จากกระแสความนิยม ญี่ปุ่น เกาหลี โอปป้า หรือวัฒนธรรมตะวันตก ที่ปรากฏให้เห็นตามสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องรายการตามโทรทัศน์ โฆษณา สื่อ Social Media ต่างๆ เช่น YouTube, Facebook, IG , TikTok เรามักเห็นภาพดารา นางแบบ Net Idol ที่มีผิวเนียน หน้าใส ผิวสุขภาพดี ทำให้ความสวยงามที่ส่งผ่านมาทางสื่อสู่สายตาผู้ชม ผู้อ่าน รู้สึกว่าผิวกระจ่างใสคือสวย ซึ่งเป็นค่านิยมที่มีผลต่ออิทธิพลความคิดของคนไทยมาตลอด สังเกตได้ว่า ข้อมูลจากศูนย์เทคโนโลยี สารสนเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวที่ขายดีที่สุดในสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามคือ ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใส ซึ่งครองแชมป์เป็นอันดับ 1 ทุกปี ดังนั้น วันนี้ไทยรัฐออนไลน์จะพาท่านผู้อ่านมาเจาะลึกวงการบำรุงผิวกัน ว่าทำอย่างไรถึงผิวสวย ทำอย่างไรถึงหน้าใส
วันนี้ไทยรัฐออนไลน์ได้รับเกียรติจาก พญ.ธวลิดา เวชชวณิชย์ (คุณหมอยูมิ) แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง ผ่าตัดศัลยกรรมความงาม เลเซอร์ศัลยกรรมความงามและเวชศาสตร์ชะลอวัย, แพทย์ที่ปรึกษารายการ Let Me In Beauty, แพทย์ที่ปรึกษาผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิว Hada Tokyo Japan (ครีมหมอญี่ปุ่น), แพทย์ผู้ก่อตั้งและเป็นที่ปรึกษาให้กับศูนย์ความงามในโรงพยาบาลและคลินิกต่างๆ มากมาย คุณหมอคลุกคลีอยู่ในวงการความงามทั้งญี่ปุ่น เกาหลี มามากกว่า 20 ปี วันนี้เราจะมาสอบถามคุณหมอเพื่อไขข้อข้องใจว่า ทำไมคนไทยถึงอยากมีผิวพรรณใบหน้าแลดูกระจ่างใส และครีมที่ทำให้ใบหน้าแลดูกระจ่างใสนั้น ใช้แล้วดีไหม ใช้นานๆ ได้ไหม สารพันปัญหาที่เกี่ยวกับครีมบำรุงผิว วันนี้คุณหมอมีคำตอบค่ะ
คุณหมอเล่าว่า คุณหมอจบจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล หลังจากนั้นได้รับทุนญี่ปุ่น ให้ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านผิวหนังและเลเซอร์ศัลยกรรมที่ญี่ปุ่น ได้ใช้ชีวิตทำงานที่ญี่ปุ่นอยู่พักหนึ่ง ก็ไปศึกษาต่อเฉพาะทางด้านศัลยกรรมความงามที่เกาหลีต่อ หลังจากนั้นจึงกลับมาเมืองไทย ก็กลับมาเป็นอาจารย์แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังและความงาม เป็นแพทย์ผู้ก่อตั้งและแพทย์ที่ปรึกษาให้กับศูนย์ผิวหนังและความงามตามโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำ และเคยเป็นแพทย์ที่ปรึกษาผลิตภัณฑ์ให้กับครีมบำรุงผิวชั้นนำต่างๆ อาทิ Hada Tokyo Japan, Eucerin (เยอรมนี), Neutrogena (อเมริกา) และแบรนด์ชั้นนำต่างๆ มากมาย คุณหมอเล่าว่า ตอนช่วงที่คุณหมอกลับมาเมืองไทยใหม่ๆ ประมาณเกือบ 20 ปีแล้ว ช่วงนั้นเป็นช่วงต้น เพิ่งเริ่มยุคทองของการทำศัลยกรรม ทำหน้าใส ทำผิวสวย ช่วงนั้นการทำ Laser หน้าใส หรือการทำศัลยกรรมเกาหลี ถือเป็นของใหม่มากในเมืองไทย พอนานๆ ไปผลตอบรับดี กระแสความนิยมญี่ปุ่น เกาหลี จากสื่อต่างๆ ก็เพิ่มมากขึ้น คนไทยจึงมีความเชื่อและความเข้าใจว่า ขาวคือสวย อันนี้เกิดจากค่านิยมและอิทธิพลของสื่อต่างๆ ซึ่งทำให้สาวๆ อยากขาว เพราะผู้หญิงทุกคนอยากสวย ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ว่าจะมีสีผิวตามธรรมชาติเป็นแบบใด ใบหน้าก็สามารถสวยกระจ่างใสได้ ส่วนใหญ่คนไข้ทุกคนที่มาหาคุณหมอ จะมาปรึกษาปัญหาผิวกับคุณหมอ ก็มาด้วยเรื่องปัญหาผิวยอดนิยม อยากมีผิวหน้ากระจ่างใส มีปัญหาฝ้า กระจุด ด่างดำ มีริ้วรอย อ่อนกว่าวัย มีสิว มีแผลเป็นทำอย่างไรดี คุณหมอมองว่า ผู้หญิงทุกคนอยากสวย ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่สิ่งสำคัญคือต้องสวยด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง ด้วยวิธีการ หรือผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมไม่เป็นอันตราย นี่คือเรื่องสำคัญ
ต่อข้อถามที่ว่า อยากมีผิวสวย ใบหน้าแลดูกระจ่างใส ต้องทำอย่างไร จะเลือกครีมบำรุงผิวแบบไหนดี เพราะครีมในท้องตลาดที่ขายกันอยู่ทั้งในรูปแบบ online, offline มีให้เลือกกันมากมาย คุณหมอตอบว่า ครีมทาผิวให้แลดูกระจ่างใสที่เราเห็นในท้องตลาด ถ้าให้อธิบายแล้วเห็นภาพได้ง่ายๆ ก็สามารถแบ่งครีมเป็น 4 กลุ่ม ตามส่วนผสม active ในครีมบำรุงผิวที่ช่วยเรื่องใบหน้าแลดูกระจ่างใส คือ
1. ครีมที่มีสารอันตราย ที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอาง (เห็นผลเร็วแต่อันตรายมาก ห้ามใช้) เช่น สารปรอท แอมโมเนีย โมโนเบนโซน
2. ครีมที่มีส่วนผสมของสารอันตราย แต่สามารถใช้ได้ในความควบคุมของแพทย์ (ใช้ได้ในระยะสั้นๆ แต่ต้องอยู่ในความควบคุมของแพทย์) เช่น ครีมที่มีส่วนผสมของ Hydroquinone, Steroid, Vitamin A, AHA, BHA
3. ครีมที่มีส่วนผสมของ Whitening Agent สารที่ทำให้ผิวแลดูกระจ่างใส (ใช้ต่อเนื่องระยะยาวได้) เช่น Arbutin, Kojic, Licorice, L-Ascorbic และอื่นๆ ในเปอร์เซ็นต์ที่เข้มข้น ส่วนใหญ่ใช้ในครีมเวชสำอาง
4. ครีมที่มีส่วนผสมของสารทำให้ผิวกระจ่างใสทั่วไป ที่นิยมใช้กันในครีม เครื่องสำอางทั่วไป
ซึ่งถ้าหากเราต้องการจะใช้ครีมสักขวด นอกจากดูว่ามีเลขจดแจ้ง อย.แล้ว เรายังควรจะดู Active ที่เป็นส่วนประกอบหลักที่อยู่ในครีมขวดนั้นว่าใช้สารใดเป็น Active ยกตัวอย่างเช่น ครีม Hada Tokyo Japan แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่ทำการตลาด มีขายเฉพาะตามโรงพยาบาล หรือคลินิกที่ญี่ปุ่นเท่านั้น ที่เมืองไทยก็เช่นกัน (หลายๆ โรงพยาบาล หรือคลินิก สั่งเป็น OEM เป็นผลิตภัณฑ์ของโรงพยาบาลนั้นๆ เอง) ใช้เป็นเวชสำอาง เน้นหลักๆ ในการดูแลปัญหาผิว ครีม Hada Tokyo Japan จะเน้นใช้ Active ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติในความเข้มข้นที่สูง ทำให้มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวได้ดี เมื่อใช้เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง สามารถใช้นานได้ สามารถใช้ได้ในทุกสภาพผิว เพราะส่วนผสมทุกอย่างมาจากธรรมชาติ อาทิ ครีมบำรุงผิวแลดูกระจ่างใส Hada Tokyo Japan Whitening Cream สูตรช่วยบำรุงผิวป้องกันแสงแดดเหมาะสำหรับใช้ในเวลากลางวัน (ขวดปั๊ม) และสูตรช่วยบำรุงผิวเหมาะสำหรับใช้ในเวลากลางคืน (กระปุกกลม) จะมี Active ที่เป็นส่วนประกอบหลักคือ น้ำนมข้าว ที่ช่วยทำให้ผิวแลดูกระจ่างใส มี active คือ Alpha-Arbutin, Licorice, Koshihikari Japanese Rice Extract, Astaxantine ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้ผิวแลดูกระจ่างใส ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งกระบวนการผลิตครีม Hada Tokyo Japan ใช้เทคโนโลยีญี่ปุ่น โดยการใช้ NanoEncapsulation Technology ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตครีมและเวชสำอางที่จะช่วยให้ครีมสามารถซึมสู่ผิวได้ดี ถ้าเทียบกับการผลิตวิธีทั่วไป ในแง่การดูแลด้านความงาม ซึ่ง Active ที่นำมาเป็นส่วนผสมของครีมเวชสำอางบำรุงผิวแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติต่างกันไปในแต่ละผลิตภัณฑ์ อยู่ที่ว่ามีจุดประสงค์ฟื้นบำรุงผิวหนังในด้านใด ทั้งนี้ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใดๆ ควรอ่านฉลากให้ดีว่าครีมชนิดนี้มีส่วนผสมอะไรอยู่บ้าง อย่าซื้อ หรือเชื่อตามกระแสนิยม ทั้งนี้คุณหมอได้สรุป Active ที่นิยมใช้กันในเวชสำอาง ครีมบำรุง ให้สาวๆ ได้นำไปเลือกซื้อ เลือกใช้กันด้วย เวลาเลือกครีมบำรุงผิวครั้งต่อๆ ไปจะได้เลือกได้ตรงกับที่ต้องการได้ตรงใจค่ะ
- Active ครีมช่วยให้ผิวหน้าแลดูกระจ่างใส : Alpha-Arbutin, Licorice, Kojic, AHA, Vitamin C,B3
- Active ครีมเพิ่มความชุ่มชื้น : Hyaluronic acid, Glycerin, Ceramide
- Active ครีมช่วยลดเลือนริ้วรอย : Argireline Peptide, Coemz Q10, Protein Peptide, Vitamin E, Aloe Vera
- Active ครีมช่วยดูแลรอยดำ รอยแดงที่เกิดจากสิว : AHA, BHA, Tea Tree oil, Zinc
- Natural Oil – Almond oil, Argan oil, Grape Seed oil, Jojoba oil, Castrol oil
อีกอย่างที่สำคัญในการเลือกซื้อใช้ครีมคือ ควรดูเลข อย. มาตรฐานในการผลิต วันเดือนปีผลิต และวันหมดอายุ ลักษณะ กลิ่น สีเนื้อครีมก่อนใช้ ถ้าสภาพเนื้อครีมแยกชั้น หรือแยกตัว หรือมีกลิ่นบูดหืน ไม่ควรนำมาใช้ เนื่องจากอาจมีการเสื่อมสภาพของเนื้อครีมได้ และนอกจากนี้เราควรสังเกตตัวเองด้วยว่าใช้อะไรแล้วเหมาะกับตัวเอง ใช้อะไรแล้วแพ้ เพราะสาร Active แต่ละชนิดในเวชสำอาง ครีมบำรุงผิว แต่ละชนิดมีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน และผิวคนเราแต่ละคนก็ sensitive หรือไวต่อสารแต่ละชนิดไม่เท่ากัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ดังนั้นเราควรสังเกตด้วยว่าตัวเองเหมาะกับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Active ชนิดไหน ถ้าเราเป็นเลือกใช้ครีมบำรุงผิวเป็น เราก็สามารถมีผิวแลดูกระจ่างใสได้อย่างไร้กังวลค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลวิชาการ
พญ.ธวลิดา เวชชวณิชย์ (คุณหมอยูมิ)
แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง ศัลยกรรมความงาม
ที่ปรึกษา ผลิตภัณฑ์ครีม เวชสำอางบำรุงผิว Hada Tokyo Japan (ฮาดะ โตเกียว)
www.hadatokyo.com