พาทัวร์ร้านอาหาร The Cheesecake Factory สาขาแรกในประเทศไทย ร้านอาหารชื่อดังส่งตรงจากอเมริกา ด้วยเมนูชีสเค้กที่ขึ้นชื่อ พร้อมรายการอาหารจานยักษ์กว่า 200 เมนู
The Cheesecake Factory หนึ่งในร้านอาหารชื่อดังจากประเทศอเมริกา ถ้าใครได้เคยไปอเมริกาสักครั้งต้องคุ้นชื่อนี้อย่างแน่นอน โดย The Cheesecake Factory เป็นหนึ่งในร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องชีสเค้กในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างมาก โดยมีอายุก่อตั้งประมาณ 40 ปี มีสาขากว่า 200 สาขาทั่วโลก โดยล่าสุดมาตั้งอยู่ในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อย

จุดเริ่มต้นของร้าน The Cheesecake Factory เริ่มจากการทำร้านคาเฟ่เล็กๆ ที่ขายชีสเค้กเพียงอย่างเดียว จนพัฒนาต่อยอดไปถึงเมนูอาหารอย่างหลากหลาย เรื่องราวเริ่มต้นจาก เอเวลิน โอเวอร์ตัน เธอได้พบสูตรอาหารในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจแรกในการทำชีสเค้ก "สูตรดั้งเดิม" จนเกิดเป็นร้านเบเกอรีเล็กๆ ที่ต่อยอดไปถึงรุ่นลูก และหลาน จนกลายเป็น The Cheesecake Factory Bakery ซึ่งสาขาแรกตั้งอยู่ที่ เบเวอร์ลีฮิลส์ ในสหรัฐอเมริกาในปี 1978 จนปัจจุบันมีชื่อเสียงขยายสาขาไปอย่างมากมายทั่วโลก
...

ไทยรัฐออนไลน์ ได้เดินทางไปยัง The Cheesecake Factory เพื่อพิสูจน์ความอร่อยจากชีสเค้ก และเมนูอาหารที่หลากหลายบนห้างชื่อดังในกลางเมืองอย่าง “เซ็นทรัลเวิลด์” ที่ทางร้านดังจากประเทศอเมริกาได้เลือกโลเกชันร้านไว้ที่ในกลางเมืองกรุงเทพฯ แห่งนี้ เพื่อเป็นสาขาแรกของทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

คอนเซปต์ของร้าน The Cheesecake Factory ที่นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องชีสเค้กอันโด่งดังแล้ว รายการอาหารของที่นี่มีมากกว่า 200 กว่าเมนูให้ได้เลือกสรร ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารจากฝั่งทางยุโรปทั้งหมด โดยในสาขาที่ประเทศไทยได้นำเมนูเหล่านี้มาประยุกต์บ้างบางเมนู เพื่อให้เข้ากับคนไทยมากยิ่งขึ้น พร้อมกรรมวิธีการทำอาหารที่เริ่มต้นเมนูจากขั้นตอนแรก เช่น ขนมปังทำเอง ซอสที่ใช้ประกอบอาหารทำเอง เพื่อความสดใหม่ใช้วันต่อวันในทุกวัน พร้อมทั้งการบริการอย่างสนุกสนานจากบริกรในร้านที่มีอย่างหลากหลายเชื้อชาติ


...
อาหารของที่นี่จะเสิร์ฟมาในจานใหญ่ยักษ์ เพื่อให้ผู้ทานได้แชร์กัน โดย 1 เมนูสามารถทานได้ถึง 3-4 คนเลย เรียกได้ว่าหากไปกันหลายคน ไม่ต้องสั่งเยอะ การแชร์กันสามารถทำให้ราคานั้นออกมาย่อมเยา และคุ้มค่า
ฟังประวัติ และความเป็นมาอยู่สักพัก ทางร้านได้เปิดเมนูเรียกน้ำย่อย (Appetizers) เพื่อรองท้องที่สามารถทำให้อิ่มได้เพราะทุกจานเสิร์ฟมาในรูปแบบจานยักษ์ ทั้งหมด 5 เมนูด้วยกันประกอบด้วย สลัดไก่พร้อมแป้งทาโก้ มักกะโรนีชีสบอล เห็ดหอมยัดไส้ ผักโขมอบชีส ทานพร้อมทาโก้ และกุ้งลายเสือย่าง

Grilled Tiger Shrimp (กุ้งลายเสือย่าง) สไตล์อเมริกันรสชาติกลางที่ถูกปรับรสเพื่อคนไทย โดยจะเป็นกุ้งลายเสือย่างพร้อมมันกุ้งเยิ้มๆ ทานคู่กับซีฟู้ด รสชาติออกจะเบาบางไปสักนิดสำหรับเมนูนี้ ด้วยน้ำจิ้มที่มีความเปรี้ยวนำ อาจเพราะความสมดุลของอาหารที่ทำให้คนไทยสามารถทานได้ ฝรั่งทานดี

...
Luau Salad (สลัดไก่ ซิกเนเจอร์) มีหลากหลายวัตถุดิบในนี้เพื่อให้ผู้ทานได้โภชนาการครบถ้วน เริ่มจากผักสลัดที่นำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด ที่ไม่สามารถหาทานได้ในประเทศไทย รวมถึงน้ำสลัดสูตรพิเศษ 4 ตัว ที่ถูกปรับมาเพื่อรสชาติไทยอย่างแท้จริง จากการได้ทดลองชิมรสชาติค่อนข้างครบถ้วน สำหรับสายผักต้องชื่นชอบ มีความเบาจากผักสลัด หวาน หอม เปรี้ยวตัดกันกำลังพอดีทานพร้อมแป้งทาโก้ที่มาสร้างสลัดจานนี้ให้อร่อยมากยิ่งขึ้น

Fried Macaroni and Cheese (มักกะโรนีชีสบอล) อาหารดั้งเดิมของชาวอเมริกัน รสชาติหอมหวานจากครีมเนยซอสมารินารา แป้งกรอบมันชิ้นโต ผสมชีสพามาโรมาโน โรยพาเมซานชีสอีกทีด้านบน เมนูนี้ถ้าใครเป็นสายชีสต้องชอบอย่างแน่นอน แต่ด้วยขนาดจานที่ใหญ่อาจมีความเลี่ยนนิดหน่อยต้องค่อยๆ ทานแต่พอดี

...
Stuffed Mushrooms (เห็ดหอมยัดไส้สไตล์อเมริกา) หนึ่งในเมนูที่เชฟการันตีว่าอยู่ในใจคนไทยอย่างแน่นอน ด้วยความครบรส เสิร์ฟมาพร้อมกับมารินาราไวน์ซอสที่ทำให้รสแห่งความเป็นยุโรป ฉ่ำอยู่ในปากผู้ทาน ทางเราได้กินคำแรกตัวซอสทำมาอย่างที่ว่าไว้มีความนุ่มนวล และกลมกล่อม พร้อมชูรสของเห็ดหอมได้อย่างอร่อย และลงตัว

Hot Spinach and Cheese Dip (ผักโขมอบชีส พร้อมซอสชีส และทาโก้) หนึ่งในเมนูขึ้นชื่อที่คาดว่าน่าจะถูกปากคนไทยอย่างแน่นอนด้วยผักโขมอบชีสสไตล์อเมริกันแท้ นำมาทานคู่กับทาโก้กรอบๆ พร้อมซอสชีสสูตรพิเศษ และตัดเลี่ยนด้วยเครื่องเคียงจานนี้ครบรส และทานได้เพลินๆ
หลังตะลึงกับจานออร์เดิร์ฟอยู่สักพัก ซึ่งทานเล่นๆ ก็หมดไปครึ่งท้องแล้ว เมนูหลักเมนคอร์สก็เข้ามาเสิร์ฟทันที แต่ละจานมีความน่าสนใจ โดยมีไก่ และวัตถุดิบทำเองเป็นส่วนประกอบหลักอยู่ด้วย

Pasta With Chicken and Lemon Garlic Sauce เส้นสปาเกตตี้ผสมซอสเลมอนที่มีความหอมหวาน ตัดด้วยความเปรี้ยวแบบพอดี พร้อมกับตัวเนื้อไก่ที่นุ่ม ทานได้เพลินๆ เป็นเมนูจากหลักที่กลมกล่อมและตัดภาพความเลี่ยนจากไวท์ซอสที่เห็นได้เป็นอย่างดี

Chicken Madeira อกไก่ปรุงรสด้วยสมุนไพรจากประเทศอิตาลี เสิร์ฟพร้อมมันบด และตัดเลี่ยนด้วยหน่อไม้ฝรั่ง จานนี้รสชาติอร่อยถูกปาก ซึ่งเป็นซอสเดียวกันกับเห็ดหอมยัดไส้ที่เสิร์ฟมาในตอนแรก แต่ด้วยความเป็นอกไก่อาจจะดูขาดสีสันไปสักนิด แต่โดยรวมแล้วมีความหอมของเครื่องแกง และสมุนไพร และมันบดที่มีความพิเศษชูรสได้เป็นอย่างดี

Korean Fried Chicken ข้าวหน้าไก่เกาหลี หนึ่งเมนูที่ถ้าใครที่ชื่นชอบการทานไก่ซอสเกาหลีต้องลอง ซึ่งทางร้านการันตีถึงความอร่อยที่มากกว่าร้านอื่นๆ รสชาติหวานกรอบเหมือนไก่เกาหลีที่เคยได้ทาน และยังคงชูเรื่องของความนุ่มจากเนื้อไก่ที่มีความพอดี เสิร์ฟพร้อม หอมสลัด แตงกวา และอโวคาโด แต่ถ้าสนใจในการหาความพิเศษ และแปลกใหม่สำหรับจานนี้ยังคงมีไม่มากนัก

Thai Coconut Lime Chicken หนึ่งในอาหารที่ถูกปรับปรุงสูตรให้เข้ากับชาวไทย-อเมริกัน มีรสชาติคล้ายกับแกงเขียวหวานไทยบ้านเรา แต่มีกลิ่นอายของความเป็นอเมริกันที่มีความแปลกใหม่ หวาน ตัดเปรี้ยว ซึ่งอาจจะเหมาะสำหรับการทานในมื้อพิเศษที่อยากลองอะไรใหม่ๆ และรสชาติที่แตกต่างกันออกไป

Bee Sting Pizza พิซซ่าที่เสิร์ฟด้วยซอสน้ำผึ้ง ซึ่งเป็นวัตถุดิบพิเศษสำหรับร้าน The Cheesecake Factory โดยเฉพาะซึ่งหาไม่ได้จากทั่วไป และมีไส้กรอกอิตาลีหมูโฮมเมดทำเอง อบใหม่ทุกวัน เสิร์ฟพร้อมกับเปปเปอโรนีด้านบน ตัดเลี่ยนด้วยพริกนำเข้าจากอเมริกาแท้ๆ มีรสชาติเผ็ดเบาๆ อย่างถูกปาก

สิ่งที่ขาดไม่ได้ และเป็นไฮไลต์สำหรับอาหารมื้อนี้คงหนีไม่พ้น ชีสเค้ก (Cheese Cake) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิมของร้านอย่างแน่นอน โดยพวกเราได้ชิมทั้งหมด 5 รสชาติที่มีความแตกต่างกันออกไป และต้องยอมรับว่าเรื่องชีสเค้กต้องยกให้ The Cheesecake Factory
เริ่มด้วยชีสเค้กสตรอว์เบอร์รีออริจินัล (Original Cheesecake) ชีสเค้กต้นตำรับสูตรดั้งเดิมจากทางร้าน ท็อปด้านบนด้วยสตรอว์เบอร์รีหวานฉ่ำทานเพลินๆ พร้อมวิปครีมที่เป็นเอกลักษณ์เมนูนี้พลาดไม่ได้, จานที่สอง และสาม คือ Godiva Chocolate Cheesecake ชีสเค้กช็อกโกแลตสูตรเข้มข้นทำจากช็อกโกแลตโกดิวา และ Tiramisu Cheesecake สำหรับคนชอบขนมสายเข้ม หอมช็อกโกแลต
จานนี้สายหวาน และกลมกล่อมห้ามพลาด เพราะมีความนุ่มนวลหอมคุกกี้ และครีมสด ทานคู่ไปกับช็อกโกแลตโอริโอ้อย่าง Cookies & Cream Dream Extreme Cheesecake แต่ถ้าอยากทานชีสเค้กในรูปแบบที่ไม่เลี่ยนมากคงต้องลอง Mango Key Lime Cheesecake ชีสเค้กหอมหวานผลไม้ ตัดเลี่ยนด้วยรสเปรี้ยวจากมะม่วง และมะนาวอร่อย ทานได้เพลินๆ ไม่เลี่ยน ปิดท้ายด้วย Salted Caramel Cheesecake รสชาติเค็ม และหวานอ่อนๆ จากซอสคาราเมลล้นๆ ที่ชูรสชาติผสมกับชีสเค้กได้อย่างลงตัว และไม่ธรรมดา

จานการที่ได้ลิ้มรส และลองทานทั้งอาหาร และของหวานบอกเลยว่าที่ The Cheesecake Factory นั้นเสิร์ฟมาให้ในปริมาณจานที่ใหญ่มาก ข้อควรระวัง คือ การเลือกสั่งเมนูควรสั่งอย่างระวัง เพราะอาจทำให้ทานไม่หมดได้
โดยอาหารแต่ละเมนูมีความแปลกใหม่ที่บางเมนูสามารถเสิร์ฟเป็น Fine Dinning ได้เลย และบางจานอาจจะยังไม่ไม่ถูกปากคนไทยมากนัก เพราะเมนูที่ถูกปรับให้สามารถทานได้ทั่วโลก แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้ก็ยังเหมาะสมกับคนชอบลองทานอาหารสไตล์ยุโรป และสัมผัสวัฒนธรรมชาติอื่นๆ อย่างแท้จริง
ขาดไม่ได้ คือ เมนูชีสเค้ก ที่นี่มีให้เลือกมากกว่า 29 เมนู ในราคาย่อมเยาในเรทราคา 300-400 บาท พร้อมกับชีสเค้กชิ้นใหญ่ที่คุ้มค่า สำหรับใครที่ชอบทานชีสเค้ก และของหวานต้องมาลองให้ได้สักครั้งแล้วจะติดใจ

ร้าน The Cheesecake Factory จะเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 4 ธันวาคม 2566 นี้ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 (โซนหน้าห้าง) ใกล้กับร้าน POP MART และ Shake Shack เวลาเปิด-ปิด ตามเวลาของห้างสรรพสินค้า อย่างไรก็ตาม วันแรกร้านจะเปิดให้ได้ทดลองทานอาหารในเวลา 12.38 น. เป็นต้นไป ซึ่งสามารถสำรองที่นั่ง และสอบถามข้อมูลได้ที่เพจ The Cheesecake Factory Thailand