โรคเบาหวาน เป็นภัยเงียบที่คุกคามสุขภาพคนไทย โดยเฉพาะเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เกิดจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเรื้อรัง หลายคนเข้าใจว่าเบาหวานแค่ทำให้ระดับน้ำตาลสูง แต่ความจริงแล้ว อันตรายของเบาหวานนั้นร้ายแรงกว่านั้นมาก

ทำไมน้ำตาลในเลือดสูงจึงอันตราย

พญ.กฤดากร เกษรคำ แพทย์ American Board of Anti-Aging Medicine จาก Addlife Anti-Aging Center อธิบายเพิ่มเติมว่าปกติแล้ว อินซูลินจะทำหน้าที่พาน้ำตาลในเลือดเข้าสู่เซลล์ต่างๆ แต่เมื่อร่างกายผลิตอินซูลินได้น้อยลง หรือเซลล์ต่างๆ ดื้อต่ออินซูลิน น้ำตาลก็จะคั่งอยู่ในเลือด ส่งผลให้หลอดเลือดอักเสบ ภูมิคุ้มกันต่ำ และนำไปสู่โรคแทรกซ้อนมากมาย เช่น

  • ไตวาย: ไตทำงานหนักเพื่อกรองน้ำตาล ทำให้เกิดภาวะโปรตีนรั่ว นำไปสู่ไตวายในที่สุด
  • ตาบอด: หลอดเลือดในตาเสียหาย เสี่ยงต่อต้อกระจก เลือดออกในตา และตาบอด
  • แผลเรื้อรัง: หลอดเลือดส่วนปลายตีบตัน แผลหายยาก เสี่ยงติดเชื้อ รุนแรงถึงขั้นตัดขา
  • โรคหัวใจ: หลอดเลือดหัวใจตีบ เสี่ยงหัวใจวาย
  • อัมพฤกษ์ อัมพาต: หลอดเลือดสมองตีบหรือแตก
  • ปลายประสาทอักเสบ: ชาปลายมือปลายเท้า
ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...

สัญญาณเตือนโรคเบาหวาน

อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยโรคเบาหวานในระยะแรก ระดับน้ำตาลในเลือดยังไม่สูงมาก แต่มักจะแสดงอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ได้แก่

  • กระหายน้ำ ดื่มน้ำบ่อยกว่าปกติ
  • ปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ หรือปัสสาวะปริมาณมากกว่าปกติ
  • หิวบ่อย กินอาหารมากกว่าเดิม
  • น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • สายตาพร่ามัว มองไม่ชัด
  • รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง
  • มีแผลและแผลหายช้ากว่าปกติ
  • ชา ปวดแสบ ปวดร้อน หรือรู้สึกเหมือนมีมดไต่ที่ปลายมือปลายเท้า
  • ผิวหนังแห้ง คัน

อาการเหล่านี้ไม่ได้จำเพาะว่าต้องเป็นโรคเบาหวานเท่านั้น แต่ควรหมั่นสังเกตอาการตนเองอยู่เสมอ หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและทำการรักษา

กลุ่มเสี่ยงโรคเบาหวาน

  • มีประวัติครอบครัวเป็นเบาหวาน
  • ภาวะอ้วนลงพุง
  • อายุ 40 ปีขึ้นไป
  • มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
  • เคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์
  • เครียด ดื่มสุรา
ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

ดูแลตัวเองอย่างไร ให้ห่างไกลเบาหวาน

  • ควบคุมน้ำหนัก
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ลดหวาน ลดแป้ง
  • ตรวจสุขภาพประจำปี
ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

ดังนั้น การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ ก็จะช่วยลดความเสี่ยง และโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนได้ในอนาคต อีกทั้งยังช่วยให้มีสุขภาพที่ดี ไม่แก่ก่อนวัย เพราะน้ำตาลนับเป็นตัวการที่ทำให้เซลล์เสื่อม