จากการที่ดาราสาวโบกี้ไลอ้อน เผยว่า ตนเองป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท เพราะชอบนั่งไขว่ห้าง และนั่งเป็นเวลานาน ทำให้หลายคนเกิดความสนใจว่าโรคนี้มีอาการอย่างไร และมีวิธีรักษาอย่างไรบ้าง

โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทเกิดจากอะไร

โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท หรือ Piriformis Syndrome เกิดจากกล้ามเนื้อพิริฟอร์มิสบริเวณก้นใกล้กับสะโพกไปกดทับเส้นประสาทไซอาติกที่อยู่ใกล้กัน ส่งผลให้รู้สึกปวดลึกๆ บริเวณก้นร้าวไปยังขาด้านหลัง ลักษณะเหมือนไฟช็อตหรือแสบร้อน และรู้สึกเจ็บเมื่อกดในบริเวณดังกล่าว อาจมีอาการชาหรือเป็นตะคริวร่วมด้วย ซึ่งอาการจะรุนแรงมากขึ้นเมื่อนั่ง หรือยืนท่าเดิมเป็นระยะเวลานานๆ

อาการโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท

  • ปวดสะโพกหรือก้นเรื้อรัง
  • ปวดสะโพกหรือก้นเวลาจะลุกหลังตื่นนอน
  • ไม่สามารถนั่งนานๆ ได้ เนื่องจากอาการปวด
  • อาการปวดสะโพกหรือก้นมักเป็นมากขึ้นเวลาขยับข้อสะโพก

อาการที่พบคือรู้สึกปวดลึกๆ บริเวณก้นร้าวไปยังขาด้านหลัง ลักษณะเหมือนไฟช็อตหรือแสบร้อน และรู้สึกเจ็บเมื่อกดในบริเวณดังกล่าว อาจมีอาการชาหรือเป็นตะคริวร่วมด้วย (ภาพจาก iStock)
อาการที่พบคือรู้สึกปวดลึกๆ บริเวณก้นร้าวไปยังขาด้านหลัง ลักษณะเหมือนไฟช็อตหรือแสบร้อน และรู้สึกเจ็บเมื่อกดในบริเวณดังกล่าว อาจมีอาการชาหรือเป็นตะคริวร่วมด้วย (ภาพจาก iStock)

...

เมื่อตรวจร่างกาย ผู้ป่วยมักมีอาการปวดสะโพกร้าวลงต้นขาด้านหลัง ในบางรายอาจร้าวลงถึงข้อเท้า ร่วมกับพบจุดกดเจ็บบริเวณก้น และอาการจะเป็นมากขึ้นเมื่อให้ผู้ป่วยงอสะโพก หุบสะโพก และบิดต้นขาเข้าด้านในพร้อมกัน

กลุ่มเสี่ยงโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท

  • ผู้ที่หักโหมออกกำลังกายมากเกินไป
  • ผู้ที่ชอบวิ่งหรือทำกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวขาอย่างต่อเนื่องติดกันนานๆ
  • ผู้ที่นั่งเป็นเวลานานๆ นั่งบนพื้นผิวแข็งๆ บ่อยๆ
  • ผู้ที่ยกของหนักเป็นประจำ
  • ผู้ที่เคยมีอาการกล้ามเนื้อสะโพกอักเสบ
  • ผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบต่อกล้ามเนื้อสะโพก เช่น ลื่นล้ม ตกบันได จักรยานล้ม

วิธีรักษาโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท

โรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท สามารถทำการรักษาได้หลายวิธีตั้งแต่การกินยา การฉีดยา การทำกายภาพบำบัด ไปจนถึงการผ่าตัด แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการปรับพฤติกรรมของตนเองร่วมด้วยเพื่อให้ผลการรักษาดีขึ้น เช่น

  • หลีกเลี่ยงการใช้งานกล้ามเนื้อบริเวณนี้ เช่น การยืนหรือการนั่งท่าเดิมเป็นเวลานานๆ
  • การใช้ยา เช่น ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาแก้อักเสบกลุ่ม NSAIDs
  • การกายภาพบำบัด เช่น การยืดกล้ามเนื้อ การนวด การใช้เครื่องมือทางกายภาพ
  • การลงเข็มคลายกล้ามเนื้อเฉพาะจุด
  • การฉีดยาเพื่อคลายปมกล้ามเนื้อพิริฟอร์มิส
  • การฉีดสเตียรอยด์ ยาชา
  • การฉีดโบท็อกซ์
  • การฉีดสารละลายกลูโคส

หากการใช้ยาและการทำกายภาพบำบัดไม่ได้ผล อาจต้องพิจารณาการผ่าตัดเพื่อลดการกดเบียดหรือสลายพังผืดบริเวณรอบๆ เส้นประสาทไซอาติก ซึ่งผู้ป่วยบางรายอาจจะยังมีอาการของโรคแม้ไม่ได้รับการผ่าตัดไปแล้ว

การนั่งทำงานหรือนั่งขับรถนานๆ ก็ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทได้ (ภาพจาก iStock)
การนั่งทำงานหรือนั่งขับรถนานๆ ก็ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาทได้ (ภาพจาก iStock)

โดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะมีอาการดีขึ้นหลังการลงเข็มคลายกล้ามเนื้อเฉพาะจุด หรือการฉีดยาเพื่อคลายปมกล้ามเนื้อ (trigger point injection) ร่วมกับการทำกายภาพบำบัดและมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำค่อนข้างต่ำในผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดอาจใช้เวลา 2-3 เดือนเพื่อฟื้นตัว

สำหรับท่าบริหารเพื่อบรรเทาอาการปวดจากกล้ามเนื้อสะโพกหนีบเส้นประสาท สามารถทำได้ดังต่อไปนี้

  • ให้นอนราบกับพื้นแล้วชันเข่าขึ้นทั้ง 2 ข้าง
  • ยกข้อเท้าซ้ายมาวางพาดไว้บนเข่าขวา
  • ใช้มือดึงเข่าขวาเข้าหาอกแล้วค้างไว้ นับ 1-10
  • วางขากลับไปชันเข่าเช่นเดิม
  • สลับมายกข้อเท้าขวามาวางพาดไว้บนเข่าซ้าย แล้วทำซ้ำในลักษณะเดียวกัน
  • เมื่อทำครบทั้งซ้ายและขวา ให้นับเป็น 1 เซต
  • ทำเช่นนี้ต่อเนื่อง 5-10 เซต ก็จะช่วยบรรเทาอาการปวดลงได้

...

ข้อมูลอ้างอิง : แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร, โรงพยาบาลพญาไท