ไก่อบเบียร์

หลังจากที่คุ้นชินกับไก่อบไก่ย่างหลายๆสไตล์มาแล้ว วันนี้มาลองไก่อบเบียร์กันดูบ้าง จากฝีมือคุณมด–กิตติพัฒน์  สิทธธัตถ์  ลูกชายเจ้าของตลาดสดดวงพลอย ในซอยลาซาล แถวๆ บางนา ซึ่งเป็นทั้งนักชิมและนักปรุง (อาหาร) กันทั้งครอบครัวคุณมดเล่าว่า ด้วยความที่เป็นลูกชายคนโต จึงมีหน้าที่ต้องคอยติดตามคุณแม่ (วิไล สิทธธัตถ์) ไปตรวจตลาดสดในช่วงวันหยุดเป็นประจำ ทำให้ได้รู้จักการเลือกของสดต่างๆ จากการไปนั่งคุยกับแม่ค้า กอปรกับทั้งคุณยายและคุณแม่เป็นคนช่างทำอาหาร เพื่อทานกันเองในครอบครัว จนเป็นที่เลื่องลือในหมู่เพื่อนสนิทว่า “มาบ้านนี้ต้องอิ่มและอร่อยเสมอ” ก็เลยทำให้คุณมดเกิดไอเดียขึ้นมาว่า “เมื่อจะอิ่มและอร่อย”ก็ควรต้องจ่ายสตางค์ด้วยนะ จึงร่วมทุนกับเพื่อนๆสนิทสมัยเรียนสวนกุหลาบฯ เปิดธุรกิจร้านอาหารขึ้น ในชื่อ Flow (โฟลว์) ในซอยพหลโยธิน 9 และล่าสุดเปิดร้านอาหาร Parlour (พาร์เล่อร์) ในศูนย์การค้า CDC บนถนนประดิษฐ์มนูธรรมอีกแห่ง นอกจากนี้ยังทำรีสอร์ตฟาร์มแกะแห่งแรกในประเทศไทย ที่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ในชื่อ เดอะซีนเนอรี่ กรุ๊ป อีกด้วย

วันนี้ คุณมดยอมเปิดเผยเคล็ดลับการปรุง “ไก่อบเบียร์” ซึ่งเป็นที่เลื่องลือมากว่า เนื้อไก่ทั้งนุ่มและชุ่มฉ่ำถึงเครื่องจริงๆ โดยเพื่อนสนิทไปได้สูตรมาจากประเทศเยอรมนี มี เครื่องปรุงดังนี้ : ไก่ทั้งตัว ควรใช้ไก่อ่อนที่เลี้ยงไม่เกิน 3 เดือน น้ำหนักตัวประมาณ 6-7 ขีด / เบียร์กระป๋อง / รากผักชี 2 ราก หรือตามชอบ / พริกไทยดำ 1 ช้อนชา หรือตามชอบ / เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ / นมพร่องมันเนย 2 ช้อนโต๊ะ / ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา / ผักต่างๆ ที่เป็นเครื่องเคียง อาทิ ผักโขม, ผักสลัด, มะเขือเทศลูกเล็กๆ......วิธีทำ 1) นำไก่ทั้งตัวไปหมักกับรากผักชีที่โขลกรวมกับพริกไทยดำ ผสมกับเนยสด นมพร่องมันเนย และซอสปรุงรส คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้เครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อไก่ 2) นำเบียร์กระป๋อง ซึ่งดึงฝาออก แล้วยัดเข้าไปในตัวไก่ ในลักษณะตั้งกระป๋องไว้  3) นำไปอบด้วยอุณหภูมิ 180 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 50 นาที ไก่จะสุกเหลืองกำลังพอดี เวลาเสิร์ฟให้เคียงไปกับผักต่างๆ ที่ต้มและผัดกับเนยกระเทียม หรือจะเป็นผักโขมต้มสุก ผัดกับเนยกระเทียมและใส่ครีมไปนิดหน่อยก็ได้ หากชอบรสชาติเข้มข้น ให้นำน้ำที่ตกจากตัวไก่ตอนอบ ไปเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ ให้ข้นกำลังพอดี และราดไปบนเนื้อไก่ระหว่างรับประทานจะทำให้ได้รสชาติเข้มข้นขึ้นอีก

ไก่อ่อนที่อบเสร็จเนื้อไก่จะนุ่มและฉ่ำไปด้วยน้ำจากเบียร์กระป๋องที่เดือดและซึมเข้าตามเนื้อไก่ ซึ่งไม่มีแอลกอฮอล์แล้ว เพราะสลายไปกับความร้อน แต่จะหลงเหลือกลิ่นหอมและความหวานจากเบียร์ ผนวกกับเนื้อของไก่อ่อนที่ยังไม่มีมัดกล้ามมากนัก ทำให้ “ไก่อบเบียร์” ตัวนี้ชุ่มฉ่ำและเปื่อยนุ่มกำลังพอดีจริงๆ.