ช่วงเทศกาลตรุษจีนที่กำลังมาถึงนี้ หลายคนคงกำลังเตรียมตัวพบปะครอบครัว เพื่อไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับและเฉลิมฉลองกับอาหารอันหลากหลายที่เต็มไปด้วยความหมายและรสชาติ แต่หากมองในเรื่องของสุขภาพแล้ว อาหารไหว้วันตรุษจีนอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายจากอาหารไหว้บางเมนูที่อาจส่งผลเสียต่อร่างกายก่อให้เกิดโรคต่างๆ รวมถึงโรคมะเร็ง
นายแพทย์จิรภัทร วิวิธเกยูรวงศ์ อายุรแพทย์ชำนาญการด้านมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า อาหารในเทศกาลตรุษจีน อาหารเสริมมงคลความหมายดีที่มาพร้อมรสชาติทั้งหวาน มัน และเค็ม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการเฉลิมฉลองในช่วงนี้ แต่หากรับประทานอาหารเหล่านี้อย่างต่อเนื่องหรือบ่อยครั้ง อาจทำให้ร่างกายสะสมสารบางชนิดที่อาจเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะการสะสมสารที่อาจก่อให้เกิดโรคมะเร็ง เมนูบางชนิดที่มีส่วนผสมหรือวิธีการปรุงที่อาจเสี่ยงต่อการสะสมสารก่อมะเร็ง เช่น การใช้สารกันบูด, น้ำมันทอดซ้ำ ทั้งนี้ควรทานอย่างมีสติและเลือกเมนูที่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว โดยมีเมนูที่ต้องระวัง ดังนี้
- เมนูอาหารทอด : เมนูอาหารทอดที่ผ่านทอดด้วยการใช้น้ำมันซ้ำๆ หรือทอด ปิ้งย่างจนไหม้เกรียม อาจก่อให้เกิดสารก่อมะเร็ง
- ถั่วธัญพืช : มีความเสี่ยงปนเปื้อนเชื้อรา หากอบไม่แห้งพอ หรือเก็บรักษาไม่ดี เช่น ชื้นเกินไป ก่อให้เกิดสารอะฟลาท็อกซิน หากสะสมในร่างกายมาก ๆ จะเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตับ
- หมูแผ่น, หมูหยอง, หมูเค็ม : เนื่องจากกระบวนการผลิตอาจใช้สารเคมี เช่น สารกันบูด และไนเตรต ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดมะเร็ง
...
วิธีการลดความเสี่ยงจากอาหารในเทศกาลตรุษจีน
- ปรุงอาหารให้สดใหม่ ทำอาหารสดใหม่และหลีกเลี่ยงการใช้สารกันบูดหรือสารปรุงแต่งที่อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็ง
- เลือกวิธีการปรุงอย่างการนึ่ง, ต้ม, อบ แทนการทอด หรือย่าง ที่อาจก่อสารก่อมะเร็ง
- ลดการทานอาหารแปรรูป ทานอาหารที่สดและมีส่วนผสมจากธรรมชาติแทนอาหารที่ผ่านกระบวนการแปรรูปหรือการหมักที่มีสารเคมี
- เลือกทานอาหารที่สดสะอาด หลีกเลี่ยงการทานอาหารที่เก็บไว้นานเกินไปหรือสัมผัสกับอากาศและอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม
โดยแนะนำให้เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่พอเหมาะและหลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล ไม่ว่าจะเป็นมื้ออาหารประจำวัน หรือมื้อสำคัญในเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลตรุษจีน โดยควรให้ความสำคัญกับการเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ เช่น ผักผลไม้สด เนื้อสัตว์ที่ไม่ผ่านการแปรรูป หรือธัญพืชต่างๆ ที่มีประโยชน์ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคจากอาหาร นอกจากการเลือกอาหารที่ดีแล้ว การล้างวัตถุดิบให้สะอาดและการปรุงอาหารให้สุกทุกครั้งก็เป็นสิ่งสำคัญ ป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรค หรือสารพิษที่อาจสะสมในอาหาร เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างเต็มที่
ควันจากการไหว้เจ้าก่อมะเร็งปอด
นอกจากการระมัดระวังการรับประทานอาหารไหว้เพื่อลดความเสี่ยงจากมะเร็งแล้ว นายแพทย์ธเนศ เดชศักดิพล อายุรแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งวิทยา โรงพยาบาลเวชธานี เผยว่าควันที่เกิดจากการจุดธูป, เผากระดาษเงิน กระดาษทอง, และการจุดประทัด ทำให้เกิดควันที่มีสารมลพิษ และมีความเสี่ยงเกิดโรคมะเร็งปอดไม่แตกต่างจากควันบุหรี่
เนื่องจากการเผาไหม้ของควันธูป ประทัด และกระดาษจะทำให้เกิดอนุภาคฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน ประกอบกับในธูปยังพบสารก่อมะเร็งมากถึง 3 ชนิด ได้แก่ เบนซีน บิวทาไดอีน และเบนโซเอไพรีน ผู้ที่ได้รับสัมผัสเป็นเวลานานจึงเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้าย โดยเฉพาะโรคมะเร็งปอดได้ รวมทั้งยังมีสารที่เป็นมลพิษอื่นๆ เช่น ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ ผู้ที่สูดดมเข้าไปจะเกิดการระคายเคืองในระบบทางเดินหายใจ และแสดงอาการดังต่อไปนี้
- ไอ
- จาม
- ระคายคอ
- หายใจลำบาก
- ปวดศีรษะ
- หากควันธูปเข้าตาก็ทำให้แสบตา น้ำตาไหล
ถึงแม้งานวิจัยทั่วไปจะระบุไว้ ว่าต้องมีการสัมผัสหรือสูดดมเป็นระยะเวลานานติดต่อกัน 10 ปี แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น พันธุกรรม หรือระบบการระบายอากาศในสถานที่จุดธูป ประทัด และเผากระดาษ หากระบบการถ่ายเทอากาศไม่ดี ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
กลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวัง
เมื่อมีการจุดธูป ประทัด หรือเผากระดาษ ได้แก่ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่ป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคปอด โรคถุงลมโป่งพอง หรือหลอดลมอักเสบเรื้อรัง เพราะบุคคลกลุ่มนี้มีกลไกการต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายไม่เหมือนปกติ ทำให้มีโอกาสเกิดอาการผิดปกติได้มากกว่าในกลุ่มคนที่มีสุขภาพดี
“การทำพิธีต่างๆ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันมาเนิ่นนาน เพราะฉะนั้นอยากจะแนะนำว่า ควรหลีกเลี่ยงการจุดธูปในที่ที่อากาศถ่ายเทไม่สะดวก หันมาใช้ธูปที่มีขนาดสั้นลง ดับหรือเก็บธูปให้เร็วขึ้น ก็จะช่วยลดโอกาสสัมผัสหรือสูดดมในระยะเวลานานได้ นอกจากนี้ควรใช้ผ้าเช็ดหน้าหรือหน้ากากอนามัยปิดปากและจมูก เพื่อป้องกันการรับฝุ่นควันโดยตรง” นายแพทย์ธเนศกล่าว
...