โดยทั่วไปดวงตาของคนเรานั้น มีต่อมไขมันจำนวน 25-40 ต่อม อยู่ภายในเปลือกตาบนและเปลือกตาล่าง ทำหน้าที่สร้างน้ำตาชั้นไขมัน มาเคลือบผิวน้ำตาชั้นนอกสุด เพื่อไม่ให้น้ำตาระเหยออกจากผิวหน้าดวงตาเร็วเกินไป แต่หากต่อมไขมันเหล่านี้มีการทำงานผิดปกติไป อันเนื่องมาจากการอุดตันของท่อของต่อมไขมัน หรือที่มักเรียกสั้น ๆ ว่า “ภาวะต่อมไขมันที่เปลือกตาอุดตัน” จะส่งผลให้น้ำตาชั้นไขมันผิดปกติ ทั้งในด้านของปริมาณหรือคุณภาพ หรือทั้ง 2 กรณี และอาจทำให้เกิดอาการของโรคตาแห้งตามมาได้
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
สาเหตุของภาวะต่อมไขมันที่เปลือกตาอุดตันที่พบบ่อยคือ อายุที่เพิ่มขึ้น โดยเมื่อคนเราอายุมากขึ้น ท่อของต่อมไขมันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในลักษณะที่ทำให้มีการตีบแคบ จึงเกิดการอุดตันได้ง่าย ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ แบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ ปัจจัยเสี่ยงภายใน และปัจจัยเสี่ยงภายนอก
1. ปัจจัยเสี่ยงภายใน ได้แก่
- เชื้อชาติ พบว่า คนเอเชียมีความชุกของภาวะต่อมไขมันที่เปลือกตาอุดตันมากกว่าคนผิวขาว
- โรคประจำตัวบางอย่าง เช่น วัยหมดประจำเดือน ภาวะขาดฮอร์โมนแอนโดรเจน โรคโชเกร็น โรคผิวหนังอักเสบชนิดโรซาเซีย หรือกลุ่มอาการสตีเวนส์-จอห์นสัน เป็นต้น
- โรคตาต่าง ๆ เช่น โรคเปลือกตาอักเสบเรื้อรัง หรือภูมิแพ้ที่ตา เป็นต้น
2. ปัจจัยเสี่ยงภายนอก ได้แก่
- การใส่คอนแทคเลนส์มากเกินไป หรือใช้ไม่ถูกวิธี
- การรับประทานยาบางประเภท เช่น ยารักษาสิวรุนแรงกลุ่มเรตินอยด์ ยาต้านฮอร์โมนแอนโดรเจน การบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทนสำหรับวัยหมดประจำเดือน ยารักษาโรคซึมเศร้า หรือ ยารักษาโรคภูมิแพ้ เป็นต้น
- การใช้ยาหยอดตาบางประเภท เช่น ยารักษาโรคต้อหิน เป็นต้น
- การใช้สายตากับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากเกินไป เช่น มือถือ คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ต เป็นต้น ทำให้การกระพริบตาของคนเราลดลง ส่งผลให้ต่อมไขมันทำงานน้อยลง เกิดการอุดตันของต่อมไขมัน และต่อมไขมันฝ่อตามมาได้
...
อาการ
ภาวะต่อมไขมันที่เปลือกตาอุดตัน อาจไม่มีอาการในระยะเริ่มต้น เนื่องจากต่อมไขมันที่เหลืออยู่ยังสามารถทำงานได้ปกติ แต่หากการอุดตันมีมากขึ้น อาจทำให้มีอาการเปลือกตาอักเสบ แดง หรือระคายเคือง รวมทั้งทำให้น้ำตาระเหยออกจากผิวหน้าดวงตาเร็วเกินไป ก่อให้เกิดอาการของโรคตาแห้งตามมาได้ ซึ่งอาการของโรคตาแห้งมีได้หลากหลาย ตั้งแต่อาการแสบตา ระคายเคืองตา ตาแห้ง รู้สึกเหมือนมีฝุ่นในตา เมื่อยล้าตา คันตา หรือตาสู้แสงไม่ค่อยได้ เป็นต้น
การวินิจฉัย
จักษุแพทย์อาจวินิจฉัยภาวะนี้ได้โดยบังเอิญ ในช่วงแรกที่ยังไม่มีอาการ โดยการตรวจพบขอบเปลือกตามีลักษณะผิดปกติ เช่น รูเปิดของท่อของต่อมไขมันอุดตันหรือตีบแคบ ขอบเปลือกตาอักเสบ แดง หรือหนาตัวขึ้น และเมื่อกดที่เปลือกตาซึ่งมีต่อมไขมันอยู่ภายในเบา ๆ อาจพบว่า ปริมาณน้ำตาชั้นไขมันออกมาได้ไม่ดีหรือลักษณะของน้ำตาชั้นไขมันกลายเป็นขุ่น ๆ หรือเหนียวข้น ไม่ใสเหมือนปกติ นอกจากนี้เมื่อตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ อาจพบต่อมไขมันฝ่อไป หรือมีจำนวนน้อยลงได้
อันตรายและภาวะแทรกซ้อน
อันตรายและภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญของภาวะต่อมไขมันที่เปลือกตาอุดตันคือ โรคตาแห้ง และเปลือกตาอักเสบเรื้อรัง ซึ่งอาจส่งผลต่อการดำรงชีวิตประจำวันของผู้ป่วย กล่าวคือ ก่อให้เกิดอาการไม่สบายตาเรื้อรังหรือเป็น ๆ หาย ๆ และถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาการดังกล่าวก็จะเพิ่มขึ้น และส่งผลกระทบมากขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาโรคตาต่าง ๆ เช่น ผ่าตัดโรคต้อกระจก หรือผ่าตัดแก้ไขภาวะสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียง เป็นต้น เนื่องจากภาวะแทรกซ้อนทั้งสองนี้ อาจทำให้ผิวตาถลอกหรืออักเสบตั้งแต่ก่อนผ่าตัด ทำให้การตรวจวัดหรือคำนวณค่าสายตาต่าง ๆ ก่อนผ่าตัดคลาดเคลื่อน ส่งผลให้ผลการผ่าตัดไม่ดีเท่าที่ควร รวมทั้งโรคตาแห้ง หรือเปลือกตาอักเสบเรื้อรัง อาจเป็นรุนแรงขึ้นหลังผ่าตัดได้
นอกจากนี้เมื่อต่อมไขมันอุดตันต่อเนื่องยาวนาน อาจทำให้ต่อมไขมันฝ่อหายไป และไม่สามารถฟื้นคืนกลับมาเป็นปกติได้ โดยในผู้ป่วยสูงอายุซึ่งมีการสร้างน้ำตาลดลงตามธรรมชาติอยู่แล้ว จะยิ่งส่งเสริมให้โรคตาแห้งเป็นรุนแรงขึ้น จนอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนของโรคตาแห้ง เช่น ผิวกระจกตาเป็นแผลเรื้อรัง การติดเชื้อที่กระจกตา หรือแผลเป็นที่กระจกตา ตามมาภายหลังได้
การรักษา แบ่งออกเป็น 2 แนวทางคือ
1 การดูแลตัวเองที่บ้าน ได้แก่
1.1 การประคบอุ่นที่เปลือกตา โดยมีขั้นตอนดังนี้
1.1.1 ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นหรือเจลอุ่นที่อุณหภูมิประมาณ 40-42 องศาเซลเซียส วางบนเปลือกตาขณะหลับตา 2 ครั้งต่อวันหรือเช้าและเย็น ครั้งละประมาณ 5-10 นาที เพื่อช่วยให้น้ำตาชั้นไขมันที่จับตัวกันเหนียวข้น ละลายเป็นของเหลว
1.1.2 ตามด้วยนวดเปลือกตาเบา ๆ เพื่อช่วยให้น้ำตาชั้นไขมันที่ละลายแล้ว ออกมาจากต่อมไขมันได้ดี
1.1.3 จากนั้นเช็ดทำความสะอาดขอบเปลือกตาและคราบไขมันที่ออกมาด้วยสำลีสะอาดให้เรียบร้อย
1.2 รับประทานอาหารที่มีสารโอเมก้า 3 ในปริมาณสูง เช่น เนื้อปลาทะเลชนิดต่าง ๆ เพื่อช่วยให้น้ำตาชั้นไขมันมีคุณลักษณะปกติ
...
2. การรักษาจากโรงพยาบาล ได้แก่
2.1 การใช้น้ำตาเทียม เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา
2.2 การใช้ยาหยอดตาลดการอักเสบของเปลือกตา
2.3 การใช้ยาปฏิชีวนะ เพื่อลดแบคทีเรียที่ขอบเปลือกตา และการสร้างเอนไซม์จากแบคทีเรียดังกล่าว
2.4 การรักษาอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การเช็ดทำความสะอาดขอบเปลือกตาด้วยเครื่องมือ หรือการยิงเลเซอร์ IPL ซึ่งการเลือกใช้วิธีการรักษาใดเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของจักษุแพทย์ตามความเหมาะสม
การป้องกัน สามารถทำได้โดย
1. ลดการใส่คอนแทคเลนส์ หรือใช้คอนแทคเลนส์ให้ถูกวิธี
2. ลดหรือเลิกการใช้ยาบางประเภทที่ส่งผลให้เกิดภาวะต่อมไขมันที่เปลือกตาอุดตัน
3. ประคบอุ่นที่เปลือกตา เพื่อช่วยให้การดำเนินของโรคตามธรรมชาติเป็นไปช้าลง
แหล่งข้อมูล
ศ. พญ.เกวลิน เลขานนท์ ภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
อ่านคอลัมน์ "ศุกร์สุขภาพ" เพิ่มเติม
...