โรคหลอดเลือดสมอง หรือ Stroke มักถูกมองว่าเป็นโรคของผู้สูงอายุ เพราะอุบัติการณ์ของโรคนี้เพิ่มขึ้นตามอายุ และมักเกี่ยวข้องกับโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง รวมไปถึงการสูบบุหรี่ และโรคเรื้อรังอื่นๆ แต่ความจริงแล้ว Stroke นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ในคนทุกกลุ่มอายุ ซึ่งปัจจุบันพบผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 45 ปีประมาณ 5% ของผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองทั้งหมด เราเรียกภาวะนี้ว่า โรคหลอดเลือดสมองในคนอายุน้อย หรือ Stroke in the Young ซึ่งสาเหตุของโรคนี้ในคนอายุน้อยมีความหลากหลายกว่าที่พบในผู้สูงอายุ

ทำไม Stroke ถึงเกิดในคนอายุน้อย?

โรคหลอดเลือดสมองในคนอายุน้อย มักเกิดจากการมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคอ้วน รวมไปถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การสูบบุหรี่ ขาดการออกกำลังกาย มีภาวะเครียด โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดสมองในคนอายุน้อย จะเกิดจาก 3 สาเหตุใหญ่ๆ ได้แก่

1. สาเหตุจากหัวใจผิดปกติ แบ่งเป็น

  • โครงสร้างของหัวใจผิดปกติ ที่พบบ่อยคือ มีรูรั่วที่ผนังกั้นห้องหัวใจแต่กำเนิด (patent foramen ovale)
  • หัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น atrial fibrillation, atrial flutter, heart block

2. สาเหตุจากหลอดเลือดผิดปกติ แบ่งเป็น

  • โครงสร้างหลอดเลือดสมองผิดปกติ (vasculopathy) เช่น Moyamoya disease, Premature atherosclerosis
  • หลอดเลือดอักเสบ (vasculitis) มักเป็นผลมาจากโรคทางภูมิคุ้มกันผิดปกติ (autoimmune disease) เช่น SLE เป็นต้น

3. สาเหตุจากการแข็งตัวของเลือดผิดปกติ (hypercoagulable state) โดยมักสัมพันธ์กับโรคทางภูมิคุ้มกันผิดปกติ (autoimmune disease) หรือโรคมะเร็ง เป็นต้น 

...

ทั้งนี้ อาการของโรคหลอดเลือดสมองในคนอายุน้อย (stroke in the young) ยังคงมีอาการเหมือนกับโรคหลอดเลือดสมองในผู้สูงวัยทั่วไปทุกประการ โดยสังเกตได้จากสัญญาณเตือน BEFAST

BEFAST สัญญาณเตือนโรคหลอดเลือดสมอง

B = Balance เดินเซ เวียนศีรษะ บ้านหมุนฉับพลัน

E = Eyes ตาพร่ามัว มองไม่เห็น เห็นภาพซ้อนฉับพลัน

F = Face Dropping ใบหน้าชาหรืออ่อนแรง ยิ้มแล้วมุมปากตก

A = Arm Weakness แขนขาอ่อนแรงข้างใดข้างหนึ่ง กำมือไม่ได้

S = Speech Difficulty ปากเบี้ยว พูดไม่ชัด พูดลำบาก พูดไม่ได้ พูดไม่ออก

T = Time to call รีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่และนำส่งโรงพยาบาลทันที

เทคโนโลยีช่วยวินิจฉัยตรงจุด เพิ่มโอกาสรอดชีวิตในนาทีทอง

ในผู้ป่วย Stroke โดยเฉพาะคนอายุน้อยที่มักไม่ได้สงสัยว่าตัวเองมีโรค การใช้เทคโนโลยีช่วยวินิจฉัยจึงยิ่งสำคัญ เพราะช่วยให้แพทย์รู้ทันทีว่าเนื้อสมองส่วนใดเสียหายแล้วและเนื้อสมองส่วนใดยังรอการรักษา ยกตัวอย่างเทคโนโลยีที่ใช้ คือ

  • MRI สมอง / CT Perfusion เพื่อดูความเสียหายและการไหลเวียนเลือด
  • AI Brain Scan   เช่น  RAPID Software โปรแกรมที่ช่วยประเมินขนาดเนื้อสมองที่ตายแล้ว และส่วนที่ยังมีโอกาสรอด ทำให้การรักษาได้ตรงจุด รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้ทีมแพทย์ตัดสินใจเลือกวิธีรักษาว่าจะต้องให้ยาละลายลิ่มเลือด การลากลิ่มเลือด หรือการรักษาอื่นๆ ได้อย่างตรงจุด ลดความเสี่ยงพิการและเพิ่มโอกาสฟื้นตัว ส่งผลดีต่อทั้งตัวผู้ป่วยและญาติด้วย

ป้องกัน Stroke ในวัยทำงาน ทำได้ตั้งแต่วันนี้

  • ตรวจวัดความดันและควบคุมให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
  • ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ โดยเฉพาะการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
  • รับประทานอาหารที่ดี ลดอาหารที่มีคอเลสเตอรอลและไขมันอิ่มตัว ลดอาหารเค็ม มัน หวาน ฟาสต์ฟู้ด เน้นผักผลไม้
  • ลดแอลกอฮอล์ เลิกบุหรี่ และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่
  • ตรวจสุขภาพประจำปี และตรวจคัดกรองความเสี่ยงหากมีประวัติครอบครัวหรือปัจจัยเสี่ยงสูง

...

Stroke in the Young ไม่ใช่โรคไกลตัวของวัยทำงานอีกต่อไป ทุกวินาทีมีค่า เพราะเรื่องสมองรอไม่ได้ หากพบสัญญาณเตือนต้องรีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด และการใช้เทคโนโลยีวินิจฉัยช่วยให้สามารถรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยเพิ่มโอกาสรอดชีวิตและลดความพิการได้อย่างมหาศาล รู้เร็ว ป้องกันเร็ว รักษาเร็ว เท่ากับรอดชีวิตและรักษาคุณภาพชีวิตได้มากที่สุด 

ขอบคุณข้อมูล : พญาไท  Expert in Brain ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลพญาไท 2 อาคาร A ชั้น 4