โรคมะเร็งยังคงเป็นหนึ่งในความท้าทายด้านสุขภาพอันดับต้นๆ ของประเทศไทย โดยมีกว่า 180,000 เคสที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2565 และคาดว่าในปี พ.ศ. 2588 จำนวนเคสจะเพิ่มขึ้นทวีคูณ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นอย่างยิ่งในการเพิ่มความตระหนักรู้ การตรวจคัดกรองตั้งแต่เนิ่นๆ และมาตรการเชิงรุกด้านสุขภาพ

ในประเทศไทย โรคมะเร็งที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งปอด และมะเร็งเต้านม ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยและครอบครัวหลายพันรายต่อปี แม้ว่าความก้าวหน้าทางการแพทย์จะช่วยยกระดับผลการรักษาให้ดียิ่งขึ้น แต่การป้องกันและการได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ระยะเริ่มต้นยังคงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ทั้งยังช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น

8 พฤติกรรมลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง

1. เลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทปิ้งย่างและเนื้อสัตว์แปรรูปต่างๆ

ตัวอย่างเช่น หมูปิ้ง เมนูยอดฮิตที่แสนอันตรายจากการย่างผ่านอุณหภูมิสูงทั้งยังเป็นศูนย์รวมของสารก่อมะเร็งต่าง ๆ โดยให้หันมารับประทานเมนู ต้ม ตุ๋น นึ่ง หรือผัด ที่อร่อยไม่แพ้กันแถมยังดีต่อสุขภาพมากกว่า พร้อมทั้งรับประทานผักผลไม้ที่มีประโยชน์และธัญพืชเต็มเมล็ด อิ่มสบายท้องขับถ่ายง่าย

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...

2. ลดเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง

เมนูขวัญใจชาวไทยอย่างเครื่องดื่มประเภทชา หรือน้ำหวานต่างๆ ก็เรียกได้ว่าล้วนแต่เสริมความเสี่ยงต่อโรคอ้วนและการเป็นโรคมะเร็ง ลองทดแทนด้วยเครื่องดื่มที่ไม่ได้มีส่วนประกอบของน้ำตาลสูง และอย่าลืมขยับร่างกายอยู่เสมอ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างดี

3. เลี่ยงการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

การสูบบุหรี่บ่อยๆ หรือแม้แต่แค่การที่ได้รับควันบุหรี่โดยไม่ได้สูบเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งปอด อีกทั้งการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงต่อมะเร็งตับและหลอดอาหารอีกด้วย ดังนั้นการดูแลในเรื่องของปริมาณการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก

4. การปกป้องผิวจากแสงแดด

แดดเมืองไทยไม่เป็นรองใคร ไม่ได้มาแค่ความร้อนแต่ยังพาความเสี่ยงของการเป็นโรคมะเร็งผิวหนังมาด้วย การใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีค่า SPF 30+ ขึ้นไป และต้องมีค่า PA ++++ เพื่อช่วยป้องกันผิวจากแสงแดด อีกทั้งการใส่เสื้อผ้าที่มิดชิดป้องกันแสงแดด หรือหลีกเลี่ยงการไปข้างนอกในช่วงเวลาที่แดดจัดๆ ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น ก็สามารถช่วยได้เช่นกัน

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

5. เลี่ยงการเผชิญมลพิษทางอากาศ

มลพิษทางอากาศของกรุงเทพฯ เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคมะเร็งปอด ดังนั้นควรสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ข้างนอก หรือในพื้นที่ที่มีฝุ่นหนาแน่น ทั้งนี้การมีเครื่องฟอกอากาศในที่พักอาศัยก็สามารถบรรเทาความเสี่ยงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

6. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายนานอย่างน้อยวันละ 30 นาที 5 วันต่อสัปดาห์ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งหลายชนิด อาทิ มะเร็งปอด มะเร็ง เต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งลำไส้ โดยไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายอย่างหนักหน่วง แค่เพียงเล่นโยคะ เดินหรือเต้นแอโรบิก ก็ถือเป็นการออกกำลังกายที่ช่วยต่อสู้กับมะเร็งได้ดีที่สุดเช่นกัน รวมทั้งยังช่วยควบคุมน้ำหนักไม่ให้มีภาวะนำ้หนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนซึ่งเป็นบ่อเกิดของโรคต่างๆ มากมายอีกด้วย

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...

7. พักผ่อนให้เพียงพอ

ผลการศึกษาพบว่าสารเมลาโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สมองผลิตในระหว่างการนอนหลับมีคุณสมบัติในการต่อสู้กับมะเร็ง แต่เมลาโทนินจะช่วยป้องกันมะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อการนอนนั้นเป็นการนอนหลับอย่างสนิทต่อเนื่องในห้องมืดเท่านั้น

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

8. มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย

เพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยไม่เพียงช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เท่านั้น แต่ยังลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญในการเสียชีวิตของผู้หญิงไทยและผู้หญิงทั่วโลก เนื่องจากร้อยละ 70 ของมะเร็งปากมดลูกมีสาเหตุมาจากเชื้อ Human Papillomavirus (HPV) ที่เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งที่ทวารหนักและอวัยวะเพศอีกด้วย 

นอกจากนี้ การตรวจคัดกรองมะเร็งและตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ แต่ความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายมักเป็นสาเหตุให้การรักษาพยาบาลเป็นไปอย่างล่าช้า หลายครอบครัวในประเทศไทยต้องเผชิญกับความตึงเครียดด้านค่าใช้จ่ายหลังจากได้รับการวินิจฉัยโรค ซึ่งทำให้การเตรียมพร้อมด้านการเงินเพื่อการรักษาถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ ดังนั้นการทำประกันเพื่อคุ้มครองค่าใช้จ่ายในยามเจ็บป่วยก็เป็นเรื่องที่ควรให้ความใส่ใจ

...

นางสาวปวีณา เขมะรังสรรค์ ผู้อำนวยการสายงานบริหารลูกค้า บริษัท แอกซ่าประกันภัย จำกัด (มหาชน) เน้นย้ำความสำคัญของการดูแลสุขภาพเชิงรุก เผยว่า "เราเชื่อมั่นว่าการสร้างความตระหนักรู้และส่งเสริมการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน คือกุญแจสำคัญในการลดภาระโรคมะเร็งในประเทศไทย ด้วยการส่งเสริมให้มีการตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอ สนับสนุนการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพ และการสร้างหลักประกันให้ประชาชนเข้าถึงความคุ้มครองในการรักษาพยาบาลโดยปราศจากความกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนให้ครอบครัวไทยสามารถรับมือกับความท้าทายด้านสุขภาพได้อย่างมั่นใจและอุ่นใจ"

ข้อมูลอ้างอิง : โรงพยาบาลเปาโล