รมว.วีระ โรจน์พจนรัตน์ (3 จากขวา), ศ.สุกัญญา สุจฉายา, เพ็ญจันทร์ เจียมกรกต จาก กทม. ชวนชิมช็อปในงานเทศกาล “กรุงเทพฯ : เมืองอาหารอร่อย”.
เพื่อเผยแพร่อาหารไทยให้เป็นที่รู้จักแพร่หลายในกลุ่มนักท่องเที่ยว และเป็นการเรียนรู้ในความหลากหลายของอาหารนานาชาติ ทั่วโลก กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้จัดทำโครงการ “เทศกาลกรุงเทพฯ : เมืองอาหารอร่อย” ขึ้น โดย รมว. วีระ โรจน์พจนรัตน์ กล่าวว่า อาหารไทยเป็นมรดกภูมิปัญญาของประเทศอย่างหนึ่ง ที่ชาวต่างชาติให้การยอมรับในรสชาติความอร่อย อยู่ในระดับแนวหน้าของโลก และยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยปี 2558 ยูเนสโก ได้ประกาศให้เมืองภูเก็ต เป็น 1 ในเครือข่ายเมืองแห่งการสร้างสรรค์ด้านอาหาร โดยสมาชิก เว็บไซต์เวอร์ชวลทัวริสต์ ที่มีสมาชิก 1.2 ล้านคน จาก 220 ประเทศทั่วโลก ได้จัดอันดับให้กรุงเทพมหานครเป็น มหานครอันดับ 1 ที่มีอาหาร ริมทางที่ดีที่สุดของโลก


...
โครงการนี้เริ่มขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ ในโอกาสมหา มงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบแล้ว ยังเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมด้านอาหารไทย ให้คนไทยและชาวต่างชาติได้รู้จัก โดยเทศกาลกรุงเทพฯ : เมืองอาหารอร่อยนี้จะประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ นิทรรศการและการแสดง แบ่งเป็น อาหารไทยราชสำนัก มีการสาธิตการจัดสำรับอาหารคาวหวาน รวมทั้งเรื่องราวของอาหารไทย, อาหารที่ได้รับขึ้นบัญชีเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ อาทิ ส้มตำ, ข้าวยำ, ต้มยำกุ้ง, เมี่ยง, แกงเขียวหวาน ฯลฯ และอาหารที่หารับประทานได้ยาก อาทิ ม้าฮ่อ, แสร้งว่า, ยำทวาย, แกงรัญจวน, ขนมดอกดิน ฯลฯ ส่วนที่ 2 เป็นการสาธิตอาหารและออกร้านอาหารอร่อย ประกอบด้วย โซนอาหาร 10 อย่างยอดนิยมที่ต้องชิม, โซนอาหารอร่อยริมทางกว่า 40 ร้าน และโซนอาหารนานาชาติ สุดท้ายกิจกรรมปักหมุดร้านอาหารที่ร่วมโครงการฯ จัดโปรโมชั่นมีส่วนลดราคาในเดือน ก.ย.กว่า 500 ร้าน โดยงานนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 2-5 ก.ย. ตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน


ด้าน ศ.สุกัญญา สุจฉายา ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทยและอาหารราชสำนัก ได้ให้ความรู้ว่า อาหารราช–สำนักหรืออาหารชาววัง ไม่ได้ต่างจากอาหารชาวบ้านมากนัก แต่มีความประณีต มีการแกะสลัก คว้านเมล็ด และมีความหลากหลายมากกว่า นอกจากนี้ ยังจัดเป็นสำรับเครื่องคาว เครื่องหวาน รวมทั้งเครื่องว่าง หรือของกินเล่น ซึ่งถ้าเป็นของกินเล่นของชาวบ้านจะมีเพียงเมี่ยง แต่ชาววังจะมีทั้งขนมค้างคาว, ขนมไส้หมู (ขนมจีบ) ฯลฯ อาหารชาววังที่มีหลักฐานจริงๆเจอในสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 2 ที่มีอยู่ในกาพย์เห่ชมเครื่องคาวหวานนั่นเอง อาหารไทยแต่ดั้งเดิมส่วนผสมมาจากนานาชาติ ทั้งจีน, แขก,มอญ ซึ่งได้ผ่านการปรุงจนกลมกล่อมจนไม่เหลือเค้าของเดิม.


...