มะเร็งเต้านม โรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้หญิงไปมากมายทั่วโลก แต่สามารถรักษาให้หายขาดได้หากตรวจพบและรีบทำการรักษาในระยะแรก ด้วยการสังเกตอาการที่เป็นสัญญาณเตือน พร้อมทั้งเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง

โรคมะเร็งเต้านมเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดของผู้หญิงทั่วโลก พบได้ประมาณ 1 ใน 8 ของประชากรหญิง และยังคงมีอัตราการเสียชีวิตสูงมาก ขณะเดียวกันโรคมะเร็งเต้านมสามารถรักษาให้หายขาดได้หากพบในระยะแรกๆ แต่มะเร็งเต้านมระยะแรกๆ มักไม่มีอาการ ดังนั้น การตรวจคัดกรองอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

5 สัญญาณเตือนมะเร็งเต้านม

แพทย์หญิงวีรวรรณ ฉัตรตรัสตรัย รังสีแพทย์เฉพาะทางด้านรังสีวิทยาวินิจฉัยขั้นสูงด้านเต้านมและรังสีร่วมรักษาของเต้านม โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า โรคมะเร็งเต้านมในระยะแรกมักไม่มีอาการ สำหรับรายที่มีอาการอาจมาด้วยคลำพบก้อนเนื้อบริเวณเต้านมหรือใต้รักแร้ แต่ก้อนเนื้อนั้นอาจกดเจ็บหรือไม่เจ็บก็ได้ ส่วนอาการอื่นๆ ที่อาจพบได้ ได้แก่

  1. เต้านมมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหรือขนาด
  2. เต้านมหรือหัวนมมีรอยบุ๋มหรือแตก
  3. หัวนมมีการเปลี่ยนแปลง เช่น หัวนมชี้ลง หัวนมมีผื่นแดงหรือเลือดออก
  4. มีน้ำเหลืองหรือของเหลวไหลออกจากหัวนม
  5. รู้สึกเจ็บหรือปวดบริเวณเต้านม

หากพบอาการเหล่านี้ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจเต้านมอย่างละเอียด ซึ่งปัจจุบันสามารถตรวจได้ด้วยการทำแมมโมแกรม ควบคู่กับการทำอัลตราซาวด์เต้านม หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกๆ ก็จะมีโอกาสรักษาหายขาดได้

การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคร้ายนี้ได้ เพราะเมื่อตรวจพบก็สามารถรักษาได้ทันท่วงที
การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมเป็นประจำอย่างต่อเนื่องจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคร้ายนี้ได้ เพราะเมื่อตรวจพบก็สามารถรักษาได้ทันท่วงที

...

นอกจากนี้ การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมยังแนะนำในผู้หญิงทุกคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่มีประวัติอยู่ในกลุ่มเสี่ยง เช่น มีประวัติทางพันธุกรรมในครอบครัว หรือมีญาติสายตรงเป็นมะเร็งเต้านมหรือรังไข่ อาจเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางเป็นรายๆ ไป

สำหรับการทำแมมโมแกรมเป็นการตรวจภาพเต้านมโดยการใช้ภาพถ่ายทางรังสี โดยเครื่องตรวจจะปล่อยรังสีในระดับต่ำ ปริมาณรังสีเมื่อเทียบกับการตรวจเอกซเรย์ปอดพบว่าสูงกว่าเพียงเล็กน้อย หรือคิดเป็น 1 ใน 6 ของปริมาณรังสีตามธรรมชาติที่อยู่รอบตัว

ปัจจุบันโรงพยาบาลเวชธานีมีเทคโนโลยีการตรวจด้วยแมมโมแกรม 3 มิติ ใช้เวลาถ่ายภาพเอกซเรย์เพียง 3.7 วินาทีต่อท่า ช่วยให้สามารถแยกรอยโรคออกมาจากการทับซ้อนกันของเนื้อเต้านมได้ ส่งผลให้เห็นก้อนเนื้อหรือหินปูนที่ผิดปกติได้ชัดเจนขึ้นและยังได้ภาพที่ละเอียดมากกว่าเดิม โดยเฉพาะในคนไข้ที่มีเนื้อเต้านมที่แน่น (dense breast) การตรวจเต้านมโดยการทำแมมโมแกรมปีละ 1 ครั้งจึงถือว่ามีความปลอดภัย และช่วยให้สามารถตรวจพบความผิดปกติของเต้านมได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม

ส่วนการทำอัลตราซาวด์ จะทำให้เห็นก้อนเนื้อหรือถุงน้ำในเต้านมได้ หากพบว่ามีก้อนเนื้อจะสามารถบอกขนาดและขอบเขตของก้อนเนื้อได้ว่าเรียบร้อยดี หรือค่อนไปทางมะเร็ง ซึ่งจะช่วยให้วินิจฉัยได้ละเอียดและแม่นยำยิ่งขึ้น

มะเร็งเต้านมถือเป็นภัยเงียบใกล้ตัว การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยแมมโมแกรมและอัลตราซาวด์จึงมีความสำคัญและจำเป็นสำหรับผู้หญิงทุกคนที่มีข้อบ่งชี้ เพราะมะเร็งเต้านม รู้เร็ว รักษาหายขาดได้

ภาพ : iStock