หากให้แนะนำหมวดสกินแคร์ที่ควรมีติดโต๊ะ ติดกระเป๋าเครื่องสำอางไว้ใช้เป็นประจำทุกวัน มอยส์เจอร์ไรเซอร์คือหนึ่งในคำตอบ! ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นด้านความชุ่มชื้น ช่วยเสริมเกราะปราการผิว (Skin Barrier) ให้แข็งแรง สามารถแก้ปัญหาผิวที่แห้งกร้าน ผิวไม่สม่ำเสมอ ให้แลดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่คนอยากมีผิวสุขภาพดีต้องการ ยิ่งสำหรับคนที่รักการเมกอัป อยากแต่งหน้าให้ติดทนมากขึ้น การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์คือขั้นตอนการเตรียมผิวที่สำคัญ เรียกได้ว่า แค่ชะโลมมอยส์เจอร์ไรเซอร์ลงบนผิวก่อนเริ่มลงเมกอัป ไม่ว่าจะกันแดด รองพื้น บลัชออน พาเลตต่างๆ ก็เกาะติดผิวได้ดีขึ้นแน่นอน

แต่มอยส์เจอร์ไรเซอร์ในปัจจุบันก็มีหลากหลายรูปแบบ หลากหลายสูตร สำหรับใครที่เป็นมือใหม่เพิ่งหัดเข้าวงการดูแลผิวหน้า หัดเมกอัปอยู่ ยังไม่รู้ว่าจะเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์แบบไหนมาใช้ดี หรือกลัวว่าจะเลือกไม่เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง บทความนี้เรามีทริกง่ายๆ ในการเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์มาฝากแล้ว อยากผิวแข็งแรง ผิวชุ่มชื้น แต่งหน้าติดทน ตามมาดูด่วน!

มอยส์เจอร์ไรเซอร์คืออะไร

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ คือ กลุ่มสกินแคร์ที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวเป็นพิเศษ ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้าน เสริมเกราะปราการให้ผิวแข็งแรง ลดเลือนริ้วรอย ปัญหาผิวต่างๆ พร้อมปกป้องสิ่งสกปรกและมลภาวะต่างๆ จากภายนอก ให้ผิวแลดูเรียบเนียน สม่ำเสมอ โดยมอยส์เจอร์ไรเซอร์มักจะมีส่วนประกอบที่สำคัญอย่าง สารปิดกั้นไม่ให้น้ำซึมผ่าน (Occlusive) เช่น น้ำมันธรรมชาติ วิตามินอี ที่มีเนื้อหนักช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น ปิดกั้นไม่ให้น้ำซึมผ่าน และสารที่ช่วยดูดซับน้ำ (Humectant) ดึงดูดความชุ่มชื้นเข้าสู่ชั้นผิว เช่น คอลลาเจน กรดไฮยาลูโรนิก หรือกลีเซอรอล นอกจากนี้ยังมีสารออกฤทธิ์ชนิดอื่นๆ เพื่อตอบโจทย์การแก้ปัญหาผิวที่ตรงจุด เพิ่มคุณสมบัติบำรุงผิว เช่น สารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว สารสกัดกันแดด สารเติมเต็มร่องผิวอย่าง Emollients สารที่ช่วยปรับระดับสีผิวให้สว่างขึ้นอย่างวิตามินซี วิตามินอีและ Niacinamide เป็นต้น

ทริกง่ายๆ ในการเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับผิวตนเอง

อย่างที่เราได้บอกไปว่า มอยส์เจอร์ไรเซอร์คือสกินแคร์ที่มีคุณสมบัติหลักคือเสริมผิวให้ชุ่มชื้น เรียบเนียนขึ้น โดยจะมีส่วนประกอบของสารที่ช่วยกักเก็บน้ำไว้ในผิว ลดการสูญเสียน้ำออกจากผิว พร้อมกับสารออกฤทธิ์เฉพาะที่ช่วยฟื้นฟูปัญหาผิวที่แตกต่างกัน นั่นทำให้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ถูกออกแบบมาหลากหลายสูตร และมีเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน เพื่อให้ตอบโจทย์กับทุกสภาพผิว ทุกปัญหาผิวมากที่สุด เอาล่ะ มาดูทริกง่ายๆ ในการเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้เหมาะกับผิวตนเองตามลิสต์นี้กันเลย

มอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับกลุ่มผิวแห้ง

กลุ่มผิวแห้งมักจะมีลักษณะผิวที่แห้งกร้านและขาดน้ำ ผิวเป็นขุย แถมหลุดลอกได้ง่าย ถือเป็นผิวที่เหมาะกับที่จะใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์มากที่สุด จึงควรเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เป็นสูตรเข้มข้น เนื้อหนัก เนื้อแน่น มีน้ำมันธรรมชาติเป็นเบสหลัก เช่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์เนื้อครีม อิมัลชั่น หรือแบบเซรั่มที่ซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ให้สกินแคร์ชนิดอื่นๆ ซึมลงเข้าไปในผิวได้ดีขึ้น ยิ่งในขั้นตอนการเตรียมผิวก่อนเมกอัป ก็จะช่วยเสริมให้ผิวยึดติดกับรองพื้น แป้งได้ดีขึ้น ลดโอกาสเมกอัปหลุดลอก แต่งแล้วไม่เป็นคราบนั่นเอง

มอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับกลุ่มผิวมัน

หลายคนมักจะเข้าใจว่า ผิวมันไม่ต้องการความชุ่มชื้น เพราะผิวมีน้ำมันส่วนเกินบนผิวหน้ามากกว่าปกติ มีความมันวาวมากอยู่แล้ว หากใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ไปแล้วอาจจะทำให้ผิวมันมากกว่าเดิม ซึ่งถือเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะจริงๆ แล้ว ผิวที่ผลิตน้ำมันออกมาข้างนอกเยอะ อาจทำให้เซลล์ผิวภายในขาดความชุ่มชื้นด้วยเช่นกัน จนทำให้เกิดสิวอุดตัน ริ้วรอยได้ง่าย แต่หลักในการเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับคนผิวมัน อาจเน้นเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีเนื้อเหลว ชนิดน้ำ มีความเบาบาง เพื่อลดความมันลง ไม่ทำให้ผิวมันเพิ่ม หรือลดโอกาสการเกิดการอุดตัน

มอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับกลุ่มผิวผสม

กลุ่มผิวผสม จะมีลักษณะผิวที่มีทั้งความแห้งและความมันผสมอยู่ด้วยกัน ช่วงทีโซน (หน้าผาก จมูก และคาง) อาจจะมีผิวมันมากกว่าปกติ และส่วนอื่นๆ อาจแห้งกร้าน ฉะนั้นทริกในการเลือก ก็แนะนำให้เลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีการผสมสอง Texture เข้าด้วยกัน ไม่ให้หนักผิวจนเกินไป เช่น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ชนิดเนื้อผสมที่เป็นเนื้อโลชั่นกึ่งครีม แต่สำหรับคนที่อยากได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น ก็อาจเลือกใช้ทั้งสองสูตร เช่น บริเวณทีโซนเลือกใช้เป็นเนื้อบางเบา ส่วนบริเวณที่แห้งกร้านเลือกเป็นสูตรเนื้อหนัก ทั้งนี้อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูง และต้องระมัดระวังไม่ให้ผสมกัน เพื่อป้องกันอาการแพ้ ระคายเคือง

มอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับกลุ่มผิวแพ้ง่าย

สุดท้ายกับกลุ่มผิวบอบบาง แพ้ง่าย ที่ผิวจะไวต่อสารสกัด มักจะเกิดสิว และเกิดปัญหาผิวได้ง่าย หากต้องการใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ จึงต้องให้ความสำคัญกับการเลือกสารสกัดเป็นพิเศษ เลือกเป็นสูตรอ่อนโยนต่อผิว มีสารสกัดที่ช่วยปลอบประโลมผิว เช่น สารสกัด Cica ว่านหางจระเข้ และไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม แอลกอฮอล์ ในส่วนของเนื้อสัมผัส อาจเลือกเป็นเซรั่ม และเนื้อเจลที่มีเนื้อไม่หนักจนเกินไป เพื่อไม่ให้ผิวเกิดการอุดตัน ลดโอกาสการแพ้ให้ได้มากที่สุด

ผิวของเราประกอบด้วยน้ำเป็นส่วนสำคัญ หากอยากมีผิวแข็งแรง ดูสุขภาพดี ลดเลือนปัญหาผิวต่างๆ และเมกอัปให้ติดทนมากยิ่งขึ้น มอยส์เจอร์ไรเซอร์คือสกินแคร์ที่ไม่ควรข้ามขั้นตอนการบำรุงผิวไปเลย เพราะมาพร้อมคุณสมบัติกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิว ลดการสูญเสียน้ำ เหมาะกับทุกสภาพผิว สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างไรดี ก็สามารถนำทริกที่เรานำมาฝากในบทความนี้ไปปรับใช้ได้เลย