ความเจ็บป่วยทางจิตใจนั้นมีหลายรูปแบบและมีวิธีการรักษาที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดย EMDR เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาจิตบำบัดที่ได้รับการยอมรับในระดับโลกว่ามีประสิทธิภาพสูงที่ช่วยลดอาการเจ็บป่วยทางจิตใจได้เป็นอย่างดี
EMDR คืออะไร
EMDR มาจากคำว่า Eye Movement Desensitization and Reprocessing เป็นรูปแบบหนึ่งของจิตบำบัดที่ได้รับการยอมรับจากองค์การอนามัยโลก (WHO) และสมาคมจิตแพทย์อเมริกัน (APA) ว่ามีประสิทธิภาพในการรักษาอาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเครียดหรือความวิตกกังวล มุ่งเน้นไปที่การลดการถูกกระตุ้นจากความทรงจำที่ไม่พึงปรารถนาหรือตัวกระตุ้นอื่นๆ ที่ทำให้เกิดความเครียดหรือความวิตกกังวล
โดยอาศัยหลักการการกระตุ้นประสาทสัมผัสสองด้านพร้อมกัน เช่น การกะพริบตา การกลอกตา การฟังเสียงสลับข้าง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นระบบประสาทให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยให้สมองสามารถประมวลผลความทรงจำที่กระทบกระเทือนจิตใจได้อย่างถูกต้อง
...
ในการบำบัดแบบ EMDR ผู้รับการบำบัดจะนึกถึงเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ ในขณะที่นักบำบัดจะกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้งสองด้านของผู้รับการบำบัด โดยใช้อุปกรณ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ปล่อยแสงกะพริบ อุปกรณ์สั่นสะเทือน หรือเสียงสลับข้าง
การบำบัดแบบ EMDR มักใช้เวลาเพียงไม่กี่ครั้งก็สามารถเห็นผลได้ โดยผลลัพธ์ของการบำบัดอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่โดยทั่วไปแล้ว EMDR สามารถช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD) เช่น ความหวาดกลัว ความวิตกกังวล ความซึมเศร้า และปัญหาการนอนหลับได้
อย่างไรก็ตาม การบำบัดด้วย EMDR ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ทุกๆ สองสามปี การบำบัดนี้จะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในฐานะวิธีการจัดการกับความเจ็บปวดทางจิตใจ เช่น ซีรีส์สารคดีเรื่อง The Me You Can't See ของเจ้าชายแฮร์รี ที่ดำเนินรายการโดยโอปราห์ วินฟรีย์ ที่สตรีมทาง Apple TV+ ในปี 2564 โดยเจ้าชายแฮร์รีได้เปิดใจเกี่ยวกับรูปแบบการบำบัดอันเป็นเอกลักษณ์นี้ที่ช่วยให้เขาสามารถรับมือกับความเจ็บปวดในวัยเด็กและการสูญเสียแม่ของเขา เจ้าหญิงไดอาน่าอย่างเจ็บปวดได้
EMDR เป็นการบำบัดที่ผสมผสานความรู้เชิงลึกด้านจิตวิทยาขั้นสูงสุดเข้ากับการค้นพบล่าสุดของประสาทวิทยา เพื่อช่วยให้ผู้คนสามารถค้นหาต้นตอของปัญหาต่างๆ เช่น ความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า ความบอบช้ำทางใจ และแม้แต่โรคกลัวได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงเปลี่ยนความกังวลนั้นไปสู่ระดับที่ลึกกว่าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน Annalise Oatman นักจิตบำบัดที่ได้รับใบอนุญาตและได้รับการฝึกอบรมด้าน EMDR อธิบายว่า
“เดิมที EMDR ถูกสร้างขึ้นเพื่อรักษาอาการบอบช้ำทางใจ และถือเป็นมาตรฐานการบำบัดรักษาบาดแผลทางใจ แต่จากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากพบว่า EMDR มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาปัญหาทางคลินิกต่างๆ” เธออธิบาย
EMDR ได้รับการพัฒนาขึ้นในปี 1987 โดย Francine Shapiro นักจิตวิทยา “เธอค้นพบผลกระทบของการเคลื่อนไหวดวงตาโดยธรรมชาติ และพัฒนากระบวนการที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบของการเคลื่อนไหวดวงตา”
...
ดร. Angela Kenzslowe นักจิตวิทยาคลินิก ผู้เชี่ยวชาญด้าน PTSD บาดแผลทางใจ และความวิตกกังวล กล่าวว่าในปี 1989 การศึกษาวิจัยแบบควบคุมครั้งแรกได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Journal of Traumatic Stress ต่อมาในปี 1990 พบว่าการกระตุ้นสองข้างในรูปแบบอื่น เช่น การเคาะและการเปล่งเสียงก็มีผลในเชิงบวกเช่นกัน โดยองค์กรและหน่วยงานระดับมืออาชีพหลายแห่งได้จัดให้ EMDR เป็นจิตบำบัดที่มีประสิทธิภาพสำหรับ PTSD รวมถึง American Psychiatric Association, American Psychological Association และอื่นๆ อีกมากมาย
“เมื่อบุคคลได้รับบาดแผลทางจิตใจเพียงครั้งเดียว โดยทั่วไปแล้ว หลังจากเข้ารับการบำบัด 3-6 ครั้ง อาการจะทุเลาลง 77-100% ขณะที่ผู้ป่วยที่ได้รับบาดแผลทางจิตใจหลายครั้งจะต้องเข้ารับการบำบัดประมาณ 12 ครั้ง เช่น บาดแผลทางจิตใจจากการต่อสู้”
การบำบัดจิตใจด้วย EMDR ต่างจากวิธีอื่นอย่างไร
การบำบัดด้วย EMDR ไม่จำเป็นต้องพูดคุยอย่างละเอียดเกี่ยวกับปัญหาที่ทำให้เกิดความทุกข์ใจหรือทำการบ้านให้เสร็จระหว่างการบำบัด แต่จะมุ่งเน้นไปที่การเปลี่ยนแปลงอารมณ์ ความคิด หรือพฤติกรรมที่เกิดจากปัญหาที่ทำให้เกิดความทุกข์ใจ ช่วยให้สมองกลับมาดำเนินกระบวนการรักษาตามธรรมชาติได้อีกครั้ง
...
การบำบัดด้วย EMDR ออกแบบมาเพื่อแก้ไขความทรงจำอันเลวร้ายที่ไม่ได้รับการประมวลผลในสมอง จึงทำให้ผู้ป่วยหลายคนที่ได้รับการบำบัดวิธีนี้ได้ผลดีขึ้นจากการบำบัดเพียงไม่กี่ครั้ง
EMDR เหมาะกับใคร
การบำบัดจิตใจด้วยวิธี EMDR สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทุกเพศทุกวัยที่มีอาการเจ็บป่วยทางจิตใจในรูปแบบต่างๆ เช่น ความวิตกกังวล อาการตื่นตระหนก และโรคกลัว ภาวะซึมเศร้าและโรคอารมณ์สองขั้ว โรคการกิน ความเศร้าโศกและการสูญเสีย ความเจ็บปวด ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแสดง ความผิดปกติทางบุคลิกภาพ โรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ (PTSD) และปัญหาทางจิตใจและความเครียดอื่นๆ การล่วงละเมิดทางเพศ การนอนไม่หลับ การใช้สารเสพติดและการติดยา รวมถึงความรุนแรงและการล่วงละเมิด
ดังนั้น การบำบัดด้วย EMDR จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มีภาวะเจ็บป่วยทางจิตใจ ซึ่งสำคัญไม่น้อยไปกว่าการเจ็บป่วยทางกายอื่นๆ
...
ข้อมูลอ้างอิง: โรงพยาบาล BMHH, Parade, The EMDR International Association (EMDRIA)