปลาทะเล และเนื้อไก่
  • เนื้อสัตว์ที่มีไขมันน้อย เช่น เนื้อไก่ส่วนอก และเนื้อสันใน
  • นมพร่องไขมันชนิดจืด
  • ถั่วเมล็ดแห้งทุกชนิด
  • ปรุงด้วยการนึ่ง ต้ม ตุ๋น ผัด ใช้น้ำมันน้อย เช่น แกงจืด แกงส้ม ต้มยำ

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

ควรลด/หลีกเลี่ยง/กินเป็นครั้งคราว

  • เนื้อสัตว์ไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดหนังติดมัน เช่น หนังไก่ หมูสามชั้น เป็นต้น
  • เนื้อสัตว์ที่ผ่านการถนอมอาหารด้วยเกลือหรือเนื้อสัตว์แปรรูป เช่น ปลาร้า ปลาเค็ม ปลาส้ม แหนม หมูยอ กุนเชียง ไส้กรอก แฮมและเบคอน
  • เนื้อสัตว์ที่ผ่านการปิ้งย่างแบบไหม้เกรียม รมควัน เช่น หมูปิ้ง ไก่ย่าง บาร์บีคิวหรือหมูกระทะ
  • ผลิตภัณฑ์จากนมที่มีไขมันอิ่มตัวสูง เช่น เนย ชีส ไอศกรีม
  • นมและผลิตภัณฑ์จากนมที่มีน้ำตาลสูง เช่น นมเปรี้ยว นมหรือโยเกิร์ตปรุงแต่งรสชนิดต่าง ๆ
  • ถั่วเมล็ดแห้งคลุกเกลือ

...

3. กลุ่มไขมันและน้ำมัน

ควรเลือกกิน

  • น้ำมันที่เป็นแหล่งของกรดไขมันที่ดี เช่น น้ำมันรำข้าว น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันคาโนลา น้ำมันมะกอก
  • ถั่วเปลือกแข็ง เช่น อัลมอนด์ มะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง

ควรลด/หลีกเลี่ยง/กินเป็นครั้งคราว

  • ไขมันและน้ำมันที่มีกรดไขมันอิ่มตัวสูงทั้งจากพืชและสัตว์ เช่น น้ำมันหมู เนย น้ำมันปาล์ม กะทิ ครีมเทียม
  • อาหารที่มีกรดไขมันทรานส์ เช่น มาการีน เนยขาว เป็นต้น นำไปทำขนมอบ กลุ่มเบเกอรี่ เช่น เค้ก พาย เป็นต้น รวมทั้งน้ำมันทอดซ้ำ
  • อาหารจานด่วนหรือฟาสต์ฟู้ด เช่น พิซซ่า มันฝรั่งทอด
  • อาหารและขนมหวานที่มีกะทิ เช่น แกงเขียวหวาน ฟักทองแกงบวด
  • อาหารผัดที่ใช้น้ำมันมาก ๆ หรืออาหารทอดน้ำมันท่วม เช่น ปาท่องโก๋ กล้วยทอด ไก่ทอด หอยทอด

4. กลุ่มผัก ผลไม้

ควรเลือกกิน

  • เน้นผักผลไม้สดและกินให้หลากหลาย
  • เลือกผักและผลไม้ตามฤดูกาล

ควรลด/หลีกเลี่ยง/กินเป็นครั้งคราว

  • ผลไม้ที่มีรสหวานจัด เช่น ขนุน เงาะ ลำไย
  • ผลไม้เชื่อม แช่อิ่ม และผลไม้ที่ผ่านการอบแห้ง เช่น ลูกเกด ลูกพรุน
  • ผักชุบแป้งทอด
  • ผักผลไม้ดองทุกชนิด

แหล่งข้อมูล :ดร.วนะพร ทองโฉม นักสุขศึกษา งานสร้างเสริมสุขภาพ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล