อาหารการกินในฤดูร้อนเป็นเรื่องสำคัญ หากรู้หลักการ คุณก็สามารถนำไปใช้เตรียมอาหารเพื่อส่งเสริมสุขภาพ ช่วยให้ร่างกายคลายร้อนลงได้

ในฤดูร้อนนี้ ควรกินอาหารรสเย็น ขม และจืด อย่าง ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วแดง ธัญพืช และข้าวกล้อง เลือกกินเนื้อปูและปลาทะเลน้ำลึก เลือกพืชผักที่มีสีอ่อน ขาว ใส หรือเขียว เช่น ฟัก แฟง บวบ และแตงต่างๆ เลือกผลไม้เนื้ออุ้มน้ำ อย่าง แตงโม เมล่อน แตงไทย เพราะวัตถุดิบเหล่านี้ล้วนมีฤทธิ์เย็น กินแล้วช่วยให้ร่างกายคลายร้อนได้ดี ส่วนการปรุงด้วยเครื่องเทศหรือสมุนไพรควรใช้แต่น้อย เพราะมีรสเผ็ดร้อน และไม่ปรุงด้วยวิธีการทอดหรือผัด เพราะน้ำมันให้พลังงานสูง เกิดความร้อนแก่ร่างกายนั่นเอง

หากรู้วิธีที่เหมาะสมแล้ว คุณเลือกหยิบวัตถุดิบฤทธิ์เย็นมาปรุงจานอร่อยในสไตล์คุณ หรือจะปรุงตามสูตรที่เราครีเอตมาฝากกันก็ได้ ด้วยเมนูฟิวชั่นไทยสไตล์ฝรั่ง 6 จาน ไว้คลายร้อนในเดือนเมษาฯ นี้

1. แซลมอนแซ่บแตงกวาดอง

แตงกวาญี่ปุ่นเนื้อกรอบดองกับน้ำมันมะกอกและน้ำส้มสายชูหมักแช่เย็นเจี๊ยบ เสิร์ฟกับแซลมอน และน้ำจิ้มซีฟู้ดรสแซ่บสไตล์ไทย กินแล้วชื่นใจ เรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียว

...

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 20 นาที ปรุง 30 นาที
แซลมอนหั่นเป็นแท่งขนาด 4x1 นิ้ว 2 ชิ้น (160 กรัม)
พริกไทยดำบดหยาบ 2 ช้อนโต๊ะ
แตงกวาญี่ปุ่นสไลด์เป็นแผ่น 2 ลูก
น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิ้ล ¼ ถ้วย
เกลือป่น ½ ช้อนชา
ไข่ปลาแซลมอน 2 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมน้ำจิ้มซีฟู้ด
กระเทียมกลีบเล็ก 20 กลีบ
พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
พริกจินดาเขียว 5 เม็ด
รากผักชี 2 ราก
ใบสะระแหน่ ½ ถ้วย
น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น ½ ช้อนชา

วิธีทำ
1.ทำแตงกวาดอง โดยเคล้าแตงกวากับน้ำมันมะกอก น้ำส้มสายชู และเกลือให้เข้ากัน นำไปแช่เย็นพักไว้
2.ทำน้ำจิ้มซีฟู้ด โดยปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้ละเอียด พักไว้
3.โรยพริกไทยดำบดบนหน้าตัดปลาด้านใดด้านหนึ่ง เตรียมไว้
4.วิธีจัดเสิร์ฟ ทำโดยนำแตงกวาที่หมักไว้ในตู้เย็นออกมาเรียงใส่จาน จากนั้นวางชิ้นปลาลงไป ตกแต่งด้วยไข่ปลา และราดน้ำจิ้มซีฟู้ด โรยพริกไทยดำก่อนเสิร์ฟ

2. สลัดแตงโมปลาแห้งกับเฟตต้าชีส

แปลงโฉมแตงโมปลาแห้งของไทยที่นิยมเสิร์ฟในหน้าร้อน มาเป็นสลัดสไตล์กรีกกินกับมะกอกดำและชีส แต่ไม่ใช้น้ำสลัด เลือกหยิบหน้าปลาแห้งกลิ่นหอมมาโรยหน้าแทน แล้วราดน้ำมันมะกอกเพิ่มกลิ่นรสแบบฝรั่งลงไปผสมผสาน ทำให้จานนี้เข้ากันแบบพอดีเลย

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 10 นาที ปรุง 15 นาที
แตงโมสีแดงและเหลือง 2 ถ้วย
ผักสลัด 1 ถ้วย
องุ่นแดงผ่าครึ่ง ½ ถ้วย
มะกอกดำหั่นแว่น 5 เม็ด
เฟตต้าชีสหั่นเต๋า ½ ถ้วย
แรดิชสไลด์เป็นแผ่น ¼ ถ้วย
ปลาฉิ้งฉ้างสามรส 2 ช้อนโต๊ะ
หน้าปลาแห้ง ¼ ถ้วย
น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำเลม่อน 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

จัดส่วนผสมใส่จาน โรยหน้าปลาแห้ง น้ำมันมะกอก และน้ำเลม่อน คลุกเคล้าให้เข้ากัน พร้อมเสิร์ฟ

3. ซุปแตงไทยเย็น

หน้าร้อนหากได้ซุปเย็นๆ ซดสักถ้วยคงชื่นใจ เราเลยเลือกใช้แตงไทยกลิ่นหอม มาปรุงกับน้ำสต๊อกกุ้งแบบฝรั่ง เสิร์ฟพร้อมเจลลี่รสแอปเปิ้ลเนื้อนุ่มเหนียวหนึบ โรยลูกเดือยกรอบเพื่อสุขภาพแทนขนมปังกรูตองค์

...

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 20 นาที ปรุง 60 นาที (ไม่รวมเวลาแช่ซุป)
แตงไทยปั่นละเอียด 2 ถ้วย
น้ำสต๊อกกุ้ง 1 ถ้วย
เกลือป่น 1 ช้อนชา
พริกไทยดำป่น 1 ช้อนชา
กุ้งทะเลลวก 8 ตัว
เจลลี่รสแอปเปิ้ล 1 ถ้วย
ลูกเดือยอบกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
ไมโครเฮิร์บสำหรับตกแต่ง

ส่วนผสมน้ำสต๊อกกุ้ง
เปลือกกุ้ง 1 ถ้วย
แครอตหั่นท่อนสั้น ½ ถ้วย
หอมหัวใหญ่หั่นหยาบ ½ ถ้วย
เซเลอรี่หั่นท่อนสั้น ½ ถ้วย
เกลือ 2 ช้อนชา
พริกไทยดำเม็ด 1 ช้อนชา
น้ำเปล่า 4 ถ้วย

วิธีทำ

1.ต้มน้ำสต๊อกกุ้ง โดยนำส่วนผสมทั้งหมดใส่หม้อ ยกขึ้นตั้งไฟ พอเดือด ลดไฟลง เคี่ยวไปเรื่อยๆ (หมั่นช้อนฟองทิ้ง) จนน้ำเหลือครึ่งหม้อ ปิดไฟ ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เก็บน้ำสต๊อกไว้

2.ตวงน้ำสต๊อกผสมกับแตงไทยปั่น เทใส่หม้อ ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย พอเดือด ปิดไฟ ยกลง พักให้เย็น ตักใส่ภาชนะปิดสนิท แช่เย็นไว้อย่างน้อย 3 ชั่วโมง

3.วิธีจัดเสิร์ฟ ตักกุ้งและเจลลี่ใส่ลงในชามซุป นำน้ำซุปออกจากตู้เย็นเทใส่ลงไป โรยด้วยลูกเดือยกรอบ ไมโครเฮิร์บและพริกไทยดำป่น

หมายเหตุ : เจลลี่รสแอปเปิ้ลสามารถหาซื้อแบบกึ่งสำเร็จรูปได้ในซุปเปอร์มาร์เก็ต แล้วนำมาปรุงตามวิธีที่ระบุไว้ข้างกล่อง

...

4. กีชแกงเลียงในลูกฟักทอง

กีช (Quiche) พายสไตล์ฝรั่งเศส เราหยิบมาเติมความเป็นไทยลงไปด้วยเครื่องเคราแกงเลียง ซึ่งประกอบด้วยพืชผักฤทธิ์เย็นหลายชนิด เช่น ฟักทอง เห็ด และแตงโมอ่อน เติมใบแมงลักเพิ่มความหอมลงไป ผสมกับนม ครีม ไข่ แบบกีชต้นฉบับ แล้วใส่ลงในถ้วยฟักทองแทนแป้งพาย อบจนสุกหอม

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 30 นาที ปรุง 60 นาที (ไม่รวมเวลาอบ)
ฟักทองลูกเล็กผ่าครึ่งควักไส้ออก 2 ลูก
เนยจืด 1 ช้อนโต๊ะ
หอมหัวใหญ่หั่นเต๋าเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ
แฮมไก่หั่นเต๋าเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ
เนื้อฟักทองหั่นเต๋าเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ
เห็ดเออริจิหั่นเต๋าเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ
แตงโมอ่อนหั่นเต๋าเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ
ใบแมงลัก ½ ถ้วย
ครีมสด 50 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง

ส่วนผสมน้ำพริกแกงเลียง
หอมแดง 3 หัว
กระชาย 1 แง่ง
กะปิ ½ ช้อนโต๊ะ
พริกไทยขาวป่น 1 ช้อนชา
พริกขี้หนูสวน 3 เม็ด
กุ้งแห้งป่น ¼ ถ้วย
นมสด 50 กรัม

...

วิธีทำ

1.นำฟักทองไปนึ่งพอสุก เตรียมไว้

2.ทำน้ำพริกแกงเลียง โดยปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้ละเอียด เตรียมไว้

3.ตั้งกระทะใส่เนยลงไป ตามด้วยหอมหัวใหญ่ ผัดพอสุก ใส่แฮม เนื้อฟักทอง เห็ด และแตงโมอ่อน ผัดให้เข้ากันจนส่วนผสมสุกและแห้ง เทน้ำพริกแกงที่ปั่นไว้ลงไป ผัดให้เข้ากัน พอเดือด ปิดไฟ ยกลง พักให้เย็น

4.ตีไข่พอแตก ใส่ครีมลงไปผสมให้เข้ากัน เทใส่ลงไปในส่วนผสมข้อ 3 ที่เย็นแล้ว ตามด้วยใบแมงลัก คนอีกครั้งให้เข้ากัน เทส่วนผสมใส่ฟักทองจนเต็ม นำไปอบจนสุก ประมาณ 1 ชั่วโมง พร้อมเสิร์ฟ

5. พล่าปูสมุนไพรใส่ฟักกับหอยเชลล์ย่าง

หยิบสลัดครีมปูแบบเย็นของฝรั่ง มาเติมรสชาติพล่าและสมุนไพรอ่อนๆ ของไทยลงไปให้มีกลิ่นรสเข้มข้นมากขึ้น เพิ่มความเย็นด้วยฟัก แถมยังได้อีกสัมผัสเวลาเคี้ยว เสิร์ฟคู่กับหอยเชลล์ย่าง ก่อนรับประทานราดน้ำมันพริกช่วยเพิ่มสีสัน รสชาติพร้อมความหอมที่เข้ากันแบบลงตัว

ส่วนผสม (สำหรับ 2 ที่)
เตรียม 15 นาที ปรุง 30 นาที
เนื้อปูนึ่ง 200 กรัม
หอยเชลล์ย่าง 6 ตัว
ฟักแก่หั่นเต๋าเล็กลวกสุก ½ ถ้วย
หอมแดงซอย ¼ ถ้วย
ตะไคร้ซอย ¼ ถ้วย
ข่าอ่อนซอย 2 ช้อนโต๊ะ
ใบมะกรูดซอย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำพริกเผา 1 ช้อนโต๊ะ
มายองเนส ¼ ถ้วย
น้ำมะนาว 1 ½ ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
พริกไทยดำป่น ½ ช้อนชา
น้ำมันพริกเผาเล็กน้อยสำหรับตกแต่ง
ไมโครเฮิร์บสำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

1.ผสมน้ำพริกเผา มายองเนส น้ำมะนาว เกลือ และพริกไทยให้เข้ากัน จากนั้นนำไปคลุกกับเนื้อปู ฟักลวก หอมแดง ตะไคร้ ข่า และใบมะกรูด ให้เข้ากัน นำไปแช่เย็นพักไว้ประมาณ 30 นาที
2.วิธีจัดเสิร์ฟ เตรียมพิมพ์วงแหวนขนาดเล็กวางบนจานเสิร์ฟ ตักพล่าใส่ลงไป กดเล็กน้อย ยกพิมพ์ออก วางหอยเชลล์ย่างลงไป ราดด้วยน้ำมันพริกเผา โรยหน้าด้วยไมโครเฮิร์บ พร้อมเสิร์ฟ

6. เค้กใบเตยกับมูสเมล่อน

เค้กชั้นสีเขียวสดใส ฐานทำจากเค้กชิฟฟอนใบเตยเนื้อนุ่มฟูเบา ชั้นกลางเป็นครีมข้าวเหนียวมูนรสหวานมันเคี้ยวหนึบ ทีเด็ดอยู่ที่ชั้นบนสุด คือ มูสเมล่อนเนื้อละเอียดเนียนละลายในปาก หอมกลิ่นเมล่อน เพิ่มความหอมหวานฉ่ำชื่นใจด้วยซอสเมล่อนก่อนรับประทาน

ส่วนผสม (สำหรับ 6 ชิ้น)
เตรียม 30 นาที ปรุง 60 นาที (ไม่รวมเวลาพักขนมในตู้เย็น)
ส่วนผสมเค้กใบเตย
แป้งเค้ก 120 กรัม
ผงฟู 4 กรัม
น้ำตาลทราย(1) 50 กรัม
เกลือป่น 1 กรัม
ไข่ไก่เฉพาะไข่แดง 4 ฟอง
ไข่ไก่ 1 ฟอง
นมสด 60 กรัม
น้ำมันรำข้าว 60 กรัม
น้ำใบเตย 40 กรัม
ไข่ไก่เฉพาะไข่ขาว 4 ฟอง
น้ำตาลทราย(2) 70 กรัม

ส่วนผสมครีมข้าวเหนียวมูน
ข้าวเหนียวมูน 150 กรัม
นมสด 100 กรัม
ครีมสด 100 กรัม
เจลาตินผง 6 กรัม
น้ำเย็นสำหรับแช่เจลลาติน 30 กรัม

ส่วนผสมมูสเมล่อน
เนื้อเมล่อนสีเขียวปั่นละเอียด 200 กรัม
น้ำตาลทราย 50 กรัม
ครีมสด 200 กรัม
เจลาตินผง 8 กรัม
น้ำเย็นสำหรับแช่เจลาติน 40 กรัม

ส่วนผสมซอสเมล่อน
เนื้อเมล่อนสีส้มปั่นละเอียด 200 กรัม
น้ำตาลทราย 50 กรัม

ส่วนผสมอื่นๆ
เมล่อนควักเป็นลูกกลมและครีมสดตีฟูสำหรับตกแต่ง

วิธีทำ

1.อบเค้กใบเตย โดยอุ่นเตาอบด้วยไฟบนล่างไว้ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส เตรียมไว้ จากนั้นร่อนแป้งกับผงฟูให้เข้ากัน นำไปผสมกับส่วนผสมที่เหลือ (ยกเว้นไข่ขาวและน้ำตาลทราย(2)) ผสมให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ พักไว้ ตีไข่ขาวกับน้ำตาลทราย(2)ให้ตั้งยอด นำมาตะล่อมกับส่วนผสมที่พักไว้ให้เข้ากัน เทใส่ถาดขนาด 12x18 นิ้ว ที่ปูกระดาษไขและทาเนยขาวไว้ นำไปอบประมาณ 15 นาที นำออกมา พักให้เค้กเย็น

2.เตรียมพิมพ์ขนาด 5x8x3 นิ้ว 2 ใบ กรุพิมพ์ด้วยพลาสติกถนอมอาหาร โดยให้เหลือชายพลาสติกเกินออกมาจากปากพิมพ์ประมาณ 2 นิ้ว โดยรอบ จากนั้นตัดเค้กให้พอดีกับพิมพ์ แล้วใส่ลงไปเป็นฐานขนมด้านล่าง เตรียมไว้ (ทำแบบนี้กับพิมพ์อีกใบ)

3.ทำครีมข้าวเหนียวมูน โดยผสมเจลาตินกับน้ำเย็นให้เข้ากัน พักไว้ให้เจลาตินดูดน้ำพองตัว แล้วนำไปตั้งไฟละลายให้เป็นของเหลวใส เตรียมไว้ นำข้าวเหนียวมูน นม และครีม ใส่หม้อยกขึ้นตั้งไฟกลาง คนให้ส่วนผสมเข้ากัน พอเริ่มเดือด ใส่เจลาตินที่ละลายไว้ลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟ ยกลง พักให้ส่วนผสมเย็น แบ่งครึ่งเทใส่พิมพ์ทั้งสองให้เท่ากัน นำไปแช่เย็นให้เซตตัว

4.ทำมูสเมล่อน โดยผสมเจลาตินกับน้ำเย็นให้เข้ากัน พักไว้ให้เจลาตินดูดน้ำพองตัว แล้วนำไปตั้งไฟละลายให้เป็นของเหลวใส เตรียมไว้ นำเมล่อนใส่หม้อเติมน้ำตาล ยกขึ้นตั้งไฟ คนให้น้ำตาลละลาย พอเดือด ใส่เจลาตินลงไปที่ละลายไว้ลงไป คนให้เข้ากัน ปิดไฟ ยกลง พักให้เย็น ระหว่างรอ นำครีมสดมาตีพอข้น (ตั้งยอดอ่อน) แล้วนำไปตะล่อมกับส่วนผสมของเมล่อนที่เย็นแล้วให้เข้ากัน จากนั้นแบ่งครึ่งเทใส่ในพิมพ์ข้อ 3 ที่เซตตัวแล้ว ปิดหน้าด้วยพลาสติกถนอมอาหาร นำไปแช่เย็นพักไว้ 1 คืน

5.ทำซอสเมล่อน โดยนำเมล่อนใส่หม้อเติมน้ำตาล ยกขึ้นตั้งไฟ คนให้น้ำตาลละลาย พอเดือด เคี่ยวต่อสักครู่ ปิดไฟ ยกลง พักให้เย็น

6.วิธีเสิร์ฟ ทำโดยนำเค้กในข้อ 4 ออกจากตู้เย็น แกะออกจากพิมพ์ โดยยกพลาสติกที่เกินจากพิมพ์ขึ้นมา ใช้มีดแช่น้ำอุ่นตัดเค้กเป็นชิ้นตามต้องการ วางใส่จาน ตกแต่งด้วยเมล่อนและครีมตีฟู พร้อมราดซอสเมล่อนก่อนเสิร์ฟ

ที่มา - Health & Cuisine
www.healthandcuisine.com