ในงานเมรัยไทยแลนด์ 2025 ที่จัดขึ้น ณ EM Wonder & SPHERE HALL ชั้น 5, Emsphere กรุงเทพฯ ปีนี้ไม่ได้มีดีแค่เรื่องเครื่องดื่ม แต่ยังมีโซนพิเศษที่มีชื่อว่า The Lost Thai Taste: รสชาติที่หายไป เมรัยตามหามา ซึ่งเป็นไฮไลต์ที่ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ภายใต้กระทรวงวัฒนธรรม ตั้งใจนำเสนอภูมิปัญญาอาหารพื้นถิ่นที่กำลังเลือนหายไปให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
ผู้ที่รับหน้าที่ถ่ายทอดนำรสชาติแห่งความทรงจำที่กำลังจะเลือนหายไปให้กลับมาอีกครั้งก็คือ เชฟบุช-เลอชาญ โก๊ะแอ เชฟมากฝีมือที่หยิบเอาวัตถุดิบก้นครัวอย่าง "กล้วยน้ำว้า" มาแปลงโฉมเป็นเมนูสุดพิเศษ "น้ำพริกเผากล้วยย่างรสถิ่น" (Picanha Banana Tostones) ซึ่งเป็นตัวแทนความอร่อยของภาคเหนือ จังหวัดพิษณุโลก
เมื่อถามถึงที่มาของเมนูนี้ เชฟบุชเล่าด้วยแววตาเป็นประกายว่า "น้ำพริกเผากล้วยย่างรสถิ่น เป็นเมนูเก่าแก่ของภาคเหนือ วัตถุดิบหลักคือกล้วยครับ ซึ่งจริงๆ ใช้กล้วยอะไรก็ได้ แต่เชฟบุชขอแนะนำเป็น 'กล้วยน้ำว้า' เพราะหาง่ายที่สุด และมีอยู่ทุกภาคของไทย"
...
เหตุผลที่เมนูนี้ค่อยๆ เลือนหายไปจากสำรับกับข้าวของคนยุคปัจจุบันไม่ใช่เพราะไม่อร่อย แต่เป็นเพราะเวลา
"เมนูนี้ทำค่อนข้างนานครับ เราต้องเอากล้วยไปปิ้งหรืออบในเตาใช้เวลาเป็นชั่วโมง เพื่อให้ได้กลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ หลายคนอาจจะไม่คุ้นชิน คิดว่ากล้วยมาทำน้ำพริกจะหวานไปไหม แต่จริงๆ แล้วมันมีความกลมกล่อมซ่อนอยู่ ผมเลยอยากปลุกเมนูนี้ให้กลับมาฮิตอีกครั้ง" เชฟบุชกล่าว
เดิมทีเมนูนี้เกิดจากภูมิปัญญาชาวพิษณุโลกที่รู้จักนำวัตถุดิบเหลือใช้ในสวนมาปรุงอาหาร แต่สำหรับโซน The Lost Thai Taste ที่งานเมรัยไทยแลนด์ เชฟบุชได้ยกระดับความธรรมดาให้พิเศษขึ้น ด้วยการจับคู่ "น้ำพริกกล้วยย่าง" ที่มีส่วนผสมของพริกแห้ง หอมแดง กระเทียม เข้ากับเนื้อพิคานย่าออสเตรเลียย่าง และ Tostones หรือกล้วยทอดสไตล์ละติน ตัดเลี่ยนด้วยยอดผักแพวและไข่แดงเค็มขูด
"ผมได้แรงบันดาลใจตอนไปถ่ายรายการ 'เที่ยวฟิน กินฉ่ำ' กับพี่มาวิน (มาวิน ทวีผล) ที่พิษณุโลก จังหวัดนี้อุดมสมบูรณ์มาก ผลไม้หาง่าย และสดใหม่ ผมเลยอยากให้คนที่มางานเมรัยไทยแลนด์ได้สัมผัสรสชาตินี้ครับ"
เมื่อถามถึงการจับคู่กับเครื่องดื่มในงาน เชฟบุชแนะนำว่า ตัวน้ำพริกมีความฟรุตตี้ (Fruity) เปรี้ยวอมหวานในตัวอยู่แล้ว ถ้าได้เครื่องดื่มที่มีคาแรคเตอร์ไม่หวานโดด หรือมีความฝาดนิดๆ (Dry) มาตัดรส จะช่วยชูรสชาติให้เข้ากันมากขึ้น โดยในงานวันแรก เมนูนี้ถูกเสิร์ฟคู่กับเครื่องดื่มจากแบรนด์น่านคลาสสิค อัสดง
นอกจากเมนูน้ำพริกเผากล้วยย่างรสถิ่น โซน The Lost Thai Taste ยังเตรียมเสิร์ฟเมนูหาทานยากจากอีก 4 ภาคทั่วไทย หมุนเวียนกันไปตลอดการจัดงาน ได้แก่
27 พ.ย. ภาคอีสาน: หมกจ๊อ ของกินไทญ้อ เมืองอุเทน เสิร์ฟคู่กับ เล่าน่าน
28 พ.ย. ภาคกลาง: แกงกระทือ ปลาดุกทะเล จับคู่กับ สานทราย BY สุราเทวะ
29 พ.ย. ภาคตะวันออก: หมูคั่วปลากุเลา มาคู่กับ Langban
30 พ.ย. ภาคใต้: มะพร้าวคั่ว+พุงปลาอื้อ Pairing คู่กับ สุราสักทองแพร่
...
ผู้สนใจสามารถแวะมาชิม "รสเมนูแห่งความคิดถึง" กับรสชาติไทยดั้งเดิม ในโซน The Lost Thai Taste ได้วันละ 4 รอบ ตั้งแต่เวลา 16.00 น., 17.00 น., 18.00 น. และ 19.00 น. ในงานเมรัยไทยแลนด์ 2025 ศูนย์การค้าเอ็มสเฟียร์