คลายล็อกดาวน์เฟส 3 แล้ว ทำให้เกิดความหวังชุ่มชื่นหัวใจ เหนื่อยหนักกันมาหลายเดือน “คุณชายแป๊ะ” ขอเพิ่มพลังกายพลังใจ ด้วยการไปสักการะพระพุทธไสยาสน์ (หลวงพ่อโต) วัดป่าโมกวรวิหาร อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง ถือเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองชาวอ่างทอง พระนอนมีขนาดความยาว 22.58 เมตร ตามประวัติศาสตร์บอกเล่าว่า เป็นพระในสมัยสุโขทัย ลอยตามแม่น้ำเจ้าพระยามาจมอยู่ที่หน้าวัด ชาวบ้านช่วยกันบวงสรวงแล้วชักลากขึ้นมาไว้ที่ริมแม่น้ำ ก่อนที่ “สมเด็จพระศรีสรรเพชญ์ที่ 3” โปรดเกล้าฯให้ “พระยาราชสงคราม” เป็นแม่กองงานจัดการชะลอลากให้องค์พระห่างจากแม่น้ำที่มีกระแสน้ำกัดเซาะ โดย “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ” เสด็จควบคุมการชะลอองค์พระให้ห่างจากริมตลิ่ง 168 เมตร พร้อมพระราชทานนามวัดว่า “วัดป่าโมก” ด้วยว่ามีต้นโมกขึ้นอยู่มากมาย

“คุณชายแป๊ะ” ไหว้พระเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตเรียบร้อย ยามบ่ายคล้อยท้องเริ่มหิว จึงมองหาของกินอร่อยๆประจำถิ่น ถามไถ่จากชาวบ้านในพื้นที่ได้ความว่า แถวป่าโมกมีร้านอาหารดีๆอยู่หลายเจ้า แต่ที่แปลกกว่าเจ้าไหนต้อง “สวนอาหารแพริมน้ำ ป่าโมก” ร้านอาหารลอยอยู่บนแพริมบึงน้ำขนาดมหึมากว่า 100 ไร่ เจ้าของที่ขุดทรายมานานหลายสิบปี จนกลายเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ ผิวน้ำกระทบแสงแดดส่องประกายระยิบระยับ มีฝูงปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายเต็มบึง

...

ระหว่างปล่อยใจลอยไปกับวิวทิวทัศน์เบื้องหน้า เสียงทักทายของ “คุณอีฟ-กัญจน์ปณิดา นาคอุดม” เจ้าของร้านวัย 36 ปี ดังมาจากด้านหลัง “สวัสดีค่ะ บรรยากาศที่นี่ดีไหม”

“เคยทานอาหารริมแม่น้ำริมคลองมาหลายที่ เพิ่งเคยทานที่ริมบ่อทรายเป็นครั้งแรกครับ” ผมหันไปตอบตามเสียง

“มาถึงอ่างทอง ต้องลองชิมปลาแม่น้ำแท้ๆ ร้านเรามีให้ชิมหลากหลายชนิด” คุณอีฟพูดเปรยพร้อมบอกให้พนักงานนำ “ฉู่ฉี่ปลา-น้ำเงิน” ให้ชิมเป็นจานแรก ปลาน้ำเงินเนื้อแน่นหั่นเป็นท่อน ส่วนที่ติดกับพุงปลา ได้ความหนึบหนับอร่อย รสชาติฉู่ฉี่กลมกล่อม ทั้งเผ็ดทั้งเค็มกำลังดี หอมเครื่องพริกแกงทานคู่กับใบโหระพายิ่งอร่อย “ปลาน้ำเงิน” เป็นตระกูลปลาเนื้ออ่อนที่มีรสชาติอร่อยที่สุด ชาวบ้านในพื้นที่จับจากลำน้ำเจ้าพระยา ตัวหนึ่งหนักประมาณ 4-5 กิโลกรัม เมื่อทางร้านได้มาต้องนำมาหั่นเป็นท่อนๆ พร้อมประกอบอาหารได้หลายสไตล์ ทั้งฉู่ฉี่, ทอดกระเทียม, แกงป่า, ผัดฉ่า และต้มยำ ขึ้นกับความต้องการของลูกค้า

อีกหนึ่งจานเด็ดยกให้ “ต้มยำปลาม้าน้ำใส” ปลาม้าตามธรรมชาติในแม่น้ำเจ้าพระยา เนื้อหวาน แล่ติดหนัง ปรุงรสชาติต้มยำจี๊ดจ๊าดตามแบบฉบับคนอ่างทองยิ่งได้หอมหัวใหญ่ฝานลงไปเพิ่มรสชาติจัดจ้านถูกปากดีเชียว

ไม่ปล่อยให้เสียเวลา เจ้าของร้านเสิร์ฟต่อ “ปลาต้นน้ำผัดพริกแกง” ที่มาของ “ปลาต้นน้ำ” คือลูกปลาเนื้ออ่อนนั่นเอง เมื่อถึงเวลาวางไข่จะไปวางช่วงต้นน้ำ เพื่อหลบกระแสน้ำ ขนาดความยาว 7 เซนติเมตร เป็นขนาดพอเหมาะสำหรับทานแบบทอดกรอบ เพราะสามารถกินได้ทั้งตัว วิธีทำเริ่มจากนำปลาต้นน้ำไปทอดให้กรอบเสียก่อน แล้วผัดกับเครื่องพริกแกง ผัดแห้งๆได้รสชาติเข้มข้นจัดจ้าน ปลาต้นน้ำนำไปผัดพริกแกงและทอดกระเทียมก็อร่อยเหาะอย่าบอกใคร

...

มาถึงเมืองปลาแม่น้ำทั้งที แนะนำให้ลอง “ปลาคังลวกจิ้ม” เนื้อปลาแล่ติดหนังลวกสุกเสิร์ฟร้อนๆ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียวและใบขึ้นฉ่าย ปลาคังลวกเสิร์ฟกับขิงและใบมะกรูดช่วยดับคาวได้ดีเชียว เพิ่มความแซ่บด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดผสมเต้าเจี้ยว ตบท้ายด้วย “ทอดมันปลากราย” ใช้ปลากรายล้วนๆ นวดจนเหนียวเป็นเนื้อเดียวกัน คุณอีฟท้าให้ลองความอร่อยไม่เหมือนใคร

“ร้านอีฟถือเป็นน้องใหม่ใน อ.ป่าโมก ที่ยังคงรักษารสชาติความอร่อยตำรับดั้งเดิมของคนอ่างทอง จุดเด่นอยู่ที่ความอุดมสมบูรณ์ของลำน้ำเจ้าพระยา ทำให้มีปลาแม่น้ำหลากชนิดให้เลือกชิม นอกจากนี้ ยังมีอาหารป่าสร้างสีสันอย่างต่อเนื่อง วัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากชาวบ้านในพื้นที่ เสาะหามาขายให้ทางร้าน เพิ่มความหลากหลายด้วยเมนูอาหารอีสาน เป็นทางเลือกอีกทาง”

...

สนนราคาฉู่ฉี่ปลาน้ำเงิน 280 บาท, ทอดมันปลากราย 140 บาท, ปลาต้นน้ำผัดพริกแกง 180 บาท, ปลาคังลวกจิ้ม 160 บาท, ต้มยำปลาม้าน้ำใส หม้อไฟ 280 บาท นอกจากนี้ ยังมีเมนูปลาให้เลือกทาน อีกหลายชนิด ทั้งปลาลิ้นหมา, ปลาเบี้ยว, ปลาแดง, ปลาค้าว, ปลาหลด และปลาหมู ใครชอบทานอาหารป่าต้องลองแกงป่ากบ 120 บาท และปลาไหลผัดเผ็ด 180 บาท สวนอาหารแพริมน้ำ ป่าโมก เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. โทร.06-2936-2249 Facebook : สวนอาหารแพริมน้ำ ป่าโมก.


คุณชายแป๊ะ