เชื้อราที่ขึ้นสมองสามารถพบได้หลายชนิด ชนิดที่พบได้บ่อยในประเทศไทย คือ “เชื้อคริปโตคอคคัส” หรือที่เรียกกันว่า “เชื้อราจากนกพิราบ” ซึ่งเป็นเชื้อราที่พบได้ในมูลนกพิราบ หรือบริเวณที่อับชื้นที่อาจมีนกพิราบอาศัยอยู่ ซึ่งผู้ที่มีความเสี่ยงมักจะเป็นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น เป็นโรคเอดส์ แต่ก็สามารถพบในคนทั่วไปได้ ซึ่งครั้งแรกที่ติดเชื้อมักจะได้รับจากการสูดดมเชื้อโรคเข้าไปในปอด และต่อมามีการแพร่กระจายในร่างกาย ซึ่งมักชอบไปที่สมอง ทำให้เกิดการติดเชื้อในเยื่อหุ้มสมองและเนื้อสมอง มักเกิดไข้ ปวดศีรษะ ตามัว คอแข็ง มองเห็นแสงแดดหรือแสงไฟแรง ๆ แล้วทนไม่ค่อยได้ บางรายอาจเกิดปัญหาด้านการได้ยินได้อีกด้วย ซึ่งอาการจะเป็นช้า ๆ เป็นระดับสัปดาห์

หากกระจายทั่วร่างกาย อาจมีผื่นตามตัวในลักษณะเหมือนหูด บางคนดูลักษณะคล้ายปล่องภูเขาไฟ เมื่อตรวจร่างกาย อาจพบไข้ คอแข็ง มีระดับการรู้สึกตัวผิดปกติ หากเจาะหลังตรวจน้ำไขสันหลัง อาจมีระดับความดันน้ำไขสันหลังสูง มีโปรตีนสูง และอาจพบเชื้อในการย้อม หรือการตรวจหาแอนติเจนได้ บางรายอาจพบแอนติเจน หรือเพาะเชื้อขึ้นในเลือดได้

...

อันตรายและภาวะแทรกซ้อน

หากมีความดันในสมองสูง อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการรู้สึกตัว เปลี่ยนบุคลิกภาพ หรือทำให้เกิดการหลงลืมได้

การรักษา

สามารถรักษาให้หายขาดได้ จะมีความแตกต่างกันขึ้นกับโรคประจำตัวของผู้ป่วย ระยะของโรค และอวัยวะที่เกี่ยวข้อง ในรายที่รุนแรงหรือเข้าสมอง มักต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อฉีดยาและกินยา ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก และมีการเจาะหลังระบายให้ความดันในไขสันหลังไม่สูงจนเกิดอาการและอาการแสดงผิดปกติ

ต่อมาต้องกินยาต่อเนื่องไปประมาณ 2 เดือนเพื่อการกลับเป็นซ้ำ อาจจะต้องกินยาป้องกันประมาณอีก 1 ปี หรือหากติดเชื้อเอดส์ ก็มีเกณฑ์ให้ภูมิคุ้มกันดีขึ้น โดยดูระดับซีดีสี่ที่สูงขึ้นเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือน

การป้องกัน

หลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่อับชื้นอาจมีเชื้อราได้ ป้องกันการให้อาหารนกพิราบ หรือนั่งอยู่ในบริเวณที่มีนกพิราบมาก หากมีความจำเป็นอาจต้องใส่หน้ากากอนามัย หมั่นออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรง ป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี หรือหากติดเชื้อแล้วก็รักษาอย่างต่อเนื่องให้ภูมิคุ้มกันสูง ก็จะลดอัตราการเกิดโรคได้

หากสงสัยว่าตัวเองมีความเสี่ยง ให้คอยสังเกตอาการ หากมีอาการที่เข้าได้ดังกล่าวข้างต้น ควรพบแพทย์เพื่อพิจารณาประเมินและรักษาต่อไป

นอกจากเชื้อราคริปโตคอคคัสแล้ว ยังมีเชื้อราอื่น ๆ ที่ขึ้นสมองได้ เช่น ราดำ ซึ่งอาจพบในสิ่งแวดล้อม เช่น น้ำครำ หรือบริเวณพื้นที่อับชื้นต่างๆ อีกตัวที่น่ารู้จัก คือ ราสายมีชื่อมิวคอร์ ที่พบได้มากในผู้ป่วยที่เป็นเบาหวาน เป็นต้น

ดังนั้น จึงขอแนะนำให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อับชื้น ที่อาจมีมูลนก หากจำเป็นต้องอยู่ควรสวมหน้ากากที่เหมาะสม หากมีความผิดปกติของร่างกาย เช่น มีไข้ ปวดคอ คอแข็ง ปวดหรือเวียนศีรษะ ตามัว เดินไม่ตรง มีชาหรืออ่อนแรงต่างๆ ควรมาพบแพทย์ทันที

แหล่งข้อมูล
อ. พญ.รพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด สาขาวิชาโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล