เผยผลสำรวจชาวเอเชียกว่า 70% รู้สึกมั่นใจมากขึ้นเมื่อทำหัตถการความงาม

เมื่ออายุมากขึ้น นอกจากริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้าแล้ว ความหย่อนคล้อยก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สร้างความไม่มั่นใจให้กับการใช้ชีวิตของผู้คนทุกเพศทุกวัย รายงาน "Pillars of Confidence" ของ เมิร์ซ เอสเธติกส์ (Merz Aesthetics) สำรวจความคิดเห็นผู้คนกว่า 15,000 คน ใน 15 ประเทศทั่วโลก พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามในกลุ่มประเทศเอเชียแปซิฟิก (APAC) ส่วนใหญ่เชื่อว่าการทำหัตถการความงามส่งผลบวกต่อความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น

รายงาน "Pillars of Confidence" เป็นการสำรวจออนไลน์ระหว่างวันที่ 23 กันยายน ถึง 8 ตุลาคม 2567 จัดทำขึ้นเพื่อการค้นหานิยามความสัมพันธ์ของความงามและความมั่นใจ โดยสำรวจความคิดเห็นผู้ที่เคยได้รับการรักษาด้านความงามหรือเปิดรับการรักษาด้านความงาม ซึ่งมีผู้ร่วมสำรวจถึง 1,000 คนต่อตลาดในแต่ละประเทศของ APAC ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ และไทย ช่วงอายุของผู้เข้าร่วมสำรวจคือ 21 - 65 ปี เป็นผู้หญิง 75% และผู้ชาย 25% พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ในภูมิภาคเอเชียรู้สึก “เป็นตัวของตัวเอง”

• โดยกว่า 69% รู้จักตัวตนของตัวเองดี
• ในขณะที่ 66% มีมุมมองเชิงบวกต่อตัวเอง
• และ 60% รู้สึกว่ายังคงเป็นตัวเอง แม้ต้องอยู่กับคนที่แตกต่างกัน

ซึ่งผลลัพธ์นี้ยังสอดคล้องกับนิยามความมั่นใจของเมิร์ซ เอสเธติกส์ ที่ไม่ได้เจาะจงแค่เรื่องรูปลักษณ์ภายนอก แต่คือความมั่นใจที่เริ่มจากข้างใน และการยอมรับตัวเองอย่างแท้จริง

เมื่อถามถึงเรื่องความงามกับการชะลอวัย แม้ผู้ตอบแบบสำรวจจำนวนมากจะยอมรับและเปิดรับความเสื่อมตามช่วงวัย แต่หลายคนก็ยังมีความกังวล และต้องหาวิธีจัดการด้วยการเข้ารับการรักษาด้านความงาม

• 66% มีแรงจูงใจในการจัดการกับริ้วรอยและความหย่อนคล้อย
• 66% มีความต้องการที่จะดูอ่อนเยาว์ลง

เนื่องจากความงามช่วยเสริมพลังความมั่นใจส่วนบุคคล โดยผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่รู้สึกเป็นตัวของตัวเอง และมีความคิดเชิงบวกต่อตนเอง พร้อมยอมรับว่าการทำหัตถการความงามช่วยให้พวกเขารู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น และพร้อมที่จะเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น

• 85% รู้สึกเหมือนได้ดูแลตัวเอง
• 80% รู้สึกมีชีวิตชีวามากขึ้น
• 79% รู้สึกมีพลัง (Empowered)
• 77% รู้สึกเป็นอิสระที่จะรับประสบการณ์ใหม่ๆ

ผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่รู้สึกว่าการทำหัตถการความงามส่งผลต่อความมั่นใจในการใช้ชีวิตและการเข้าสังคม

• 78% ส่งผลต่อมุมมองที่พวกเขามีต่อตัวเอง
• 70% ส่งผลต่อความมั่นใจในการเข้าสังคมในชีวิตประจำวัน

สำหรับบางคน การรักษาด้านความงามอาจไม่เพียงแค่ช่วยเสริมรูปลักษณ์ภายนอก แต่ยังอาจช่วยเพิ่มความมั่นใจในตนเองได้ โดย 48% ต้องการเพิ่มความมั่นใจในตนเองจากการรักษา

ผู้ตอบแบบสำรวจจำนวนมากมองว่าความมั่นใจเป็นส่วนสำคัญของความเป็นอยู่ที่ดีโดยรวม โดย 74% เชื่อว่าการพัฒนาความมั่นใจในตนเองเป็นสิ่งสำคัญต่อความเป็นอยู่ที่ดี

ครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจใน APAC รู้สึกมั่นใจเมื่อมองกระจก อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสำรวจในเกาหลีใต้รู้สึกมั่นใจน้อยกว่า (28%) เมื่อเทียบกับจีน (64%) และไทย (50%)

คนจำนวนมากชื่นชมและรักร่างกายของตนเอง แม้จะมีข้อบกพร่องก็ตาม เช่น 79% รู้สึกสบายใจในผิวของตัวเอง มากกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสำรวจ (62%) แสวงหาการรักษาด้านความงามเพื่อการบำรุงรักษาความงามตามปกติ

อิทธิพลภายนอกบางครั้งอาจทำให้ผู้คนตระหนักถึงรูปลักษณ์ของตนเองมากขึ้น เช่น การเห็นตัวเองในวิดีโอคอล แต่สิ่งนี้พบได้น้อยกว่าในเกาหลีใต้

• 62% เชื่อว่าความงามเป็นเรื่องส่วนตัว
• 51% การเห็นตัวเองในวิดีโอคอลทำให้ใส่ใจรูปลักษณ์มากขึ้น
• 48% สื่อมีอิทธิพลต่อการรับรู้ความงามของตนเอง

ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด (คู่ชีวิต/คู่สมรส 57%, เพื่อน/ครอบครัว 56%) และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ (56%) ได้รับรายงานว่ามีอิทธิพลมากที่สุดต่อการรับรู้ตนเอง

ผู้ตอบแบบสำรวจจำนวนมากเรียนรู้เกี่ยวกับการรักษาด้านความงามผ่านโซเชียลมีเดีย/อินฟลูเอนเซอร์ (62%) และจากผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพและเพื่อน/ครอบครัว (40%)

ใน APAC แม้ผู้ตอบแบบสำรวจ 2 ใน 5 จะรู้สึกไม่สบายใจที่จะพูดคุยเกี่ยวกับการรักษาด้านความงามเนื่องจากกลัวการตัดสิน แต่ 62% ก็ยังรู้สึกสบายใจมากหรือค่อนข้างสบายใจที่จะพูดคุยเกี่ยวกับการรักษาด้านความงามกับผู้อื่น

ผลการสำรวจในครั้งนี้สอดคล้องกับนิยามความมั่นใจของเมิร์ซ เอสเธติกส์ ที่ไม่ได้เจาะจงแค่เรื่องรูปลักษณ์ภายนอก แต่คือความมั่นใจที่เริ่มจากข้างใน และการยอมรับตัวเองอย่างแท้จริง

สำหรับหนึ่งในการทำหัตถการความงามเพื่อรักษาความอ่อนเยาว์และสร้างความมั่นใจให้กับตนเองที่ได้รับการยอมรับมายาวนานกว่า 15 ปีคือการใช้เครื่อง Ulthera ที่พัฒนาเป็น Ultherapy PRIME โดยนำเสนอผ่านมุมมองของ จอนจีฮยอน และ อีมินโฮ สองแบรนด์แอมบาสเดอร์ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับทั้งด้านความสำเร็จ ความมั่นใจ การใส่ใจในตัวเอง และการพิถีพิถันเลือกดูแลผิวอย่างดีที่สุด เพื่อรักษาความกระชับ ดูอ่อนเยาว์ ให้ผิวมีสุขภาพดีอย่างเป็นธรรมชาติ

ทั้ง จอนจีฮยอน และ อีมินโฮ คือตัวแทนผู้ใช้ Ultherapy PRIME ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานของการทำหัตถการยกกระชับผิวที่ไม่อาศัยการผ่าตัด ด้วยเทคโนโลยีการมองเห็นแบบเรียลไทม์ ที่พัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีของ Ultherapy ว่าให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน มีงานวิจัยทางคลินิกที่เชื่อถือได้ รวมถึงความพึงพอใจจากผู้ใช้ทั่วโลก โดยนวัตกรรม Ultherapy PRIME มีฟีเจอร์เด่น ดังนี้

• ลดระยะเวลาการรักษาลงถึง 20% เพิ่มความสบายระหว่างทำการรักษาคนไข้
• หน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น 35% เพิ่มระบบการแสดงภาพที่แม่นยำให้คมชัดจากทุกมุมมอง เห็นผลทันทีหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้น

โดยฟีเจอร์ล่าสุดจะช่วยให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลได้ดียิ่งขึ้น และยังคงให้ผลลัพธ์การยกกระชับที่ยาวนานอย่างเป็นธรรมชาติ

ทั้งนี้ นักแสดงหนุ่ม อีมินโฮ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวในงานเกี่ยวกับการรักษาสมดุลระหว่างภาพลักษณ์ที่ดูอ่อนเยาว์ควบคู่ไปกับการพัฒนาบทบาทที่เป็นผู้ใหญ่สมวัย ภายใต้การยอมรับการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติว่า

"ผมคิดว่าทุกคนล้วนมีเสน่ห์เฉพาะตัวอยู่แล้ว และเสน่ห์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมนุษย์คือการเป็นตัวของตัวเอง ช่วงนี้ก็มีกรณีที่ทำศัลยกรรมความงามมากเกินไปใช่ไหมครับ ผมคิดว่าการทำแค่ในส่วนที่ตัวเองรู้สึกว่ายังไม่สมบูรณ์แบบอย่างเป็นธรรมชาติ หรือแค่บำรุงรักษาเท่านั้นจะดีกว่า อันที่จริงผมเองก็อายุไม่น้อยแล้วเหมือนกัน ผมไม่คิดว่าการแก่ตัวลงเป็นเรื่องไม่ดีเสมอไป และผมคิดว่าในแต่ละช่วงวัยก็มีเสน่ห์ และความเท่ที่เหมาะสมกับวัยนั้นๆ อยู่ ดังนั้น ผมจึงมักจะให้ความสำคัญกับการดูแลจิตใจภายในมากกว่าครับ"

ด้านนักแสดงสาว จอนจีฮยอน ได้ให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องการดูแลสุขภาพที่รักษาสมดุลเรื่องการดูแลความงามจากภายในและภายนอกว่า

"ฉันคิดว่าความงามนั้นสะท้อนถึงการเดินทางภายในของฉันอย่างแท้จริง เมื่อฉันให้ความเคารพว่าสุขภาพภายในและการดูแลภายนอกนั้นเป็นเหมือนการเดินทางเดียวกัน ฉันจึงสามารถอยู่ร่วมกับความเป็นตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดทั้งภายในและภายนอก"