โลหะหนัก คือ โลหะที่มีความถ่วงจําเพาะมากกว่าน้ำ 5 เท่าขึ้นไป มีอัตราการสลายตัวค่อนข้างช้า จึงสามารถสะสมอยู่ในสิ่งแวดล้อมทั่วไป และ “ไม่ว่าเราจะดูแลตัวเองดีแค่ไหน ก็เสี่ยงมีโลหะหนักในร่างกายโดยไม่รู้ตัวอยู่ดี”
เพราะโลหะหนักอาจปนเปื้อนอยู่ในทุกที่รอบตัว ไม่ว่าจะในอากาศ อย่างฝุ่นควันจากท่อไอเสียรถยนต์ หรือจากโรงงานอุตสาหกรรม อาหารที่มีการปนเปื้อนอย่างอาหารทะเล ผักผลไม้สดที่อาจมียาฆ่าแมลงหลงเหลืออยู่ ในน้ำดื่ม รวมไปถึงเครื่องสำอาง การได้รับสารพิษจากแหล่งเหล่านี้ทีละน้อยอาจจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในทันที แต่เมื่อใดก็ตามที่มีสารพิษตกค้างอยู่ในร่างกายมากเกินไป ย่อมส่งผลร้ายกับสุขภาพอย่างแน่นอน
สารโลหะหนักที่พบบ่อย พบได้ที่ไหนบ้าง?
สารโลหะหนักที่พบได้บ่อย ประกอบไปด้วย
1. อะลูมิเนียม มักปนเปื้อนอยู่ในดิน ฝุ่นละออง น้ำดื่ม อาหาร ภาชนะบรรจุต่างๆ รวมไปถึงยาบางชนิด
2. สารหนู มักปนเปื้อนอยู่ในผัก ผลไม้ อาหารทะเล ยาแผนโบราณที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับหนังและโลหะ
3. ปรอท พบมากในแหล่งที่มีการเผาไหม้น้ำมันเชื้อเพลิง โลหะ โรงงานผลิตพลาสติก โรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์
4. ตะกั่ว พบได้ในแหล่งอุตสาหกรรมทั่วไป โดยมักปนเปื้อนอยู่ในดิน น้ำ และอากาศ
5. แคดเมียม พบได้ในแหล่งอุตสาหกรรม ยาสูบ บุหรี่ พลาสติก และยาง
...
อาการแบบไหน? อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าร่างกายมีโลหะหนักตกค้างมากเกินไป
- อ่อนเพลีย ไม่สดชื่น
- นอนไม่หลับ นอนหลับไม่สนิท
- สมองตื้อ ไม่มีสมาธิ คิดอะไรไม่ค่อยออก
- ผื่น ลมพิษ
- เป็นตะคริวบ่อย ชาตามปลายมือปลายเท้า
นอกจากนี้ การมีโลหะหนักตกค้างในร่างกายมากเกินไป จะเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคมะเร็ง ได้อีกด้วย
เสี่ยงพิษจากโลหะหนักหรือไม่? รู้ได้ด้วยการตรวจ
การตรวจสารพิษโลหะหนักในร่างกาย สามารถทำได้ด้วยการตรวจเลือดและตรวจปัสสาวะ เป็นวิธีการตรวจที่ให้ผลแม่นยำ แต่ต้องใช้ระยะเวลาในการรอผลจากห้องปฏิบัติการ 5-7 วัน ผู้เข้ารับการตรวจต้องงดน้ำงดอาหาร และควรหลีกเลี่ยงการตรวจในช่วงที่มีประจำเดือน โดยขั้นตอนในการตรวจก็จะมีการเจาะเลือด และเก็บตัวอย่างปัสสาวะเหมือนการตรวจสุขภาพทั่วไป
ใครบ้างที่ควรตรวจโลหะหนักในร่างกาย?
- ผู้ที่อยากดูแลสุขภาพอย่างเจาะลึก
- ผู้ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมเป็นพิษ หรือใกล้แหล่งโรงงาน
- ผู้ที่เผชิญฝุ่นควันและมลภาวะบนท้องถนนเป็นประจำ
- ผู้ที่ชอบทำสีผม ทำเล็บ รวมถึงช่างทำผม
- ผู้ที่ชอบทานอาหารทะเลเป็นประจำ
- ผู้ที่มีวัสดุอุดฟันที่ทำจากสารอะมัลกัม (วัสดุอุดฟันสีเงิน)
เลี่ยงยาก…แต่กำจัดได้ด้วย Toxic Clearing
Toxic Clearing คือ นวัตกรรมการบำบัดโดยการล้างพิษและขจัดของเสียที่สะสมภายในร่างกายผ่านวิตามินบำบัดสูตรกำจัดสารพิษ (Chelation) ด้วยการให้วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ ทางหลอดเลือดดำ (IV Drip) เพื่อเข้าไปจับสารโลหะหนักที่เป็นพิษและขับออกมาผ่านทางปัสสาวะ โดยใช้เวลาการให้วิตามินประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ซึ่งควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ส่วนจะต้องทำบ่อยแค่ไหน แพทย์จะพิจารณาจากปริมาณโลหะหนักที่ตรวจพบเป็นรายบุคคล
ขอบคุณข้อมูล : พญ.กานต์พิชชา พตั่งฮวดพาเจริญ แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ ศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัย โรงพยาบาลพญาไท 3