การฉีดฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็ม เป็นหนึ่งในหัตถการเพื่อการดูแลตนเองให้ผิวพรรณอ่อนเยาว์กว่าวัย ที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน ซึ่งมีให้เลือกหลายยี่ห้อ และมีคลินิกจำนวนมากให้บริการนี้ แต่ที่สำคัญคือจะฉีดฟิลเลอร์อย่างไรให้ปลอดภัย ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
ฟิลเลอร์ คืออะไร
ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มที่ใช้ฉีดเข้าใต้ผิวหนัง เพื่อเติมเต็ม หรือลดเลือนริ้วรอย และร่องลึกบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ขมับ โหนกแก้ม หน้าผาก ใต้ตา จมูก คาง ริมฝีปาก ทำให้ร่องและริ้วรอยดูตื้นขึ้น ทำให้ผิวกลับมาเต่งตึง อวบอิ่ม แลดูอ่อนวัย
แม้ว่าที่ผ่านมาจะมีข่าวเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพออกมาหลายเคส แต่คนจำนวนไม่น้อยก็ยังเลือกใช้ฟิลเลอร์ในการดูแลตนเอง และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งย้อนแย้งกับความกังวลใจของผู้เข้ารับบริการถึงผลข้างเคียง และภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ เพราะหากเทียบกับหัตถการความงามอื่นๆ การฉีดฟิลเลอร์เป็นนวัตกรรมที่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด และเห็นผลทันที
แต่ต่อให้เทคโนโลยีการผลิตฟิลเลอร์จะล้ำหน้าทำให้ผลิตภัณฑ์มีความปลอดภัยมากขึ้น ทว่ายังมีเหตุปัจจัยที่อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดฟิลเลอร์ได้เช่นกัน
ข้อควรรู้ก่อนฉีดฟิลเลอร์
พญ.วิไล ธนสารอักษร แพทย์ผู้ชำนาญการด้านโรคผิวหนัง การใช้เลเซอร์รักษาโรคผิวหนัง ศัลยกรรมเพื่อความงาม และปรับรูปหน้าด้วยสารเติมเต็ม คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ได้แชร์ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวในงานประชุมวิชาการ Bloomage Global Perspective Symposium: Exploring BIOHYALUX Filler ที่ SOE Medical และ Bloomage Biotech ร่วมกันจัดขึ้น ในหัวข้อ “Tips for Avoiding Hyaluronic Acid Filler Complication” โดย 3 ปัจจัยที่ว่า ได้แก่ แพทย์ ผู้เข้ารับบริการ และผลิตภัณฑ์
...

1. แพทย์
พญ.วิไล อธิบายว่า แม้ฟิลเลอร์จะอยู่ในร่างกายเพียงชั่วคราว และมีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดได้ ไม่ว่าจะเป็น ข้อผิดพลาดจากแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญเรื่องสรีระบนใบหน้า อาจฉีดโดนเส้นเลือด เกิดการอุดตัน ทำให้เนื้อเยื่อบริเวณที่อุดตันเกิดเป็นเนื้อตาย เกิดเป็นแผลเป็น
“หากแพทย์ไม่มีความรู้ ความชำนาญ หรือไม่เข้าใจผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการฉีดฟิลเลอร์ก็เป็นเรื่องที่อันตรายมาก แพทย์จึงต้องหมั่นพัฒนาเทคนิคการฉีด เข้ารับการเทรนอย่างสม่ำเสมอ และรู้วิธีแก้ไขหากเกิดข้อผิดพลาด” พญ.วิไล กล่าว
นอกจากความเชี่ยวชาญของแพทย์แล้ว ความเสี่ยงจากการติดเชื้อจากสถานที่รับบริการไม่สะอาด ไม่ได้มาตรฐาน ก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญควบคู่กัน แพทย์ควรใส่ถุงมือ และทำความสะอาดเครื่องมือทุกครั้ง รวมถึงความสะอาดภายในห้องให้บริการ
2. ตัวผู้เข้ารับบริการ
ปัจจัยต่อมาที่ผู้ให้บริการมักหลงลืมคือ ตัวผู้รับบริการเอง หากเป็นผู้ที่มีประวัติเป็นภูมิแพ้อย่างรุนแรง (Anaphylaxis) มีปัญหาเลือดออกง่าย แพ้ยาชา ตั้งครรภ์ หรือกำลังรับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน, ยาคูมาดิน ควรหลีกเลี่ยง หรือแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนเข้ารับการรักษา
“นี่เป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่บางครั้งผู้เข้ารับการรักษาเองก็ไม่ทราบ อย่างกรณีที่วันเข้ารับการรักษาเกิดภูมิคุ้มกันตก โอกาสติดเชื้อก็เพิ่มสูงขึ้น”

3. ผลิตภัณฑ์
ปัจจัยสุดท้ายคือการเลือก ‘ฟิลเลอร์’ ที่ได้มาตรฐาน เพราะผลข้างเคียงไม่ได้เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ไม่ถูกตำแหน่งเท่านั้น การเลือกใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดการไหลของฟิลเลอร์ผิดรูป หรือมีปัญหาภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา
ผลข้างเคียงที่อาจพบได้จากการฉีดฟิลเลอร์ มีดังต่อไปนี้
- มีอาการคัน ปวด บวม ตึง แดงร้อนบริเวณที่ฉีด
- ผิวหนังฟกช้ำ ห้อเลือด
- ผิวหนังติดเชื้อ
- พบก้อนบริเวณที่ฉีด
- ผิวหนังบริเวณที่ฉีดดูขาวขึ้น หรือคล้ำลง
- แพ้ยาชาที่เป็นส่วนผสมของฟิลเลอร์
- เส้นเลือดอุดตัน และอาจทำให้เกิดภาวะเนื้อเยื่อตาย หรือตาบอด
...
การฉีดฟิลเลอร์ต้องฉีดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง ดังนั้นหากต้องการฉีดฟิลเลอร์ ควรเลือกคลินิก หรือสถานพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังประจำอยู่ และฟิลเลอร์ที่ใช้จะต้องเป็นฟิลเลอร์ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องกับ อย.เท่านั้น โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อฟิลเลอร์ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนกับ อย. ได้ที่ www.fda.moph.go.th หัวข้อ “ตรวจสอบผลิตภัณฑ์” หรือตรวจสอบได้ที่ Line: @FDATHAI
นอกจากนี้ ทาง FDA (United States Food and Drug Administration) องค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ยังได้ให้คำแนะนำเพื่อความปลอดภัยก่อนฉีดฟิลเลอร์ว่า
- อย่าซื้อฟิลเลอร์ผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะอาจเป็นของปลอม หรือได้รับการปนเปื้อน ที่ก่อให้เกิดอันตรายได้
- อย่าฉีดฟิลเลอร์จากผู้ให้บริการที่ไม่มีใบอนุญาตหรือในสถานที่ที่ไม่ใช่สถานพยาบาลหรือคลินิก เช่น โรงแรม บ้านส่วนตัว คอนโดฯ
- กล่องฟิลเลอร์ควรมีการติดฉลากและปิดผนึกอย่างเหมาะสม หากสถานพยาบาล หรือคลินิก พยายามนำเสนอฟิลเลอร์ที่มีราคาถูกกว่าฟิลเลอร์ที่ได้การรับรองจาก FDA หรือจาก อย. ไทย หรือมีฉลากบรรจุภัณฑ์ที่ดูแปลกหรือแตกต่างไปจากปกติ ให้ระวัง
- ก่อนฉีดฟิลเลอร์ควรเลือกสถานที่หรือคลินิกที่มีใบอนุญาต และเลขที่อนุญาตจำนวน 11 หลักติดไว้หน้าคลินิกอย่างชัดเจน และควรเลือกคลินิกที่มีแพทย์ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมประจำคลินิก อีกทั้งคลินิกต้องแสดงอัตราค่ารักษาพยาบาลไว้อย่างชัดเจน รวมถึงควรเลือกคลินิกที่สะอาด ปลอดภัย ภายในคลินิกมีการกำจัดขยะติดเชื้ออย่างถูกต้อง มีอุปกรณ์ที่ไม่เสื่อมสภาพ เป็นต้น
ขณะเดียวกัน การเลือกสถานพยาบาลหรือคลินิกเพื่อทำการฉีดฟิลเลอร์ ควรเลือกดูรีวิวที่น่าเชื่อถือประกอบการตัดสินใจร่วมด้วย ไม่ควรเลือกคลินิกที่มีการโฆษณารีวิวที่เกินจริง หรือคลินิกที่มีการโฆษณาฉีดฟิลเลอร์ราคาถูกมาก เพราะอาจเสี่ยงเจอฟิลเลอร์ปลอมได้ รวมทั้งควรดูรีวิวจากในแหล่งอื่นเพิ่มเติม ไม่ควรดูแต่รีวิวที่ทางคลินิกเป็นผู้โพสต์แต่เพียงผู้เดียว.
ข้อมูลอ้างอิง : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, FDA, Skin X