การรับประทานอาหารเสริมเป็นหนึ่งในทางเลือกของการดูแลสุขภาพสำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ เพื่อช่วยเติมเต็มสารอาหารที่อาจขาดหายไปจากการรับประทานอาหารทั่วไป หรือเพื่อเสริมสร้างสุขภาพเฉพาะด้าน ด้วยกระแสความนิยมจึงทำให้เกิดช่องทางการจำหน่ายหลากหลายรูปแบบ ที่อาจเสี่ยงต่อการเจออาหารเสริมปลอม ซึ่งไม่มีสารอาหารตามที่ระบุและอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้อีกด้วย

คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เตือนภัยประชาชนถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร "ซิงก์ ไบโอติน พลัส" และ "ซิงก์ อะมิโน แอซิด คีเลต ผสมไบโอติน" ปลอม ซึ่งทำขึ้นมาเพื่อเลียนแบบของคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ และกำลังแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางผ่านช่องทางออนไลน์ เช่น TikTok Shop และ Shopee เพื่อให้ผู้บริโภครู้เท่าทันกลโกงและวิธีการตรวจสอบสินค้าปลอมเพื่อป้องกันตนเองจากการถูกหลอกลวงและอันตรายต่อสุขภาพ

บริษัท จุฬาฟาร์เทค จำกัด ซึ่งอยู่ภายใต้สังกัดคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร "ซิงก์ ไบโอติน พลัส" ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมและเล็บ ได้รับการร้องเรียนจากผู้บริโภคเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่มีการจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ว่ามีลักษณะเปลี่ยนแปลงไป เช่น

  • ภาชนะบรรจุเปลี่ยนแปลงไป
  • เมื่อเปิดขวดแล้ว มีกลิ่นวานิลลา ซึ่งของจริงไม่มี
  • ซองกันชื้นมีลักษณะเปลี่ยนแปลงไปมาก
รศ. เภสัชกร ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ รองคณบดีฝ่ายพันธกิจสากลและกิจการวิชาชีพ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
รศ. เภสัชกร ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ รองคณบดีฝ่ายพันธกิจสากลและกิจการวิชาชีพ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

...

รศ. เภสัชกร ดร.บดินทร์ ติวสุวรรณ รองคณบดีฝ่ายพันธกิจสากลและกิจการวิชาชีพ คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยว่าจากการตรวจสอบของบริษัท จุฬาฟาร์เทค จำกัด พบว่ามีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารปลอมจริง โดยเป็นการปลอมผลิตภัณฑ์ทั้ง "ซิงก์ ไบโอติน พลัส" (ฉลากระบุเลขสารบนอาหาร 19-1-21959-5-0014) และ "ซิงก์ อะมิโน แอซิด คีเลต ผสมไบโอติน" (ฉลากระบุเลขสารบนอาหาร 19-1-21959-5-0005) ซึ่งมีฉลากที่ดูเสมือนจริง

ผลการตรวจสอบและการดำเนินคดี คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ ได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) และส่งเรื่องให้เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อวันที่ 28 และ 30 พฤษภาคม 2568 ตามลำดับ

“ผลการตรวจวิเคราะห์ทางเคมี เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ยืนยันว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารปลอมทั้งสองรายการ ไม่พบสารสำคัญใดๆ เลย ทั้งซิงก์ ไบโอติน และซีลีเนียม การกระทำนี้ไม่เพียงเป็นการหลอกลวงและเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างไม่เป็นธรรม แต่ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ เนื่องจากผู้บริโภคจะไม่ได้รับสารอาหารตามที่คาดหวัง”

คำแนะนำสำหรับผู้บริโภคในการแยกแยะสินค้าปลอม

คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาฯ จึงขอเตือนประชาชนให้เพิ่มความระมัดระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่ามีราคาถูกผิดปกติ ควรซื้อจากร้านค้าที่เป็นแหล่งจำหน่ายทางการเท่านั้น

จุดสังเกตสำคัญเพื่อแยกแยะสินค้าปลอมและสินค้าจริง

1. กลิ่นภายในขวด

  • สินค้าปลอม: มีกลิ่นวานิลลา
  • สินค้าจริง: ไม่มีกลิ่นวานิลลา

2. ซองกันชื้น

  • สินค้าปลอม: ทำจากซิลิกาเจล
  • สินค้าจริง: ทำจากไบโอดรายเคลย์ ขนาด 5 กรัม

3. ฝาขวดด้านนอก

  • สินค้าปลอม: มีจุดตรงกลาง
  • สินค้าจริง: ไม่มีจุดตรงกลาง

4. ใต้ฝาด้านใน

  • สินค้าปลอม: มีสัญลักษณ์รีไซเคิล พร้อมตัวอักษร LDPE และ BJ04
  • สินค้าจริง: ไม่มีสัญลักษณ์รีไซเคิลพร้อมตัวอักษร LDPE แต่มีจุดตรงกลาง

5. ใต้ขวด

  • สินค้าปลอม: มีสัญลักษณ์รีไซเคิล พร้อมตัวอักษร PET และ 100CC
  • สินค้าจริง: มีสัญลักษณ์รีไซเคิล พร้อมตัวอักษร PETE

6. โลโก้ CUPhar

  • สินค้าปลอม: รูปแบบตัวอักษรแตกต่างจากของจริง
  • สินค้าจริง: รูปแบบตัวอักษรถูกต้องตามของจริง

รศ. เภสัชกร ดร.บดินทร์ กล่าวย้ำว่าการซื้ออาหารเสริมผ่านช่องทางออนไลน์ในวันนี้เกิน 50% เป็นของปลอม และจุดเด่นที่ทำให้ช่องทางออนไลน์ขายดีกว่าช่องทางอื่นก็คือราคาย่อมเยากว่าและพ่วงมาด้วยคำโฆษณาที่ชวนให้เชื่อว่าจะทำให้สุขภาพดีขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้วอาหารเสริมไม่ใช่ยารักษาโรค และการโฆษณาเกินจริงเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย

...

“อาหารเสริมใช้ในการดูแลสุขภาพทั่วไป แต่ไม่ได้นำมาใช้รักษาโรคต่างๆ หากมีคำโฆษณาเหล่านี้เป็นการโฆษณาที่เกินกฎหมายกำหนด เพราะว่าอาหารเสริมไม่ป้องกันหรือรักษาโรคเหล่านั้นได้จริง”

คุณกรรณิการ์ กิจติเวชกุล อนุกรรมการ ด้านอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ สภาองค์กรของผู้บริโภค
คุณกรรณิการ์ กิจติเวชกุล อนุกรรมการ ด้านอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ สภาองค์กรของผู้บริโภค

ด้านคุณกรรณิการ์ กิจติเวชกุล อนุกรรมการ ด้านอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ สภาองค์กรของผู้บริโภค เผยว่าปัจจุบันบนโลกออนไลน์สามารถปลอมได้แทบทุกอย่าง แม้กระทั่งการนำ AI มาใช้ปลอมเสียงหรือปลอมหน้าตา รวมถึงไอคอนติ๊กถูกสีฟ้าบน Facebook ที่เคยการันตีว่าเป็นของจริงก็ยังสามารถปลอมได้เช่นกัน เพราะมีคนเคยเจอมาแล้ว

“สภาองค์กรผู้บริโภคทำแคมเปญคู่มือให้ผู้บริโภคสังเกตและระวังสินค้าผิดกฎหมาย เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่บอกว่ารักษาโรคได้ หรือว่าโฆษณาเกินจริง การปลอมแปลงเลข อย. หรือแสดงฉลากปลอมที่เราสามารถตรวจสอบได้ ไปจนถึงการใช้คำพูดบิดเบือนหรือมีพฤติกรรมหลอกลวง เช่น ใช้คำว่ายาสมุนไพร หรือจัดโปรโมชั่นแจกฟรีจ่ายแค่ค่าส่ง หรือการตัดช่องทางการร้องเรียน ไม่มีที่ติดต่อ ไม่มีใบเสร็จ ไม่มีเบอร์โทรศัพท์จริง ให้ตั้งข้อสังเกตว่าเหล่านี้คือมิจฉาชีพ”

...

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

ดังนั้นหากตนเองหรือคนใกล้ตัวถูกหลอกไปแล้วก็ควรเก็บหลักฐานให้มากที่สุด เพื่อใช้ประกอบการดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไปได้