ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันแทบทุกวินาที จนหลายคนรู้สึกว่ารับข้อมูลมากเกินไป (Digital Overload) จากผลสำรวจสุขภาวะทางดิจิทัล ปี 2567 พบว่าคนส่วนใหญ่ใช้อุปกรณ์ดิจิทัลถึง 8-10 ชั่วโมงต่อวัน การเสพข่าวสารมากเกินไปนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต เช่น ความเครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า และนอนไม่หลับ

ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตระบุว่าปีที่ผ่านมาคนไทยเสี่ยงป่วยซึมเศร้าเพิ่มขึ้น 17.2% และมีความเครียดสูงถึง 15.48% นอกจากนี้ยังส่งผลให้นอนไม่หลับ สมาธิสั้น ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง และเกิดปัญหาสุขภาพกาย เช่น ปวดตา ปวดหัว ไมเกรน ปวดเมื่อย (Office Syndrome) ท้องอืด ท้องผูก และภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

นายแพทย์พิจักษณ์ วงศ์วิศิษฎ์ ผู้อำนวยการศูนย์ดูแลสุขภาพแบบองค์รวม W9 Wellness Center เผยว่าการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นทุกปี เนื่องจากการมุ่งเน้นการดูแลสุขภาพกายและใจที่สมดุล ที่นอกจากการรักษาถึงต้นตอปัญหา ก็ยังเน้นการป้องกันดูแลสุขภาพก่อนเกิดโรค สร้างความสมดุลสุขภาพให้แข็งแรงในทุกมิติ โดยในปี 2568 นี้ W9 Wellness ตอบรับเทรนด์การดูแลสุขภาพแนวใหม่แบบ "Beyond Analog Wellness" ให้ควบคู่กับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม

...

Analog Wellness ไม่ใช่การตัดขาดจากโลกดิจิทัล หรือปฏิเสธเทคโนโลยีโดยสิ้นเชิงไปเลยแบบที่หลายคนเข้าใจ แต่คือการเลือกใช้ เลือกรับ และจัดสรรเวลาในชีวิตประจำวัน ที่เน้นสร้างสมดุลของตัวเองเพื่อให้อยู่ในโลก Analog และ Digital ได้โดยได้รับทั้งความสะดวกทางกาย และมีความสุขทางใจ

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Analog Wellness หรือ "Digital Detox" กลายเป็นเทรนด์สุขภาพที่กำลังเติบโตในปี 2025 โดย 5 กิจกรรม Analog Wellness ยอดนิยม ได้แก่

  1. การทำสมาธิและโยคะ: ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย
  2. การทำกิจกรรมกลางแจ้ง: สัมผัสธรรมชาติ ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและจิตใจผ่อนคลาย เช่น Forest Bathing (การอาบป่า) ที่มีการศึกษาว่าช่วยลดฮอร์โมนความเครียดและกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกัน
  3. การไปร้านหนังสือและการอ่าน: เป็นสถานที่พักผ่อนให้ถอยห่างจากโลกดิจิทัล
  4. ทำงานอดิเรกและงานฝีมือ: ช่วยให้จิตใจสงบและผ่อนคลาย
  5. การเล่นดนตรี: ช่วยผ่อนคลายและลดความเครียด

หากต้องการ Digital Detox ด้วยตนเองสามารถเริ่มต้นง่ายๆ ด้วยการตั้งเวลาหยุดใช้สมาร์ทโฟน, ใช้โทรศัพท์ที่ไม่มีโซเชียลมีเดีย, ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยี

ข้อดีของ Analog Wellness ไม่ได้มีแค่ลดความเครียดจากจอ แต่ยังเชื่อมโยงกับสุขภาพองค์รวม เช่น ลดจุลินทรีย์ในลำไส้ (Gut Microbiome) และลดผลกระทบของยีนที่ไม่พึงประสงค์

เพราะความเครียดส่งผลต่อลำไส้ซึ่งเป็น "สมองที่สอง" ของร่างกาย และมีบทบาทสำคัญในการผลิตสารเซโรโทนินที่เกี่ยวข้องกับความสุข ด้วยการทำกิจกรรม Analog Wellness เช่น

  • Breathwork: หรือการฝึกหายใจลึกๆ ช่วยเพิ่มออกซิเจนในร่างกาย ลดความเครียด และช่วยฟื้นฟูการทำงานของระบบประสาท
  • Sound Bath: ใช้เสียงและคลื่นความถี่ที่เกิดจากเครื่องดนตรีเพื่อช่วยปรับสมดุลพลังงานในร่างกาย ช่วยให้ระบบประสาทสงบ และลดความเครียดได้
  • Ice Bath: การแช่น้ำแข็งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการอักเสบ และช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังจากการออกกำลังกายหนัก การอาบน้ำเย็นยังช่วยลดอาการปวดกล้ามเนื้อและเพิ่มความทนทานของร่างกาย
  • Dirty Wellness: ช่วยให้มีความยืดหยุ่นในการดูแลสุขภาพ โดยไม่ต้องเข้มงวดตลอดเวลา ช่วยลดความเครียดจากการกดดันที่ต้องทำตามแผน และสามารถสนุกกับชีวิตได้โดยไม่รู้สึกผิด

...

เทรนด์ Beyond Analog Wellness ในปี 2568 คือการดูแลสุขภาพแนวใหม่ที่ผสาน Analog Wellness เข้ากับการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เพื่อสร้างสมดุลทั้งกายและใจในระยะยาว