นอนดึก นอนน้อย นอนไม่หลับ นอนไม่เต็มอิ่ม ปัญหาที่ดูเหมือนจะเล็กน้อยแต่รู้หรือไม่ว่าพฤติกรรมเหล่านี้ส่งผลให้ร่างกายเราเสี่ยงต่อการเป็นโรคเรื้อรังที่รักษาได้ยากในอนาคต
สมาคมการแพทย์เพื่อการนอนหลับโลก (The World Association of Sleep Medicine : WASM) ได้กำหนดจัดกิจกรรม “วันนอนหลับโลก (World Sleep Day)” ขึ้นในวันศุกร์สัปดาห์ที่สองของเดือนมีนาคมในทุกๆ ปี เพื่อให้ประชากรโลกได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับปัญหาการนอนหลับ หากไม่เร่งแก้ไขก็อาจกลายเป็นปัญหาเรื้อรังทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตได้
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) แนะนำให้ผู้ใหญ่อายุ 18–60 ปี ควรนอนหลับอย่างน้อย 7-9 ชั่วโมงต่อคืน การนอนหลับไม่เพียงพอจะทำให้ความสามารถทางการคิดลดลง และทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมาหลายอย่าง ตั้งแต่ปัญหาสุขภาพจิต ภาวะโรคอ้วนไปจนถึงระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลง ซึ่งเป็นต้นตอของโรคเรื้อรัง (NCDs) นานาชนิด
ผลกระทบจากการนอนน้อย
การอดนอนหรือนอนหลับไม่เพียงพอส่งผลเสียต่อความสามารถทางจิตใจและสภาวะทางอารมณ์ของเรา เราอาจรู้สึกใจร้อนมากขึ้นหรือมีแนวโน้มที่จะอารมณ์แปรปรวน นอกจากนี้ยังลดทอนกระบวนการตัดสินใจและความคิดสร้างสรรค์ได้อีกด้วย
...
การอดนอนเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้มีอาการประสาทหลอน เช่น มองเห็นหรือได้ยินสิ่งที่ไม่เป็นความจริง การขาดการนอนหลับยังกระตุ้นอาการคลั่งในผู้ที่มีความผิดปกติทางอารมณ์แบบไบโพลาร์ได้
ความเสี่ยงทางจิตวิทยาอื่นๆ ได้แก่:
- พฤติกรรมหุนหันพลันแล่น
- ความวิตกกังวล
- ภาวะซึมเศร้า
- ความหวาดระแวง
- ความคิดฆ่าตัวตาย
นอกจากนี้อาจทำให้เกิดภาวะหลับวูบ (microsleep) ในระหว่างวัน ที่มีอาการหลับไปสองสามถึงหลายวินาทีโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอยู่นอกเหนือการควบคุมของร่างกายและเป็นอันตรายอย่างยิ่งหากกำลังขับรถ หรือกำลังใช้งานเครื่องจักรในที่ทำงาน
นอนน้อยกระทบระบบภูมิคุ้มกัน
ขณะที่เรานอนหลับ ระบบภูมิคุ้มกันของเราจะผลิตสารป้องกันและต่อสู้กับการติดเชื้อ เช่น แอนติบอดี (Antibodies) และไซโตไคน์ (Cytokines) เพื่อต่อสู้กับผู้รุกรานจากภายนอก เช่น แบคทีเรียและไวรัส
ไซโตไคน์ (Cytokines) บางชนิดยังช่วยให้เรานอนหลับ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้นในการปกป้องร่างกายจากความเจ็บป่วย ดังนั้นการนอนหลับไม่เพียงพอจึงส่งผลให้ร่างกายไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคจากภายนอกได้ และอาจใช้เวลานานขึ้นในการฟื้นตัวจากความเจ็บป่วย
ผลกระทบระยะยาวของการนอนหลับไม่เพียงพอ
การนอนหลับไม่เพียงพอในระยะยาวอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพหัวใจและการเผาผลาญของร่างกาย โดยมีงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าอาการนอนไม่หลับในระยะยาวอาจเกี่ยวข้องกับโอกาสที่สูงขึ้นของโรคอ้วน โรคเบาหวานประเภท 2 ความดันโลหิตสูง และมะเร็งบางชนิด
นอนน้อยรักษาได้ไหม
การรักษาการอดนอนขั้นพื้นฐานที่สุดคือการนอนหลับให้เพียงพอ ซึ่งโดยทั่วไปคือ 7 ถึง 9 ชั่วโมงในแต่ละคืน
สิ่งนี้มักจะพูดง่ายกว่าทำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณอดนอนมาหลายสัปดาห์หรือนานกว่านั้น แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ เพื่อวินิจฉัยและรักษาความผิดปกติของการนอนหลับที่เป็นไปได้
ความผิดปกติของการนอนหลับอาจทำให้การนอนหลับที่มีคุณภาพในเวลากลางคืนเป็นเรื่องยาก นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อผลกระทบของการอดนอนต่อร่างกายดังที่กล่าวมาข้างต้น
ต่อไปนี้คือความผิดปกติของการนอนหลับประเภทที่พบบ่อยที่สุด:
- ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (obstructive sleep apnea)
- โรคลมหลับ (narcolepsy)
- กลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุข (restless leg syndrome)
- โรคนอนไม่หลับ (insomnia)
- ความผิดปกติของจังหวะเซอร์คาเดียน (circadian rhythm disorders)
...
ในการวินิจฉัยภาวะเหล่านี้ แพทย์อาจสั่งการตรวจการนอนหลับ (sleep test) หากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเกี่ยวกับการนอนหลับ คุณอาจได้รับยาหรืออุปกรณ์เพื่อเปิดทางเดินหายใจในเวลากลางคืน (ในกรณีของภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น) เพื่อช่วยต่อสู้กับความผิดปกติ เพื่อให้คุณนอนหลับได้ดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
ที่มา : Health Line