สัปดาห์นี้ไทยรัฐออนไลน์ พามิตรรักทุกท่านมาเช็กอินที่ Anantara Chiang Mai Resort & Spa (อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท แอนด์ สปา) โรงแรมห้าดาวที่ตั้งอยู่บนทำเลเลิศ นอกจากหรูหรา นอนสบายแล้วยังได้ชมทิวทัศน์อันงดงามของลำน้ำแม่ปิง เดินไปเที่ยวชมวัดวาที่มีสถาปัตยกรรมล้านนา รวมถึงแอ่วชิล ณ ตลาดนัดเชียงใหม่ไนท์บาซาร์ ได้แบบใกล้ตัวอีกต่างหาก
ความประทับใจเกิดขึ้นตั้งแต่ก้าวแรกที่มาถึง พนักงานจะนำเครื่องดื่มเย็นๆ มาเสิร์ฟพร้อมคล้องมาลัยดอกมะลิเพื่อเป็นการต้อนรับ ชวนแขกนั่งที่โซฟานุ่มแล้วค่อยๆ นวดคอ บ่า ไหล่ ประมาณ 10-15 นาที บริการนี้ทำให้จวงหายเมื่อยจากการเดินทางเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว อาคารที่พักเป็นรูปตัว L หันระเบียงสู่แม่น้ำปิง ภายในห้องตกแต่งเรียบหรู ที่อ่างน้ำมีเกลือสปาเตรียมไว้ให้แช่ตัวและขัดผิว (แอบกระซิบว่าเกลือเขาหอมมาก ถ้าใครติดใจเชิญแวะไปให้เธอราปี ขัด และนวดแบบจัดเต็มได้ที่สปาของโรงแรมซึ่งอยู่ชั้น 1 ได้จ้า) บริเวณโซนนั่งเล่นมีน้ำแร่ชนิดมีฟอง ผลไม้สด รวมถึงของกินเล่นคำเล็กๆ อาทิ ข้าวแต๋น เมี่ยงคำ อยู่ในปิ่นโตเถาน้อย เป็นอภินันทนาการที่ทางโรงแรมเตรียมเอาไว้ให้
...
ยามเช้าแนะนำให้ออกไปเดินสูดอากาศบริสุทธิ์ริมน้ำ หรือจ๊อกกิ้ง ชมวิถีชีวิตผู้คนก็ชิลไปอีกแบบ หลังได้เหงื่อแล้วขอชวนมานั่งที่โซฟาริมน้ำ เปลี่ยนบรรยากาศจากที่เคยออกกำลังในฟิตเนสแล้วนั่งตากแอร์ มาเป็นวิ่งสูดโอโซนเสร็จแล้วนั่งตากลมที่พัดมาจากแม่น้ำ คุณจะพบว่าการออกกำลังกายเช้านี้พิเศษขึ้นอีกเยอะ
นั่งเพลินรู้ตัวอีกทีก็ถึงช่วงสายแล้ว จวงเลยขอยกยอดมื้อเช้าไปรวมกับมื้อเที่ยง ออกไปกิน Brunch แนวสตรีทฟู้ดไทยบะหมี่เกี๊ยว ลูกชิ้นปิ้ง ทับทิมกรอบ ที่ร้านทับทิมกรอบเจ๊อ้วน ร้านดังเมืองเชียงใหม่ซึ่งเดินจากโรงแรมไม่กี่ก้าวก็ถึง อิ่มแล้วแวะไปไหว้พระที่วัดชัยมงคลต่อ (ใช้เวลาเดินเพียง 5 นาที) กราบขอพรและชมสถาปัตยกรรมสวยๆ จนเต็มตา ก็ได้เวลากลับมาโรงแรมเพื่ออิ่มเอมกับ Afternoon Tea and High Tea แล้ว จวงเลือกนั่งโต๊ะริมน้ำเพื่อรับลมเย็น พร้อมดื่มด่ำไปกับชา กาแฟหอมๆ อาหารคาวหวาน เบเกอรี่ และผลไม้ที่มีให้เลือกละลานตา ซึ่งความแปลก (แต่ดี๊ดี) ของ Afternoon Tea and High Tea ที่นี่คือมีของคาวพื้นเมืองอย่าง ‘ข้าวซอย’ เอาไว้ให้ลิ้มลองด้วย (บอกเลยว่าอร่อยเข้มข้นมากกกก มาแล้วห้ามพลาด)
...
มื้อเย็นคือสิ่งที่ปลื้มปริ่มและอยากจะบอกต่อเหลือเกิน ห้องอาหาร The Service 1921 Restaurant & Bar อาคาร 2 ชั้น ที่เป็นสถาปัตยกรรมสไตล์โคโรเนียลแห่งนี้ เคยเป็นสถานกงสุลอังกฤษประจำจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อนำมาตกแต่งในคอนเซ็ปต์ ‘บ้านสไตล์โคโรเนียลเฮ้าท์อันเป็นที่อยู่ของสายลับในยุค 1921’ เข้ามาปุ๊บ จึงเหมือนได้หลุดเข้าไปในบ้านสายลับอังกฤษยุคโบราณเลยทีเดียว ผนังมีภาพถ่าย และข้าวของเครื่องใช้ของสายลับอยู่ในตู้โชว์ ประตูห้องอาหารแบบ Private ทำคล้ายกับชั้นวางหนังสือที่เปิดไปเจอห้องประชุมลับ อีกด้านของอาคารมีห้องเล็กๆ ชื่อ ‘ห้องทรมาน’ เป็นห้องสำหรับเก็บและชิมวิสกี้โดยเฉพาะ มีโซ่และกุญแจมือตกแต่งอยู่ที่ผนังด้วย (เข้าไปแล้วได้กลิ่นอายสายลับสุดๆ เลยค่ะคู้น-น)
...
อาหารมีให้เลือกหลายสไตล์ ทั้ง เวียดนาม จีนเสฉวน และไทย เมนูเด็ดที่ขอยกนิ้วให้คือ GRILLED EGGPLANT SALAD WITH CRAB MEAT มะเขือยาวเผา ราดน้ำยำรสเปรี้ยวหวานสไตล์เวียดนาม CHENG DU SPECIALTY DANDAN NOODLES บะหมี่สไตล์เฉิงตูเส้นขาวนุ่มราดซอสรสเผ็ดร้อน สูตรพิเศษของเชฟ KAE OP MUANG (แกะอบเมือง) เนื้อแกะตุ๋นในเครื่องแกงสไตล์ล้านนาหลายชั่วโมง จนได้เนื้อนุ่มๆ น้ำแกงรสเข้มข้น
แม้เตียงนอนแสนนุ่มของที่นี่จะชวนดูดวิญญาณแค่ไหน แต่ด้วยความที่อยู่ใกล้ตลาดไนท์บาร์ซาร์ (ใช้เวลาเดินประมาณ 15 นาที) จวงก็อดไม่ไหวต้องขอออกท่องราตรีเสียหน่อย เมื่อเที่ยว ช็อป ชิม ชิล จนหนำใจแล้ว สารภาพเลยคุณขา! แม้ง่วงแค่ไหนก็ยังอดใจออกไปนั่งชมดาวที่ระเบียงไม่ได้เลย ก่อนทิ้งตัวลงนอนจวงนี่ถึงขั้นอยากขอพรให้หยุดเวลาไว้แบบนี้ จะได้พักต่อที่นี่อีกนานๆ.
...
ที่มา : http://healthandcuisine.com/และ https://www.facebook.com/HealthandCuisineMagazine