ท่ามกลางกระแส Longevity ที่กำลังร้อนแรงในประเด็นที่ว่าจำเป็นต้องจ่ายแพงหรือไม่ถึงจะมีชีวิตดีและอายุยืนยาวได้อย่างมีความสุข ในอีกมุมมองหนึ่งของหมอแอมป์ นพ. ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และ บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) ได้ให้คำแนะนำช่วงหนึ่งในระหว่างการพูดคุยกับคุณรวิศ หาญอุตสาหะ ในพอดคาสต์ ช่อง Mission To The Moon เมื่อเดือนสิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ว่าการมีสุขภาพดี ไม่จำเป็นต้องจ่ายแพงเสมอไป
คุณหมอแอมป์กล่าวว่าประเทศไทย กำลังเผชิญกับสังคมสูงวัย ในอีก 8 ปีจะมีคนอายุเกิน 60 ปี 30% ของทั้งประเทศ ทำอย่างไรให้สุขภาพดี ในระดับครอบครัว และรณรงค์ให้ผู้ใหญ่แข็งแรง
เรื่องง่ายๆ อย่างเรื่องการรับประทานอาหาร เช่น เทรนด์ บุฟเฟต์ หลายคนกินเอาคุ้มเกินอิ่ม ทำให้เกิดโรค NCD เป็นสิ่งสำคัญ ที่เราถกเถียงกันได้ ใครมองเห็นก่อนก็เปลี่ยน ใครเห็นช้า ก็ป่วย บางส่วนป่วยแล้วเสียชีวิตเลย และคนหนุ่มสาว เป็น NCD แต่คนสูงอายุก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ และไม่แข็งแรง จึงต้องรณรงค์ให้คนดูแลสุขภาพได้
บางคนเข้าใจว่า Wellness จะต้องจ่ายแพง ชาวบ้านเข้าไม่ถึง ดังนั้นเราต้องเร่งปรับตัว ทำให้สุขภาพดี อะไรที่ทำยาก แต่ทำได้ ทำให้สุขภาพไม่ดี ทำง่าย แต่เลิกยาก อะไรที่ทำลายสุขภาพจึงน่าสนใจ
“ผมมีความสุขกับการกินผัก เพราะผมรู้เรื่องโพรไบโอติก”
โพรไบโอติกส์ (Probiotics) เป็นจุลินทรีย์ขนาดเล็กอยู่ในกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดีที่มีชีวิต สามารถพบได้ในอาหาร ช่วยให้ร่างกายปรับสมดุลได้ดีขึ้น ทำให้สุขภาพดีและแข็งแรง โดยโพรไบโอติกส์จะทนต่อกรด และด่าง จนสามารถจับตัวที่บริเวณผิวของเยื่อบุลำไส้ได้แล้วผลิตสารต่อต้าน และกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ชนิดอื่นๆ
...
ทำให้การปรับสมดุลลำไส้จากโพรไบโอติกส์เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้นเนื่องจากร่างกายสามารถซึมซับสารอาหารที่ดี และเป็นประโยชน์ต่อระบบประสาท และสมอง ทำให้ไม่เกิดความเครียดได้ง่าย และเพิ่มเซราโทนินที่ช่วยควบคุมอารมณ์ ความคิด การนอนหลับ และสร้างภูมิคุ้มกัน ทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ยาก
นอกจากนี้ หมอแอมป์ยังกล่าวต่อว่าการใช้ชีวิตของคนที่ไม่เคยออกกำลัง เมื่อได้ออกก็จะติด มนุษย์เราเปลี่ยนได้หมด เราจึงปรับเปลี่ยนพฤติกรรมได้ การดูแลสุขภาพที่ดีที่สุด ไม่เสียตังค์ ทำได้ง่าย และสุขภาพดีด้วย คือ Lifestyle Medicine หรือ หลักเวชศาสตร์วิถีชีวิต
Lifestyle Medicine คือศาสตร์ทางการแพทย์ที่มุ่งเน้นการสร้างรากฐานของสุขภาพที่ยั่งยืน โดยเป็นการดูแลสุขภาพตั้งแต่ต้นทางผ่านการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาสุขภาพ ซึ่งหลักการของการแพทย์ เวชศาสตร์วิถีชีวิต เริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล ให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น
- การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- การนอนหลับอย่างมีคุณภาพ
- การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารเสพติด
- การดูแลจิตใจและอารมณ์
ซึ่งทั้งหมดนี้มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีและยั่งยืนให้กับผู้คนในทุกช่วงวัย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง