ไทรอยด์เป็นพิษ คือหนึ่งในโรคที่เป็นสาเหตุให้ ซันนี่ ยูโฟร์ อดีตนักร้องชื่อดังยุค 90 เสียชีวิต สาเหตุของโรคนี้เกิดจากอะไร เราต้องสังเกตอาการอย่างไรบ้าง และป้องกันได้หรือไม่ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐออนไลน์รวมข้อมูลมาให้ดังนี้
ไทรอยด์เป็นพิษ สาเหตุจากอะไร
ไทรอยด์เป็นพิษ มีสาเหตุจากภาวะที่ต่อมไทรอยด์หลั่งฮอร์โมนไทรอยด์ออกมามากเกินไป ทำให้มีสภาวะเป็นพิษจนส่งผลต่อร่างกายในด้านต่างๆ เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย เช่น เหนื่อยง่าย ใจสั่น ขี้ร้อนง่าย เหงื่อออกมาก หงุดหงิด หรือนอนไม่หลับ
ทั้งนี้ โรคไทรอยด์เป็นพิษ มักพบได้บ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ประมาณ 5-10 เท่า หากผู้ป่วยมีภาวะไทรอยด์เป็นพิษที่ไม่รุนแรง อาจไม่แสดงอาการใดๆ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุที่ไม่ค่อยแสดงอาการอย่างชัดเจนมากนัก จึงต้องหมั่นสังเกตและตรวจเช็กอาการป่วยของตนเองอยู่เสมอ หากพบว่ามีอาการที่สุ่มเสี่ยงจะเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและทำการรักษา
ไทรอยด์เป็นพิษ มีอาการอย่างไร
สำหรับผู้ป่วยที่เป็น โรคไทรอยด์เป็นพิษ จะมีอาการดังต่อไปนี้
- น้ำหนักตัวลดลง
- ใจสั่น
- หงุดหงิดง่าย
- หัวใจเต้นเร็ว มือสั่น
- ตาโปน ผมร่วง
- ขี้ร้อน เหงื่อออกมาก
- ต่อมไทรอยด์บริเวณลำคอโตขึ้น
- ขาสองข้างอ่อนแรง (พบไม่บ่อย)
ผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษมักจะมีอาการคอพอก ซึ่งเป็นอาการที่ต่อมไทรอยด์โตขึ้น ผู้ป่วยจะรู้สึก หรือเห็นก้อนขนาดใหญ่ที่บริเวณคอ ส่วนในรายที่มีอาการตาโปนร่วมด้วยเรียกว่า โรคคอพอกตาโปน พบได้บ่อยที่สุดประมาณร้อยละ 60-80 ของผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษทั้งหมด
สำหรับอาการโดยทั่วไปจะเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ใจสั่น มือสั่น ขี้ร้อน อาจมีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด ร่างกายมีการเผาผลาญสูงกว่าปกติ น้าหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว บางรายอาจมีอาการถ่ายเหลวบ่อยคล้ายท้องเสีย กล้ามเนื้ออ่อนแรงโดยเฉพาะต้นแขนและต้นขา
...
ภาวะแทรกซ้อนของโรคนี้ ในบางรายที่เป็นเรื้อรังจะเกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูงทำให้กระดูกอ่อนแอ กลายเป็นโรคกระดูกพรุน เพราะร่างกายมีฮอร์โมนไทรอยด์มากไป จนส่งผลต่อความสามารถในการดูดซึมแคลเซียม แม้จะเป็นเพียงในบางราย และพบไม่บ่อยมากนัก แต่ก็ควรระวังไว้
ไทรอยด์เป็นพิษ อันตรายแค่ไหน
หากพบว่าตนเองป่วยเป็นไทรอยด์เป็นพิษ ควรรีบทำการรักษา เพราะหากปล่อยไว้อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ และถ้าไทรอยด์เป็นพิษจนถึงขั้นวิกฤติ ผู้ป่วยจะมีอาการหัวใจเต้นเร็วมากผิดปกติ มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส อาเจียน ท้องเสีย ตัวและตาจะเหลือง สับสนมึนงงอย่างรุนแรง มีภาวะขาดนำ้และอาจช็อกได้ สำหรับผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษที่ตรวจพบในระยะท้ายๆ อาจมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หัวใจวาย เนื่องจากหัวใจเต้นเร็วและเต้นผิดจังหวะ หากพบว่ามีอาการดังกล่าวควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษาอย่างรวดเร็ว
ไทรอยด์เป็นพิษ ป้องกันได้หรือไม่
เนื่องจากไทรอยด์เป็นพิษ มีสาเหตุจากปฏิกิริยาร่างกายของเราเองที่กระตุ้นต่อมไทรอยด์ให้มีการสร้างฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินความจำเป็นของร่างกาย จึงทำให้ไม่สามารถป้องกันแต่เนิ่นๆ ได้ ดังนั้นสิ่งที่ทำได้คือควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของตนเอง หากพบว่ามีอาการคล้ายกับไทรอยด์เป็นพิษควรรีบพบแพทย์เพื่อทำการรักษา
ไทรอยด์เป็นพิษ รักษาได้ไหม
แม้ว่าไทรอยด์เป็นพิษจะไม่สามารถป้องกันล่วงหน้าได้ แต่ข่าวดีคือยังสามารถรักษาได้ด้วยการรับประทานยาที่มีฤทธิ์ยับยั้งการสร้างฮอร์โมนขึ้นมาใหม่ และยับยั้งการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนที่มีอยู่แล้ว ควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ ไม่ปรับยาเอง เมื่ออาการต่างๆ ดีขึ้นแล้วก็ไม่ควรหยุดยาเอง ให้ปรึกษาแพทย์เมื่ออาการดีขึ้น หากผลเลือดดีขึ้น แพทย์จะค่อยๆ ปรับยาลดลง ในบางรายอาจหยุดยาได้ในที่สุด
ในกรณีที่รักษาด้วยการรับประทานยาแล้วไม่ได้ผล แพทย์อาจจะให้การรักษาด้วยการกลืนแร่ไอโอดีน หรือการผ่าตัด ซึ่งจะพิจารณาการรักษาให้เหมาะสมกับกับผู้ป่วยแต่ละราย ดังนั้นหากมีอาการที่สงสัยภาวะไทรอยด์เป็นพิษ ควรรีบพบแพทย์ เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และเป็นสาเหตุทำให้เสียชีวิตได้
อ้างอิงข้อมูล: กรมการแพทย์, คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล