ที่ผ่านมาเราอาจเคยเห็นหรือได้ยินข่าวคนดังจำนวนไม่น้อยที่เบื้องหน้าดูเป็นคนสนุกสนานร่าเริง แต่ความจริงแล้วกลับเป็นโรคซึมเศร้ารุนแรง โดยที่หลายคนดูไม่ออกหรือไม่ทันสังเกตความผิดปกตินี้ ซึ่งเรียกว่า “ภาวะซึมเศร้าซ่อนเร้น” หรือ Masked Depression

ข้อมูลจากโรงพยาบาล Bangkok Mental Health Hospital (BMHH) เผยว่าผู้ป่วยโรคซึมเศร้าที่มีภาวะซึมเศร้าซ่อนเร้น (Masked Depression) มักจะไม่แสดงอาการออกมาชัดเจน ภายนอกอาจดูเหมือนคนปกติทั่วไป แต่ภายในจิตใจของผู้ที่มีภาวะนี้เต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน เป็นภาวะที่ผู้ป่วยพยายามซ่อนความรู้สึกและอาการที่แท้จริงของตนเอง เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็นว่าพวกเขากำลังเผชิญกับปัญหาทางอารมณ์

บางครั้งผู้ป่วยอาจไม่แสดงอาการเศร้า หรือรู้สึกว่าตนเองไม่มีคุณค่า แต่พวกเขากลับแสดงออกด้วยการทำกิจกรรมที่ดูเหมือนปกติ เช่น การทำงานหนักเกินไป การมีพฤติกรรมที่ไม่สอดคล้องกับความรู้สึกภายใน หรือการเก็บตัว

อาการของซึมเศร้าซ่อนเร้น

ผู้ที่เป็นซึมเศร้าซ่อนเร้นอาจจะไม่แสดงอาการทางอารมณ์ที่ชัดเจน แต่พวกเขาจะประสบกับอาการทางร่างกายและจิตใจที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจรวมถึง

  • สูญเสียความสนุกสนาน ความสนุกและความพึงพอใจจากกิจกรรมที่เคยทำให้มีความสุขลดน้อยลง เช่น การพบปะเพื่อนฝูง หรือการทำงานอดิเรก
  • อาการเหนื่อยล้า รู้สึกอ่อนเพลีย หรือไม่มีพลังแม้ในกิจกรรมที่ไม่หนักหนา
  • วิตกกังวลและเครียด ความกังวลหรือความเครียดที่ดูเหมือนจะไม่หายไป
  • ความรู้สึกสูญเสีย รู้สึกว่าตนเองไม่มีค่า หรือไม่สามารถทำอะไรได้ตามที่ต้องการ
  • ปัญหาการนอนหลับ บางคนอาจประสบกับการนอนไม่หลับหรือหลับลึกจนตื่นมาไม่สดชื่น

...

นอกจากนี้ คนที่มีภาวะซึมเศร้าซ่อนเร้นอาจพยายามใช้กิจกรรมต่างๆ เช่น การทำงานหรือการเข้าสังคม เพื่อหลีกหนีจากความรู้สึกเศร้าและวิตกกังวล แต่ในความจริง พวกเขายังคงต่อสู้กับภาวะเศร้าและวิตกกังวลอยู่ภายใน

ทำไมภาวะซึมเศร้าซ่อนเร้นจึงอันตราย

เนื่องจากอาการของซึมเศร้าซ่อนเร้นไม่ปรากฏอย่างชัดเจน จึงมักถูกมองข้ามหรือไม่ถูกตรวจพบโดยคนรอบข้าง แม้ว่าผู้ป่วยจะพยายามใช้วิธีต่างๆ ในการปกปิดอาการ แต่ภาวะนี้สามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตได้อย่างรุนแรง ทั้งด้านการทำงาน ความสัมพันธ์ และสุขภาพจิตโดยรวม หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

การรักษาภาวะซึมเศร้าซ่อนเร้น

การรักษาซึมเศร้าซ่อนเร้นจำเป็นต้องใช้วิธีการทางจิตเวชอย่างครบวงจร โดยเฉพาะการบำบัดทางจิตใจ (Psychotherapy) และการใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยสามารถจัดการกับความรู้สึกภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างทักษะในการรับมือกับความเครียดและความวิตกกังวล

สัญญาณที่ควรสังเกต

หากคุณหรือคนใกล้ชิดมีอาการที่อาจบ่งบอกถึงซึมเศร้าซ่อนเร้น ควรติดต่อผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำปรึกษา ซึ่งสัญญาณที่ควรระวัง ได้แก่

  • การหลีกเลี่ยงสังคมและกิจกรรมที่เคยชอบ
  • ความรู้สึกสิ้นหวังหรือไม่มีคุณค่า
  • การแสดงพฤติกรรมที่ผิดปกติ เช่น ทำงานหนักเกินไป
  • ความเครียดและวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้น

หากพบว่าตนเองหรือคนใกล้ชิดมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาเพื่อให้สามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข