หัวใจ เป็นหนึ่งในอวัยวะสำคัญของร่างกายที่ทำงานอยู่ตลอดเวลาเพื่อสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงทุกส่วนให้ทำงานได้อย่างราบรื่น แต่บางครั้งอาจมีวันที่เต้นผิดปกติ ไม่ว่าจะเต้นเร็วหรือช้าเกินไป หรือเต้นไม่สม่ำเสมอ ซึ่งอาการเหล่านี้สังเกตได้ยากจากภายนอก บางคนกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่รู้สึกอ่อนเพลียและใจสั่น หรือเจ็บแน่นหน้าอก หรือบางทีก็ถึงขั้นหน้ามืดเป็นลมไป ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของ "โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ" ภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ทำให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้ไม่เต็มที่ และหากปล่อยไว้นาน อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนมากมาย

นายแพทย์ศรัณย์พงศ์ ภิบาลญาติ อายุรแพทย์ผู้ชำนาญการโรคหัวใจ ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด รพ.วิมุต เผยถึงอาการของโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ พร้อมบอกแนวทางป้องกันและรักษา เพื่อให้ทุกคนได้รู้ทันโรคและรับมือได้ทันท่วงที

โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม

โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ (Cardiac Arrhythmia) เกิดจากความผิดปกติของจุดกำเนิดกระแสไฟฟ้าในหัวใจ หรือกระแสไฟฟ้าในหัวใจวิ่งลัดวงจร อาจทำให้ทั้งหัวใจเต้นเร็วหรือช้าเกินไปกว่าปกติ หัวใจเต้นช้าสลับเร็ว รวมถึงมีคลื่นไฟฟ้าหัวใจเต้นแทรกขึ้นมาเป็นครั้งคราว ส่งผลให้หัวใจทำงานได้ไม่เต็มที่ เกิดการไหลเวียนของเลือดไม่ปกติ โดยลักษณะทั่วไปของภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะสามารถแบ่งได้ 3 แบบ ได้แก่

  • หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไร หรือเต้นช้ามากกว่าปกติ จนวิงเวียนหรือถึงกับจะเป็นลม
  • หัวใจเต้นแรงขึ้นจนรู้สึกใจสั่นหรือเต้นสะดุด
  • หัวใจเต้นระรัว จนรู้สึกไม่สม่ำเสมอ

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...

นพ.ศรัณย์พงศ์ ภิบาลญาติ กล่าวเสริมว่า "หัวใจเต้นช้ามากกว่าปกติ ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่เกิดขึ้นได้ แต่พบได้น้อยกว่า เพราะมักเกิดในผู้สูงอายุ โดยไม่ว่าจะเต้นเร็วและเต้นช้ากว่าปกติก็ถือว่าอันตราย เพราะในระยะยาวอาจเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน ได้แก่ โรคหัวใจล้มเหลวทั้งเฉียบพลันและเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมองตีบ และเพิ่มโอกาสในการเสียชีวิตจากโรคหัวใจ"

อาการโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ

  • มีอาการใจสั่น เหนื่อยง่าย
  • เวียนหัวตาลาย
  • เจ็บแน่นหน้าอก
  • บางคนก็ถึงขั้นหน้ามืดเป็นลม

“หากมีอาการเหล่านี้ก็ถือว่าอาจเข้าข่ายโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ควรเข้ามาตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด เพื่อหาความผิดปกติ แพทย์จะได้รู้ตำแหน่งของการเต้นที่ผิดจังหวะอย่างชัดเจนและหาแนวทางการรักษาได้อย่างถูกต้อง" นพ.ศรัณย์พงศ์ ภิบาลญาติ อธิบาย

ปัจจัยและสัญญาณเสี่ยง "โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ"

ปัจจัยเสี่ยงภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจเกิดจากพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น

  • ภาวะเครียดสะสม
  • พักผ่อนน้อย
  • ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง เช่น ชา กาแฟ น้ำอัดลม
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไขมันในเลือดสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคกล้ามเนื้อหัวใจหนาตัว
  • ผู้ที่มีภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ ก็เสี่ยงต่อโรคนี้มากกว่าคนปกติ

นอกจากนี้ โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ อาจเกิดกับผู้ที่มีหัวใจพิการแต่กำเนิดหรือโรคหัวใจทางพันธุกรรม ที่ส่งผลให้มีการนำไฟฟ้าผิดปกติหรือหัวใจเต้นผิดจังหวะ

โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันตรายที่ป้องกันและรักษาได้

การป้องกันภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ทำได้โดยการปรับพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน คือ หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงเพื่อช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคได้ เช่น

  • การดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีน และแอลกอฮอล์
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
  • ตรวจสุขภาพเป็นประจำ

ส่วนผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ แพทย์จะรักษาตามอาการและชนิดของโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะในแต่ละคน ซึ่งการตรวจวินิจฉัย มีหลายวิธี เช่น

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

  • การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะพัก
  • เครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบพกพาเป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง
  • อัลตร้าซาวนด์หัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง
  • เครื่องบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะมีอาการแบบ 7 หรือ 14 วัน
  • การตรวจสมรรถภาพหัวใจ
  • การทดสอบภาวะการเป็นลมหมดสติด้วยเตียงปรับระดับ

"เมื่อทราบรายละเอียดของโรค แพทย์จะเลือกวิธีการรักษาให้เหมาะกับแต่ละคน มีตั้งแต่การใช้ยาเพื่อควบคุมการเต้นของหัวใจที่เร็วมากเกินไป และการใช้กระแสไฟฟ้าหรือคลื่นวิทยุเพื่อปรับการเต้นของหัวใจให้ปกติ รวมถึงการใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ กรณีหัวใจเต้นช้าเกินไป" นพ.ศรัณย์พงศ์ ภิบาลญาติ กล่าวเสริม

...

สำหรับผู้ที่มีอาการเข้าข่ายภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ควรเข้ามาตรวจกับแพทย์อย่างละเอียด เพราะอาการของผู้ป่วยโรคนี้แตกต่างกันไปในแต่ละคน จะได้หาแนวทางการรักษาได้ถูกต้อง แม้ว่าโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะอาจเป็นภัยเงียบ แต่เราลดความเสี่ยงของโรคได้ด้วยการดูตัวเองให้แข็งแรง นอนให้พอ และกินให้ครบห้าหมู่ เพราะหัวใจเป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญต่อร่างกาย จึงควรดูแลหัวใจของตัวเองให้ดี ร่างกายของเราจะได้แข็งแรงอยู่เสมอ