Highlight :
- ตามหลักและทฤษฎีของศาสตร์การแพทย์แผนไทยระบุว่า เมื่อสภาพภูมิอากาศลดต่ำลง มักจะส่งผลให้ธาตุน้ำในร่างกายเกิดความแปรปรวนหรือเสียสมดุลได้ง่าย ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือร่างกายไม่สามารถปรับตัวตามสภาพอากาศได้ทัน จะป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับ "ธาตุน้ำ" โดยเฉพาะโรคระบบทางเดินหายใจ
- "สมุนไพรพื้นบ้าน" ถือเป็น "สมุนไพรแก้หนาว" ที่มีรสเปรี้ยว รสขม และรสเผ็ดร้อน จะช่วยเสริมเกราะป้องกันอาการเจ็บป่วยช่วงฤดูหนาว หรือช่วงที่เราเดินทางไปพบกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นได้เป็นอย่างดี
หนาวนี้เที่ยวไหนดี เที่ยวไหนก็ได้จ้ะ ขอให้คุณสาวๆ มีสุขภาพที่แข็งแรง ยิ่งไปในสถานที่ที่อากาศเย็นๆ โรคภัยก็จะถามหาได้ง่าย โดยเฉพาะอาการไข้หวัด น้ำมูกไหล ภูมิแพ้ หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับระบะบทางเดินหายใจ ที่สร้างความรำคาญใจให้กับนักเดินทางเป็นอย่างมาก วันนี้ MIRROR อยากให้สาวๆ ได้เตรียมร่างกายให้พร้อมเพื่อสร้างเกราะป้องกันความหนาวเย็นที่ต้องไปสัมผัส ด้วยการปรับสมดุลให้กับร่างกายด้วย "สมุนไพรพื้นบ้าน" หรือ "สมุนไพรแก้หนาว"
...
"สมุนไพร" ปรับ "ธาตุน้ำ"
ทั้งนี้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนไทย นายแพทย์ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ระบุว่า ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูหนาว หลายพื้นที่ของประเทศไทยมีสภาพภูมิอากาศค่อนข้างเย็นลง ส่งผลกระทบต่อความสมดุลภายในร่างกาย ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคระบบทางเดินหายใจ ซึ่งตามหลักและทฤษฎีของศาสตร์การแพทย์แผนไทย มีการระบุความชุกของการเกิดโรคในช่วงฤดูหนาวไว้ว่า เมื่อสภาพภูมิอากาศลดต่ำลง มักจะส่งผลให้ "ธาตุน้ำ" ในร่างกายเกิดความแปรปรวนหรือเสียสมดุลได้ง่าย ผู้ที่มีโรคประจำตัว หรือร่างกายไม่สามารถปรับตัวตามสภาพอากาศได้ทัน จะป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับธาตุน้ำ วิธีการปรับธาตุน้ำดังกล่าว ก็สามารถทำได้ด้วยการรับประทาน "สมุนไพร" ที่มีฤทธิ์แก้อากาศที่หนาวเย็น
"ธาตุน้ำ" กระทบ "ธาตุไฟ"
อาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวกับ "ระบบทางเดินหายใจ" และมาในฤดูหนาวหรือช่วงที่อากาศหนาวเย็น คือ หวัด น้ำมูกไหล ภูมิแพ้อากาศ ทั้งนี้หากติดเชื้อแบคทีเรียซ้ำ จะทำให้อาการของโรครุนแรงมากยิ่งขึ้น และผลจากการแปรปรวนของธาตุน้ำ จะทำให้เลือดลมไหลเวียนไม่สะดวก เกิดอาการไอ จาม คัดจมูก ท้องอืดท้องเฟ้อ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ส่งผลต่อ ธาตุไฟ ในร่างกายเสียสมดุลไปด้วย จนทำให้เกิดอาการไข้ เจ็บคอ หรือเกิดอาการอักเสบตามมา
สมุนไพรพื้นบ้าน "สมุนไพรแก้หนาว"
การสร้างเกราะป้องกันความเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้นช่วงฤดูหนาว ควรเน้นการบริโภคอาหาร ที่มีส่วนประกอบของ "สมุนไพร" อย่างสมุนไพรรสเปรี้ยว รสขม และรสเผ็ดร้อน เนื่องจาก "สมุนไพรรสเปรี้ยว" จะช่วยขับเสมหะ บรรเทาอาการไอ ทำให้ชุ่มคอ ได้แก่ มะเขือเทศ มะนาว มะขาม ผักติ้ว ใบชะมวง ส่วน "สมุนไพรรสขม" ช่วยแก้ไข้ ต้านการอักเสบ ได้แก่ มะแว้งต้น มะแว้งเครือ มะเขือพวง ขี้เหล็ก และ "สมุนไพรรสเผ็ดร้อน" จะช่วยเพิ่มความอบอุ่นของร่างกาย บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวก และบรรเทาอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ได้แก่ ขิง ข่า ขมิ้น ตะไคร้ แมงลัก กระเทียม ด้วยเหตุนี้เอง...สมุนไพรรสเปรี้ยว รสขม และรสเผ็ดร้อน จึงช่วยเสริมเกราะป้องกันอาการเจ็บป่วยช่วงฤดูหนาวได้ หรือในช่วงที่เราต้องเดินทางไกลไปเจอกับสภาพอากาศที่หนาวเย็นด้วย
...
เมนูอาหารที่ทำจาก "สมุนไพรแก้หนาว"
จากรสชาติของสมุนไพรทั้ง 3 รส สาวๆ อาจจะยังไม่รู้ว่าจะทานอะไรดี วันนี้ MIRROR มีเมนูอาหาร "สมุนไพรแก้หนาว" มาแนะนำ อย่างเช่น แกงส้ม ต้มยำ ยำผักสมุนไพร หรือจะน้ำพริกผักลวก อย่างน้ำพริกมะขามก็ยิ่งดี นอกจากนี้ยังแนะนำเมนูหมูชะมวงหรือไก่ผัดขิง ปลาผัดตะไคร้ ก็ยังได้ ส่วนน้ำสมุนไพร แนะนำให้ดื่มน้ำขิง น้ำตะไคร้ น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะขาม น้ำมะนาว น้ำอัญชันมะนาว และเมนูของหวานก็เป็นแมงลักน้ำแดง ว่าแล้วก็น่ารับประทานทุกเมนูจริงๆ
อย่างไรก็ตาม จากเรื่อง "สมุนไพรแก้หนาว" จะช่วยปรับ "ธาตุน้ำ" ให้สมดุลกับร่างกายแล้ว สาวๆ เองก็ควรที่จะทำร่างกายให้อบอุ่น ด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าที่หนาและป้องกันลมและอากาศที่หนาวเย็นด้วย สำคัญคือดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะหากเที่ยวแล้วป่วย หรือป่วยแล้วเดินทางไปเที่ยวมันก็ไม่น่าจะสนุกนะคะสาวๆ