ร้อนใน” แผลภายในช่องปากที่สร้างความลำบากและทรมานให้กับใครหลายๆ คน โดยเฉพาะขณะที่กำลังพูดคุย กินข้าว หรือแม้แต่การกลืนน้ำลาย เพราะอาจจะเกิดอาการเจ็บ หรือระคายเคืองบริเวณแผลได้

ไทยรัฐออนไลน์พาทำความรู้จัก ร้อนในเกิดจากอะไร รักษาอย่างไรได้บ้าง รวมไปถึงวิธีป้องกันร้อนในในเบื้องต้นมาฝาก

ทำความรู้จัก "ร้อนใน" เกิดจากอะไรได้บ้าง

ร้อนใน คือ แผลที่เกิดขึ้นบริเวณรอบๆ ปาก มีสีขาว รอบๆ มีสีแดงจากอาการระคายเคือง ส่วนใหญ่มีลักษณะกลม ขนาดตั้งแต่ 1 มิลลิเมตร เป็นต้นไป ซึ่งสาเหตุที่พบได้บ่อยของอาการร้อนใน มีดังนี้

  • ร่างกายขาดสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น วิตามินบี 12 หรือธาตุเหล็ก
  • การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะเพศหญิงในช่วงที่มีรอบเดือน
  • เชื้อไวรัส หรือแบคทีเรียสะสมภายในช่องปาก
  • ความเครียด หรือความวิตกกังวลที่จะส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอ
  • นอนน้อย หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • ติดอุปกรณ์จัดฟันในช่องปากที่อาจจะทำให้ต้องกัดริมฝีปาก กระพุ้งแก้ม หรือเกิดกดทับบ่อยๆ
  • แพ้สารบางชนิดในยาสีฟัน
  • แพ้อาหารบางชนิด เช่น ช็อกโกแลต ถั่ว ชีส

...

รู้จัก “อาการร้อนใน” ก่อนเตรียมรักษาอย่างถูกวิธี

ลักษณะอาการของร้อนคือ จะมีตุ่มใสสีขาว บริเวณรอบๆ ตุ่มมีสีแดง และจะมีอาการเจ็บเมื่อต้องขยับปาก กินข้าว หรือพูดคุย ส่วนใหญ่มักขึ้นบริเวณลิ้น กระพุ้งแก้ม เหงือก หรือริมฝีปากด้านใน

อย่างไรก็ดี อาการร้อนในก็อาจจะเป็นระยะเริ่มแรกของมะเร็งช่องปากได้ ดังนั้น หากพบว่ามีแผลร้อนในขนาดใหญ่ หลายจุด และลุกลามเรื่อยๆ แนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยเร็ว

เป็นร้อนในกี่วันหาย รักษาร้อนในอย่างไรได้บ้าง

อาการร้อนในส่วนใหญ่จะหายเองตามธรรมชาติ โดยอาจจะใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ ซึ่งวิธีการรักษาในเบื้องต้น มีดังนี้

  • ใช้น้ำยาบ้วนปากอ่อนๆ เพื่อขจัดแบคทีเรียและเชื้อไวรัส และหลีกเลี่ยงน้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
  • เลือกใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม เพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดแผลภายในปาก
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีรสจัด ของทอด ของมัน หรืออาหารแข็ง
  • การกินหรือทายาเพื่อบรรเทาอาการอักเสบ
  • หากอาการรุนแรงแนะนำให้ใช้ยาปฏิชีวนะร่วมด้วย ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

วิธีป้องกันร้อนในในเบื้องต้นทำอย่างไรได้บ้าง

วิธีป้องกันอาการร้อนในสามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของตนเอง ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการกินอาหารรสจัด ของทอด ของมัน หรืออาหารที่มีรสเผ็ดร้อน ที่อาจส่งผลต่อการกระตุ้นให้เกิดอาการอักเสบ รวมไปถึงอาหารบางประเภท เช่น ลำไย ทุเรียน
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นอกจากจะช่วยให้อาการดีขึ้น ยังดีต่อสุขภาพร่างกายตนเองอีกด้วย
  • พักผ่อนให้เพียงพอ นอนอย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง เพื่อฟื้นฟูร่างกาย และสร้างภูมิคุ้มกันที่ดี
  • หลีกเลี่ยงการตกอยู่ในสภาวะเครียด หากิจกรรมหรืองานอดิเรกที่ตนเองชื่นชอบ เพื่อช่วยลดความเครียดของตนเอง
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
  • ดูแลสุขภาพช่องปากอยู่เสมอ เช่น การบ้วนปาก หรือแปรงฟัน เพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย

ร้อนในสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ แม้ว่าในช่วงแรกอาการร้อนในอาจส่งผลให้การเจ็บปวด หรือระคายเคืองจนสร้างความรำคาญใจ แต่ก็ไม่ได้นับว่าเป็นโรคร้ายแรง หากรักษาอย่างถูกวิธีก็จะช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้