เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายฤดูร้อนที่เชื่อมต่อกับฤดูหนาว ส่งผลให้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เพิ่มความเสี่ยงต่อการป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ ที่อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและมีอาการรุนแรงถึงชีวิตได้ โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่
ทุกปีที่ผ่านมา สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และกรมควบคุมโรค มีการจัดหาวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เพื่อให้บริการแก่กลุ่มเสี่ยงในช่วงฤดูร้อนต่อฤดูฝน โดยในปีนี้มีการจัดซื้อวัคซีนแล้วจำนวน 4.5 ล้านโดส แต่ด้วยการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ที่แนวโน้มปีนี้มีผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น จึงได้มีการจัดซื้อวัคซีนเพิ่มอีกจำนวน 1.5 ล้านโดสในเร็ว ๆ นี้
โดยมีการส่งมอบวัคซีนรอบแรกจากผู้ผลิตแล้วจำนวน 2.1 ล้านโดส และทยอยจัดส่งถึงหน่วยบริการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจำนวน 1.8 ล้านโดส เพื่อฉีดให้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ส่วนอีกประมาณ 2 แสนโดสจะนำไปให้บริการแก่ผู้ต้องขังในเรือนจำและสถานพินิจต่าง ๆ ขณะที่วัคซีนรอบที่ 2 อีก 2.39 ล้านโดส จะมาถึงเมืองไทยช่วงเดือน พ.ค. และน่าจะกระจายให้หน่วยบริการได้ครบภายในวันที่ 15 มิ.ย. 2568 นี้
ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ประกอบด้วย
- หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 – 20 สัปดาห์ (รับบริการได้ตลอดการตั้งครรภ์)
- เด็กอายุ 6 เดือน - 2 ปี (อายุตั้งแต่ 6 เดือนเต็มจนถึงอายุ 2 ปี 11 เดือน 29 วัน)
- ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค (ปอดอุดกั้นเรื้อรัง, หอบหืด, หัวใจ, หลอดเลือดสมอง, ไตวาย, เบาหวาน และผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด)
- ผู้สูงอายุตั้งแต่ 65 ปี
- ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
- โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ)
- โรคอ้วน (น้ำหนักมากกว่า 100 กก. หรือ BMI มากกว่า 35 kg/m2)
...
โรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza) เกิดจากเชื้ออินฟลูเอนซาไวรัส ซึ่งมี 3 ชนิด คือ A, B และ C โดยสายพันธุ์ A เป็นสายพันธุ์ที่มีความอันตรายมากที่สุด เพราะสามารถกลายพันธุ์ได้ รวมทั้งยังแพร่ระบาดได้เป็นวงกว้าง ทำให้เชื้อมีความเป็นลูกผสม และมีฤทธิ์รุนแรง
อาการไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A
สำหรับอาการของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A จะมีอาการไม่ต่างจากไข้หวัดใหญ่และไข้หวัดทั่วไป แต่มีความรุนแรงกว่า ประกอบไปด้วย
- มีไข้สูงกว่า 38 องศาฯ ขึ้นไป
- มีอาการปวดศีรษะ
- หนาวสั่น อ่อนเพลีย
- มีน้ำมูกไหล คัดจมูก
- เจ็บคอ มีอาการไอ
- ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ตามร่างกาย แขน ขา ตามตัว
- ในเด็กเล็กมีอาการถ่ายเหลว คลื่นไส้ อาเจียน และชักจากไข้สูง
อาการจะเป็นมากใน 3 วันแรก หลังจากนั้นอาการจะเริ่มดีขึ้น โดยหายสนิทอาจใช้เวลา 10-14 วัน แต่ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงอาจใช้เวลานานกว่านี้
ภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อย ได้แก่ หูชั้นกลางอักเสบ ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ และปอดอักเสบ ซึ่งมักเกิดในผู้ป่วยที่มีความเสี่ยง นอกจากนี้ยังมีภาวะแทรกซ้อนที่พบได้น้อยแต่ส่งผลอันตรายถึงชีวิต ได้แก่ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ปลายประสาทอักเสบ และสมองอักเสบ
สำหรับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงและบุคคลทั่วไปที่ต้องการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ปี 2568 สามารถเข้ารับบริการได้ที่คลินิกเสริมภูมิคุ้มกันและอายุรศาสตร์การท่องเที่ยว ตึกราชูทิศ สถานเสาวภา สภากาชาดไทย (มีค่าบริการ)
ส่วนผู้ประกันตน ประกันสังคม มาตรา 33 และมาตรา 39 ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป สามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ปี 2568 ได้ฟรีในสถานพยาบาลตามสิทธิการรักษาพยาบาล ระหว่างวันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 สิงหาคม 2568 โดยนำบัตรประชาชนใช้เป็นหลักฐานในการเข้ารับบริการ
นอกจากนี้ยังมีโรงพยาบาลรัฐบาลและเอกชนจำนวนมากให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ปี 2568 (มีค่าบริการ) แก่ประชาชนทั่วไปและผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงที่ต้องการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคและลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วย