จากเหตุการณ์ปะทะกันอย่างรุนแรงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก ผู้คนจำนวนไม่น้อยที่เฝ้าติดตามสถานการณ์ผ่านสื่อต่างๆ มีภาวะเครียด หดหู่ นอนไม่หลับ และโกรธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตในระยะยาวได้ กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค และสำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 กรมประชาสัมพันธ์ ได้แนะนำวิธีจัดการความเครียดจากการเสพสื่อในภาวะหดหู่ไว้ดังนี้
1. ตั้งสติทุกครั้งเมื่อเสพข่าว
ในสถานการณ์ตึงเครียดแบบนี้ อาจมีบางสื่อสร้างเนื้อหาหรือพาดหัวข่าวกระตุ้นอารมณ์เพื่อเรียกยอดวิว ยอดคนติดตาม ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการเสพสื่อประเภทดังกล่าว และอย่าหลงเชื่อทันทีกับการพาดหัวข่าวที่มุ่งกระตุ้นอารมณ์ ควรอ่านข่าวจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ คัดกรองความชัดเจนของข้อมูลก่อนตัดสินใจเชื่อ และระวังข่าวปลอมและข่าวที่บิดเบือนข้อเท็จจริง โดยเฉพาะในยุคนี้ที่มักมีการนำ AI มาสร้างภาพเสมือนจริงจนทำให้เกิดการหลงผิดได้ง่าย
2. จำกัดเวลาในการเสพข่าว
คนที่ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อเนื่องกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมงอาจส่งผลต่ออารมณ์และความเครียดได้ง่าย ดังนั้นควรกำหนดระยะเวลาในการอ่านข่าวให้ชัดเจน เช่น วันละ 30 นาที หรือไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพื่อลดความเครียดจากการเสพสื่อเป็นเวลานาน และที่สำคัญไม่ควรเสพข่าวเหล่านี้ก่อนนอนเพราะอาจทำให้รู้สึกเครียดจนนอนไม่หลับได้
3. แบ่งเวลาไปทำกิจกรรมอื่นบ้าง
...
ยิ่งเราติดตามสถานการณ์มากเกินไปก็ยิ่งทำให้รู้สึกเครียด ดังนั้นควรแบ่งเวลาไปทำกิจกรรมอื่นๆ เพื่อผ่อนคลายความเครียดบ้าง เช่น ดูซีรีส์ ฟังเพลง ทำงานบ้าน ออกกำลังกาย เล่นกับสัตว์เลี้ยง ฯลฯ เพื่อลดเวลาในการเสพสื่อลง
4. เคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง
คนทุกคนย่อมมีความคิดเห็นแตกต่างและหลากหลายเป็นเรื่องปกติในสังคมมนุษย์ โดยเฉพาะในสถานการณ์แบบนี้ก็มีมุมมองที่แตกต่างกันได้ เราจึงไม่ควรรับฟังข่าวสารจากมุมมองเพียงด้านเดียวหรือสื่อเดียว ควรฝึกการเปิดใจมองมุมอื่นที่แตกต่างจากความเชื่อเดิมดูบ้าง ลองเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง ทำให้เราเห็นโลกที่กว้างขึ้น
5. อย่าเหมารวมและแสดงความเกลียดชัง
นอกจากนี้เราไม่ควรเหมารวมและแสดงความเกลียดชังกับผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ อย่าลืมว่าทุกคนก็เป็นมนุษย์ที่มีจิตใจและความคิดแตกต่างกัน การแสดงความรุนแรงกับคนที่เราเหมารวมยิ่งส่งผลเสียรุนแรงกับสถานการณ์มากขึ้น
หากรู้สึกมีความเครียดรุนแรงจนกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน อย่าเก็บกดหรือปล่อยให้เป็นไปเพียงลำพัง สามารถขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือปรึกษานักจิตวิทยาหรือจิตแพทย์ เพราะสุขภาพจิตก็สำคัญไม่แพ้สุขภาพกาย การเลือกรับข่าวสารอย่างมีสติจะช่วยให้เราสามารถเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างมีความสุขและเข้มแข็ง