“สมอง” เป็นอวัยวะที่สำคัญมากอวัยวะหนึ่งของมนุษย์ เพราะทำหน้าที่ควบคุมสั่งการทั้งอัตโนมัติและภายใต้การควบคุมของจิตใจ การควบคุมสั่งการอัตโนมัติ ได้แก่ การควบคุมสั่งการอวัยวะภายใน ได้แก่ หัวใจหรือระบบหลอดเลือดทั่วร่างกาย ส่วนการควบคุมสั่งการภายใต้การควบคุมของจิตใจ ได้แก่ การควบคุมแขนขาของร่างกาย เป็นต้น ดังนั้นหากเกิดความผิดปกติที่สมอง ย่อมส่งผลกระทบต่อร่างกาย โดยเฉพาะการที่มี “เลือดออกในสมอง” คอลัมน์ “ศุกร์สุขภาพ” สัปดาห์นี้จึงมีเรื่องราวของเรื่องนี้มาฝากกัน
รู้จักสมองและหลอดเลือดในสมอง
• ภายในกะโหลกศีรษะของมนุษย์ ประกอบด้วยเนื้อสมอง เลือดในหลอดเลือดและน้ำไขสันหลัง
• สมองของมนุษย์ใช้เลือดจากระบบหลอดเลือดที่มาเลี้ยงสมองทั้งหมดสองระบบ
การทำงานของสมองเปรียบเหมือนโรงงานอุตสาหกรรมโรงงานหนึ่ง ซึ่งต้องมีทั้งระบบไฟฟ้าและประปา โดยทั้งสองระบบนี้ต้องทำงานประสานและเกื้อกูลกันอย่างสมดุล ซึ่งระบบไฟฟ้านั้นเป็นส่วนของเซลล์ประสาทที่ประกอบขึ้นเป็นสมอง เป็นเซลล์ที่มีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวในการสร้าง และกระตุ้นกระแสไฟฟ้าด้วยตนเอง และถึงแม้ระบบศักดิ์ไฟฟ้าที่เกิดขึ้นจะมีปริมาณเพียงเล็กน้อย แต่ก็เพียงพอในการส่งต่อและกระตุ้นระบบประสาท เพื่อให้เกิดการทำงาน ส่วนระบบประปาก็คือระบบหลอดเลือดและเลือดที่เป็นตัวนำสารอาหารและออกซิเจนมาเลี้ยงเซลล์ประสาท เพื่อให้เซลล์ประสาทสามารถสร้างศักดิ์ไฟฟ้าขึ้นมากระตุ้น และส่งต่อการทำงานให้กันและกันนั่นเอง นอกจากทั้งสองระบบใหญ่ๆ นี้แล้ว การทำงานของระบบประสาทยังอาศัยการส่งต่อข้อมูลด้วยสารเคมีในปริมาณเพียงเล็กน้อยร่วมด้วย เพื่อสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาทกันและกันด้วย
...
ระบบหลอดเลือดในสมอง
ระบบหลอดเลือดและเลือด เป็น 1 ใน 3 ขององค์ประกอบที่สำคัญที่บรรจุอยู่ในกะโหลกศีรษะ นอกเหนือจากน้ำไขสันหลังและเนื้อสมอง หลอดเลือดที่มาหล่อเลี้ยงสมองนั้นเริ่มต้นจากหัวใจ ซึ่งทำหน้าที่เป็นเครื่องสูบน้ำหลักของร่างกายมนุษย์ ประมาณร้อยละ 20 ของเลือดทั้งหมดที่ถูกส่งออกมาจากหัวใจจะนำไปที่สมอง เพื่อทำให้สมองสามารถทำงานได้เป็นปกติ
หลอดเลือดที่ออกมาจากหัวใจจะเริ่มต้นจากหลอดเลือดแดงชื่อว่า Aorta หลอดเลือดแดงใหญ่นี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นท่อประปาหลักที่จะนำเลือดแดงที่มีทั้งสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะสมอง หลอดเลือดแดงใหญ่นี้จะให้แขนงออกมา เพื่อเป็นท่อลำเลียงเลือดไปสู่สมอง ระบบหลอดเลือดไปเลี้ยงสมองสามารถแบ่งออกเป็น 2 ระบบ
ระบบหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองนั้น เริ่มต้นแยกออกจากหลอดเลือดแดงใหญ่ที่ชื่อ Aorta โดยจะมีแขนงเส้นเลือดแยกออกมาทั้งหมด 4 เส้น โดย 2 เส้นแรกจะเป็นต้นกำเนิดของระบบหลอดเลือดสมองส่วนหน้า และหลอดเลือดอีก 2 เส้น จะวิ่งขนานไปกับกระดูกสันหลังระดับคอแล้วเข้าสู่กะโหลกศีรษะ ไปเป็นต้นกำเนิดของระบบหลอดเลือดสมองส่วนหลัง ซึ่งทั้งสองระบบจะเชื่อมต่อกันอีกครั้งด้วยหลอดเลือด เชื่อมต่อจำนวน 2 เส้นแบ่งเป็นด้านซ้ายและขวา ทั้งนี้ ดูคล้ายเป็นการออกแบบที่น่าทึ่งของธรรมชาติ ที่ได้สร้างระบบรองรับสำรองไว้เพื่อป้องกันไม่ให้สมองต้องพึ่งหลอดเลือดเพียงเส้นเดียว หากมีการอุดตันหรือตีบของหลอดเลือดที่มาเลี้ยงสมองเส้นใดเส้นหนึ่งจากทั้งหมด 4 เส้นที่กล่าวมาข้างต้น ก็จะเกิดการนำเลือดมาทดแทนจากเครือข่ายเชื่อมโยงที่ถูกออกแบบไว้เป็นการป้องกันสมองขาดเลือดนั่นเอง
ระบบหลอดเลือดสมองส่วนหน้าที่เริ่มต้นมาจากหัวใจนั้น แยกออกเป็นเส้นเลือดคอมมอนคาโรติดด้านซ้าย และด้านขวา (Left and right common carotid) หลอดเลือดแดงคู่นี้เป็นหลอดเลือดแดงใหญ่สำคัญคู่หน้าที่จะเป็นท่อลำเลียงเม็ดเลือดแดงหลักไปเลี้ยงศีรษะ รวมทั้งบริเวณใบหน้าด้วย หลอดเลือดแดงนี้จะแยกตัวออกเป็นสองแขนง เส้นหนึ่งจะวิ่งเข้าไปในกะโหลกศีรษะเพื่อไปเลี้ยงสมอง ส่วนอีกเส้นหนึ่งจะเป็นเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงบริเวณหน้า และอีกครั้งที่เป็นการออกแบบที่น่าทึ่งของธรรมชาติโดยได้สร้างระบบการเชื่อมต่อของเลือดทั้งสองไว้ เพื่อเป็นการรองรับเป็นระบบสำรองไว้ป้องกันไม่ให้สมองต้องพึ่งหลอดเลือดเพียงเส้นเดียว
ระบบหลอดเลือดสมองส่วนหน้ามีการเริ่มต้นจากหัวใจเช่นเดียวกัน หลอดเลือด จำนวน 2 เส้น โดยจะเริ่มมาจากแขนงหลอดเลือดทางซ้ายและขวา หลอดเลือดทั้งสองจะวิ่งตรงขึ้นไปขนานกับกระดูกสันหลังระดับคอทางด้านข้างซ้ายและขวา จนถึงกระดูกสันหลังระดับคอลำดับที่หนึ่งก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในกะโหลกศีรษะ เพื่อเลี้ยงสมองทางด้านหลัง ได้แก่ ก้านสมองและสมองน้อย
ระบบหลอดเลือดทั้งสองระบบคือ ส่วนหน้าและส่วนหลังจะมีการเชื่อมต่อกันด้วยหลอดเลือดเชื่อมต่อที่มีชื่อว่า Posterior communicating artery ทำให้เกิดการลำเลียงเม็ดเลือดแดงอย่างต่อเนื่องสำหรับสมองส่วนหน้าและส่วนหลัง เมื่อมีการอุดตันหรือตีบของหลอดเลือดขึ้น ระบบสำรองที่เกิดจากการเชื่อมต่อไว้นี้จะมีบทบาทสำคัญในการนำสารอาหารและออกซิเจนไปสู่สมอง การช่วยเหลือจะเกิดขึ้นไปตลอด จนกว่าจะมีการบกพร่องของการลำเลียงเม็ดเลือดแดงขึ้นอีก ก็จะทำให้เกิดอาการผิดปกติทางระบบประสาทขึ้น ในบางครั้งถึงแม้จะมีระบบเชื่อมต่อไว้ช่วยเหลือในกรณีที่เกิดปัญหาการขาดเลือดไปเลี้ยงสมอง แต่ก็ยังทำให้เกิดอาการผิดปกติทางระบบประสาทขึ้นได้ เพราะระบบเชื่อมต่อนี้ไม่สามารถนำเลือดมาเลี้ยงสมองเพื่อเป็นการทดแทนได้อย่างเพียงพอ สำหรับกายวิภาคของระบบหลอดเลือดดำของสมองนั้น มิได้กล่าวไว้อย่างละเอียดในที่นี้ อย่างไรก็ตาม ระบบหลอดเลือดดำของสมองมนุษย์ มักมีแบบแผนของการเชื่อมต่อที่ซับซ้อนและมีการเชื่อมโยงกันไปทั้งหมด ระบบหลอดเลือดดำหลักจะอยู่ลึกในใจกลางของสมอง ทำหน้าที่เป็นท่อระบายน้ำทิ้งหลักของสมองกลับไปสู่หัวใจผ่านทางหลอดเลือดดำที่วิ่งผ่านคอลงไป
...
นอกเหนือจากกายวิภาคของระบบหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงสมองข้างต้นแล้ว หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงสมองของมนุษย์ยังมีลักษณะพิเศษ กล่าวคือ หลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงสมองจะให้แขนง หรือเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กมากๆ ประมาณเส้นผม เส้นเลือดฝอยขนาดเล็กมากๆ นี้ จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดเล็กมากเมื่อเปรียบเทียบกับเส้นแดงหลัก
ความแตกต่างของเส้นผ่าศูนย์กลางของหลอดเลือดฝอยกับหลอดเลือดแดงหลักที่มีมากนี้ ได้ถูกออกแบบโดยธรรมชาติเพื่อรักษาให้ความดันโลหิตสม่ำเสมอตั้งแต่เลือดแดงออกจากหัวใจ และไปส่งถึงสมอง คล้ายกับการวางท่อประปาเพื่อรดน้ำในสนามหญ้านั่นเอง หากไม่มีความแตกต่างนี้ก็จะทำให้เนื้อสมองได้รับเลือดแดงไม่เพียงพอ เนื่องจากความดันโลหิตที่ตกลงไปเรื่อยๆ นั่นเอง ในขณะเดียวกันความแตกต่างนี้ก็เป็นจุดอ่อนสำคัญที่มีโอกาสให้เป็นตำแหน่งที่จะเกิดการฉีกขาดของหลอดเลือดแดง ทำให้มีเลือดออกในสมองได้ในที่สุด
สัปดาห์หน้ายังมีเนื้อหาของสาเหตุและอาการของ “โรคเลือดออกในสมอง” กันต่อ รอติดตามกันนะครับ
------------------------------------------------------------------
...
แหล่งข้อมูล
คู่มือความรู้ภาคประชาชน เรื่องเลือดออกในสมอง โดย ผศ. นท. นพ.สรยุทธ ชำนาญเวช