เวียนมาบรรจบอีกแล้วสำหรับเทศกาลถือศีลกินผัก หรือที่หลายคนเรียกว่า ‘เทศกาลกินเจ’ โดยเฉพาะปีหลังๆ มานี้ คนรุ่นใหม่ก็หันมากินเจกันมากขึ้น บ้างก็เชื่อว่าจะได้บุญจากการไม่เบียดเบียนสัตว์ บ้างก็อยากได้สุขภาพที่ดีกลับมา แต่ถ้าใครยังสงสัยว่าจะกินเจไปทำไม? วันนี้มาหาคำตอบกัน!
ไทยรัฐออนไลน์ สืบเสาะเจาะหาความรู้ ความหมาย และความเชื่อเกี่ยวกับเทศกาลกินเจมาฝาก สำหรับคนที่ยังไม่ชัวร์ว่าปีนี้จะกินเจดีมั้ยนะ? ลองมาดูข้อดีของการกินเจกันก่อนมั้ยล่ะ เผื่อจะอยากลองถือศีลกินผักให้ครบ 10 วัน
(อ่านเพิ่ม แชร์ด่วน!หมอช้างเปิดรหัสลับดาว เผยความหมายกินเจวันที่1ถึง9 ดวงดี พ้นภัย)
เอาล่ะ ถ้าพร้อมแล้ว ล้อมวงมาอ่านกันดีกว่า...
1. ปีนี้ชวนกินเจ 9 วัน
สำหรับเทศกาลกินเจ ปี 2559 มีทั้งหมด 9 วันด้วยกันคือ ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 9 (ตามปฏิทินจีน) ซึ่งตรงกับวันที่ 1-9 ตุลาคม 2559 แต่ตามหลักโดยทั่วไปคนที่กินเจทุกปี เขามักจะกินเจล้างท้องก่อน 1 วัน ก็คือเริ่มกินผักละเว้นเนื้อสัตว์ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2559 กันแล้ว
...
2. ความหมายของการกินเจ
การกินเจ ไม่ใช่แค่การกินผักละเว้นเนื้อสัตว์ แต่ในทางพุทธศาสนานิกายมหายาน อธิบายไว้ว่า การกินเจคือการที่ชาวพุทธดำรงตนรักษาศีล 8 รวมถึงไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ประพฤติตนอยู่ในศีลธรรมอันดีงาม งดเว้นของเสพติดและอบายมุขทุกชนิด มีความบริสุทธิ์ สะอาด ทั้งกาย วาจา ใจ
3. สัญลักษณ์ธงเหลือง คืออะไร?
เมื่อเทศกาลกินเจมาถึงทีไร เรามักจะเห็นร้านขายอาหารเจเขาปักธงสีเหลืองๆ ไว้เต็มไปหมด เพื่อให้คนกินเจทราบว่าร้านเหล่านี้ปรุงอาหารที่ปราศจากเนื้อสัตว์มาขาย ซึ่งจริงๆ แล้ว ‘ธงเหลือง’ นี่เขาก็มีความหมายด้วยนะ รู้หรือไม่? ในอดีตธงที่มีพื้นธงสีเหลือง เป็นสีใช้กับคนสองกลุ่มเท่านั้น คือ กลุ่มกษัตริย์ราชวงศ์ และกลุ่มอาจารย์ปราบผี ดังนั้นในปัจจุบันที่ธงเจเป็นสีเหลืองจึงหมายถึงสีของพุทธศาสนาหรือผู้ทรงศีล โดยบนธงจะเขียนตัวอักษรสีแดงว่า ‘เจ’ แปลว่า ‘ของไม่มีคาว’ นั่นเอง
4. เจ VS มังสวิรัติ
มาถึงเรื่องที่หลายคนสับสนอยู่ไม่น้อย บางคนมักเข้าใจผิดว่าอาหารเจกับอาหารมังสวิรัติคืออย่างเดียวกัน จริงๆ แล้วมันต่างกันนะคะคุณผู้ชม! เริ่มจากอาหารเจ เป็นอาหารที่ปรุงโดยปราศจากเนื้อสัตว์ แต่...แต่ต้องละเว้นผักที่มีกลิ่นฉุนต่างๆ ด้วย เช่น กระเทียม หัวหอม ต้นหอม กระเทียมโทนจีน กุยช่าย ผักชี และใบยาสูบ (น้ำผึ้งเขาก็ห้ามกินด้วยนะจ๊ะ) ส่วนอาหารมังสวิรัติเป็นอาหารที่ละเว้นเนื้อสัตว์เช่นกัน แต่สามารถกินผักได้ทุกชนิด และยังสามารถกินนมและไข่ได้ด้วย
5. อาหารเจ ประโยชน์ดีๆ เพื่อสุขภาพ
อาหารเจเป็นอาหารที่มีประโยชน์ เป็นอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนไม่ต่างจากการทานอาหารที่มีเนื้อสัตว์ทั่วไป เนื่องจากปรุงจากถั่วเหลืองเป็นหลัก ได้โปรตีนจากถั่วต่างๆ ได้วิตามินจากผักผลไม้ แถมยังเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ช่วยผ่อนภาระการทำงานของระบบย่อยอาหาร หลังจากที่ย่อยอาหารหนักๆ อย่างเนื้อสัตว์มานานตลอดทั้งปี และยังดีต่อระบบขับถ่ายอีกด้วย ก็กินผักกินผลไม้เยอะ มันก็ช่วยให้คล่องขึ้นมากอยู่ ไม่เชื่อลองดูสิ!
...
6. ล้างพิษได้ด้วยนะเธอ!
ใครที่มองหาวิธีล้างพิษให้ร่างกาย ไม่ต้องไปซื้อดีท็อกซ์มาทานหรือไปสวนล้างลำไส้ให้สิ้นเปลือง รู้หรือไม่? ว่าการกินเจก็ช่วยล้างสารพิษให้ร่างกายได้เช่นกัน เพราะช่วยให้ร่างกายขับถ่ายของเสียออกได้หมด จึงไม่มีสารพิษตกค้างอยู่ภายใน เมื่อรับประทานเป็นประจำโลหิตจะถูกฟอกให้สะอาดขึ้นเรื่อยๆ เซลล์ต่างๆ ของร่างกายเสื่อมสลายช้าลง ทำให้อายุยืนยาว มีผิวพรรณสดชื่นผ่องใส แถมอวัยวะภายใน เช่น หัวใจ ไต ม้าม ตับ ปอด ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ทำงานได้สมบูรณ์มากขึ้น
...
7. ต้านพิษได้ทนทาน
นอกจากนี้ การกินเจเป็นประจำยังทำให้ร่างกายสามารถต้านทานต่อสารพิษต่างๆ ในชีวิตประจำ เช่น สารเคมี ยาฆ่าแมลง ฝุ่นควัน ได้สูงกว่าคนปกติ ผู้ที่กินเจมักไม่พบว่ามีอาการป่วยรุนแรง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดตีบ โรคริดสีดวงทวาร มะเร็งในทางเดินอาหาร โรคกระเพาะ ไขมันอุดตันในเส้นเลือด โรคไต ฯลฯ
8. กินเจ มันดีต่อใจ!
การกินเจทำให้เราจิตใจผุดผ่อง เพราะเรางดบริโภคเนื้อสัตว์ ได้ละเว้นการฆ่าสิ่งมีชีวิต หยุดการสร้างบาป เวรกรรม ทำให้ไม่เกิดการอาฆาต พยาบาท จึงปราศจากศัตรูทั้งมนุษย์และสัตว์ที่คิดมุ่งทำร้ายตามจองเวร อีกทั้งทำให้เราเกิดความเมตตา ความสงบร่มเย็นในใจ สุขุม อารมณ์ไม่ฉุนเฉียวหรือขี้หงุดหงิด ไม่โมโหง่าย ช่วยเกื้อกูลส่งเสริมให้บารมีธรรมของผู้ที่ถือศีลกินเจให้สูงส่งยิ่งขึ้น
...
9. วิธีกินเจแบบคลีนๆ ไม่อ้วน
ส่วนสาวๆ ที่อยากกินเจแต่กลัวน้ำหนักขึ้น มีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้
- เลือกทานผักผลไม้ให้มากกว่าข้าวหรือแป้ง
- ต้องทานแป้งเพื่อให้ร่างกายมีพลังงาน แต่ทานให้พอดี
- แป้งที่ทานควรเลือกเป็นข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท หรือข้าวหุงผสมกับธัญพืชถั่วงา หลีกเลี่ยงข้าวขัดขาว
- ปรุงอาหารเจอย่าใส่น้ำมันเยอะ หรือเลือกใช้น้ำมันดี เช่น น้ำมันเมล็ดชา น้ำมันคาโนล่า น้ำมันมะกอก
- อย่ากินอาหารเจที่หวานจัด เค็มจัด เพราะทำให้ตัวบวม น้ำหนักขึ้น
- เน้นโปรตีนจากถั่วต่างๆ ให้มาก เช่น อาหารเจจากโปรตีนเกษตร น้ำเต้าหู้ ข้าวกล้องถั่วงา ทานบ่อยๆ ระหว่างมื้อหลัก ช่วยให้ไม่หิวหน้ามืด และไม่วูบ
10. กินเจบูชาดวงดาวเสริมบารมี
สุดท้ายนี้ สำหรับคนที่อยากรู้ลึกลงไปอีก ว่าการกินเจช่วยเสริมบุญด้านไหน อย่างไรบ้าง งานนี้หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา หมอดูเจ้าของฉายาจอมเก็บสถิติออกมาให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐออนไลน์ (อ่านเพิ่ม แชร์ด่วน!ความหมายกินเจวันที่1ถึง9 ดวงดี พ้นภัย)
9 วันในการกินเจ นอกจากจะได้ละเว้นการบริโภคเนื้อสัตว์แล้ว ยังเป็นการบูชาดวงดาวทั้ง 9 ดวงในทางโหราศาสตร์จีน ซึ่งดาวแต่ละดวงจะส่งผลดีต่อชีวิตในด้านต่างๆ
วันที่ 1 ดาวทันหลัน รับโชคการเริ่มต้นสิ่งใหม่
วันที่ 2 ดาวจี่เหมิน รับโชคเรื่องสุขภาพ
วันที่ 3 ดาวลี่ฉุน เป็นที่รักและได้รับความเมตตา
วันที่ 4 ดาวเหวินฉวี่ สติปัญญาและความก้าวหน้าด้านการศึกษา
วันที่ 5 ดาวเหลียนเจิน ความมั่นคงในชีวิต
วันที่ 6 ดาวอู๋ฉวี่ การงานก้าวหน้า เลื่อนยศตำแหน่ง
วันที่ 7 ดาวพั่วจวิน มีชัยเหนือศัตรูคู่แข่ง
วันที่ 8 ดาวจั่วฝู่ โชคลาภเงินทอง
วันที่ 9 ดาวอิ้วปี่ ชื่อเสียง สำเร็จสมปรารถนา
เอาเป็นว่า ใครจะกินเจด้วยเหตุผลอะไรเราว่ามันก็ดีทั้งนั้น ดีทั้งต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจ แล้วทำไมจะไม่ลองดูสักตั้งล่ะเนอะ!