• การประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักนั้น ต้องรู้สาเหตุของภาวะโรคอ้วน หรือมีน้ำหนักเกินมาตรฐานว่าแท้จริงแล้วเกิดจากอะไร บางครั้งการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกายที่ถูกต้องเหมาะสมเพียงอย่างเดียว ก็ไม่สามารถตอบโจทย์การลดน้ำหนักได้ในคนบางกลุ่ม
  • ปัญหาการลดน้ำหนักไม่ลง หรือภาวะความอ้วน เป็นปัญหาที่มีสาเหตุร่วมจากหลายปัจจัย และบ่อยครั้งนั้นเกิดจาก "พันธุกรรม" รวมถึงระดับฮอร์โมนบางประเภทในร่างกาย ยา และโรคประจำตัวบางอย่าง
  • ปัจจุบันมีการตรวจร่างกายโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคอ้วน เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และการตรวจเพื่อดูความสมดุลของร่างกายแบบองค์รวม โดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการและนักโภชนาการ

ปัจจุบัน พบผู้ที่มีภาวะโรคอ้วน หรือมีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน เพิ่มมากขึ้นทั้งในและและต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งภาวะโรคอ้วนนี้มีความอันตราย และนำมาสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง น้ำตาลในเลือดสูง ข้อเข่าเสื่อม กรดไหลย้อน ไขมันพอกตับ โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคทางนรีเวช ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และโรคหลอดเลือดสมอง

อันที่จริงแล้ว มีคนจำนวนมากที่ลดน้ำหนักแล้วประสบความสำเร็จ แต่เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมคนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ว่าจะพยายามอย่างไรก็ "ลดน้ำหนัก" ไม่ลงสักที รู้หรือไม่ว่า ปัญหาการลดน้ำหนักไม่ลง หรือภาวะความอ้วน เป็นปัญหาที่มีสาเหตุร่วมจากหลายปัจจัย หลายครั้งนั้นมีสาเหตุมาจากการมีระดับ “ฮอร์โมน” ไม่สมดุล และบ่อยครั้งก็เกิดจาก "พันธุกรรม" โดยมียีนและโครโมโซมเป็นตัวกำหนด

น้ำหนักตัวเท่าไร ถึงเรียกน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน

ค่าดัชนีมวลกาย หรือ Body Mass Index (BMI) เป็นค่าที่ใช้ชี้วัดว่าร่างกายมีความสมดุลกันของน้ำหนักตัวเทียบกับส่วนสูงหรือไม่ โดยสามารถใช้เป็นเกณฑ์คัดกรองได้ในผู้ใหญ่ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ดังนี้

...

ปัจจัยการเกิดโรคอ้วน หรือน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐาน

นอกจากปัจจัยด้านการรับประทานอาหาร การใช้ชีวิต การออกกำลังกาย อายุ รวมไปถึงปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่ามีผลกับภาวะน้ำหนักเกินและการลดน้ำหนัก แต่จริงๆ แล้วปัจจุบันพบว่ายังมีปัจจัยด้านอื่นๆ ที่ส่งผลให้การลดน้ำหนักนั้นไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่ควรจะเป็น ปัจจัยเหล่านี้ ได้แก่

1. พันธุกรรม

บุคคลบางกลุ่มอาจมีปัญหาความอ้วนที่ "ลดน้ำหนัก" ไม่ลง และความผิดปกติด้านการเผาผลาญสารอาหารบางชนิด ซึ่งเป็นผลมาจากเรื่องของพันธุกรรมหรือยีน เป็นตัวหลักที่เด่นเหนือสิ่งแวดล้อมอื่นๆ โดยอาจเป็นยีนโรคอ้วนที่ได้รับมาจากพ่อแม่ที่เป็นโรคอ้วน หรือยีนในร่างกายมีการทำงานผิดปกติไปก็เป็นได้ เช่น ยีนควบคุมความอิ่มเสียไป ยีนที่ควบคุมการสร้างไขมันในร่างกายผิดปกติ ยีนโรคเบาหวาน

รวมไปถึงการที่ในร่างกายของแต่ละคนนั้นมีประสิทธิภาพการเผาผลาญไขมันแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานได้ไม่เท่ากัน พันธุกรรมจึงอาจส่งผลต่อปริมาณไขมันที่สะสมในร่างกาย อีกทั้งยังมีโรคทางพันธุกรรมที่ทำให้มีภาวะอ้วนหรือมีรูปร่างอ้วนขึ้นอย่างชัดเจน เช่น พราเดอร์-วิลลี่ ซินโดรม https://www.nhs.uk/conditions/prader-willi-syndrome (Prader-Willi Syndrome) ผู้ป่วยจะมีอาการกินไม่หยุด กินจุ และมีพัฒนาการช้า

2. โรคประจำตัวบางอย่าง ยาบางประเภท และภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล

ภาวะความผิดปกติของร่างกาย การเจ็บป่วย หรือโรคบางโรคอาจส่งผลต่อน้ำหนักตัวและภาวะอ้วนได้ เช่น ภาวะต่อมไทรอยด์สร้างฮอร์โมนน้อยเกินไป ทำให้เกิดโรคไทรอยด์ต่ำ (Hypothyroidism) ส่งผลให้การเผาผลาญพลังงานของร่างกายต่ำลงได้ หรือ โรคบางโรค เช่น คุชชิ่งซินโดรม (Cushing’s Syndrome) ทำให้ร่างกายมีฮอร์โมนคอร์ติซอลสูง ส่งผลให้ร่างกายสะสมไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกายมากกว่าคนทั่วไป

การรับประทานยาคุมกำเนิดบางชนิดก็ส่งผลให้ร่างกายเกิดการสะสมไขมันมากกว่าคนปกติทั่วไป ยาต้านอาการซึมเศร้าและยาสเตียรอยด์เช่นกัน รวมไปถึงภาวะฮอร์โมนไม่สมดุลในคุณแม่หลังคลอด หรือผู้ที่เข้าสู่วัยทองบางราย ปัจจัยเหล่านี้ต่างทำให้การลดน้ำหนักไม่ประสบความสำเร็จมากเท่าที่ควร

การตรวจวินิจฉัยโรคอ้วน เพื่อหาสาเหตุว่าทำไมจึงลดน้ำหนักไม่ลง

สาเหตุดังกล่าวข้างต้นนั้น นอกจากต้องอาศัยการซักประวัติและการตรวจร่างกายโดยแพทย์ผู้ชำนาญการแล้ว การตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมนั้นก็เป็นสิ่งจำเป็นและขาดไม่ได้เช่นกัน

1. การตรวจพันธุกรรม

การตรวจทางพันธุกรรมในปัจจุบันมีความก้าวหน้ามากขึ้น การพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัดเกี่ยวกับยีนหรือพันธุกรรม สามารถตรวจค้นพบยีนหลายชนิดที่เป็นสาเหตุของโรคอ้วน รวมถึงยีนที่ทำให้ผู้ป่วยมีอาการหิวและรับประทานอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะในผู้ที่เป็นโรคอ้วนรุนแรงตั้งแต่เด็ก อีกทั้งผู้ป่วยเหล่านี้ยังมีลักษณะอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น มีความผิดปกติของระดับฮอร์โมนและระบบประสาท เป็นต้น

การค้นพบสาเหตุทางพันธุกรรมที่ทำให้เกิดโรคอ้วน นำไปสู่การพัฒนายาที่ใช้ในการรักษา รวมไปถึงการดูแลด้านโภชนาการ กายภาพบำบัด การออกกำลังกาย และการฟื้นฟูสภาพจิตใจ หากตรวจยีนแล้วพบว่ามีพันธุกรรมที่ผิดปกติและมีผลต่อโรคอ้วน หรือการลดน้ำหนัก เช่น การเผาผลาญไขมัน หรือน้ำตาลผิดปกติ หรือยีนที่ควบคุมการสร้างไขมันในร่างกายผิดปกติ ก็สามารถหาทางรักษา หรือทางเลือกในการลดน้ำหนัก และวางแผนอย่าง “จริงจัง” ในการปรับเรื่อง “พฤติกรรม” เพื่อต่อสู้กับ “พันธุกรรม” ได้

...

2. การตรวจสมดุลฮอร์โมน

ระดับฮอร์โมนบางประเภทในร่างกายมีผลกับการลดน้ำหนัก ผู้ที่มีน้ำหนักเกินบางคนอาจอ้วนเพราะดื้อต่อฮอร์โมนอิ่ม ซึ่งเกิดจากการมีระดับของฮอร์โมนอิ่มมากกว่าปกติ ยิ่งมีฮอร์โมนอิ่มมาก เซลล์ไขมันจะยิ่งดื้อ ไม่ส่งสัญญาณอิ่มเข้าสู่สมอง จึงส่งผลให้หิวและกินต่อไปแบบไม่หยุดยั้ง หรือบางคนอาจมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำกว่าปกติ จึงส่งผลให้การเผาผลาญพลังงานของร่างกายน้อยลงได้

การรักษาโรคอ้วน

การรักษาภาวะน้ำหนักเกิน หรือโรคอ้วน นั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี หากผู้ป่วยที่มีภาวะโรคอ้วนนั้นเกิดมาจากโรคอื่นๆ แพทย์จะแนะนำให้รักษาที่โรคนั้นๆ ก่อน แต่หากมีภาวะอ้วนจากเหตุปัจจัยดังกล่าวข้างต้น ก็สามารถให้การรักษาได้ ดังนี้ 

1. การปรับเรื่องการรับประทานอาหารอย่างถูกต้องตามหลักโภชนาการ ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายที่เหมาะสมอย่างเพียงพอในแต่ละสัปดาห์ และอาจต้องมีการใช้ยาตามดุลยพินิจของแพทย์ด้วยเช่นกัน ทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่จะช่วยลดน้ำหนัก รวมถึงลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และโรคร้ายแรงอันเป็นผลจากภาวะอ้วนลงได้ อย่างไรก็ตาม วิธีการรักษากลุ่มโรคอ้วนนี้ส่วนใหญ่แล้วยังอยู่ในระหว่างการศึกษาและวิจัย และจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาทั้งด้านวิธีการตรวจและการรักษาต่อไป

2. การใช้ปากกาลดน้ำหนัก ด้วยวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ก้าวไกล จึงมีทางเลือกสำหรับผู้ที่มีปัญหาน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน และต้องการลดน้ำหนักโดยใช้ปากกาลดน้ำหนัก ควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารและการออกกำลังกาย เพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลดน้ำหนักในระยะยาว

3. การดูแลและปรับสมดุลฮอร์โมน รวมถึงการปรับสมดุลร่างกายแบบองค์รวม

4. การใช้ยาลดน้ำหนัก และการผ่าตัด

...

จะเห็นได้ว่า การที่จะประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักนั้น เราควรเข้าใจร่างกายของเราจากภายในก่อนว่า สาเหตุของภาวะโรคอ้วน หรือมีน้ำหนักเกินมาตรฐานนั้น แท้จริงแล้วเกิดจากสาเหตุใด บางครั้งการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกายที่ถูกต้องเหมาะสมเพียงอย่างเดียว ก็ไม่สามารถตอบโจทย์การลดน้ำหนักได้ในคนบางกลุ่ม และอาจนำไปสู่การถอดใจและล้มเลิกกลางคันได้ อย่างไรก็ตาม การดูแลร่างกายและจิตใจ เช่น การรับประทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ การออกกำลังกายอย่างถูกต้องเหมาะสม การดื่มน้ำและการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ ทำจิตใจให้สบาย ไม่เครียด ก็ยังคงเป็นหัวใจหลักของการดูแลสุขภาพที่ดี ช่วยให้ไปถึงเป้าหมายการควบคุมน้ำหนักได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน  

พญ.จิตแข เทพชาตรี แพทย์เวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุภาพ รพ.สมิติเวช