แต่เดิมยายสีวรรณเคยขายขนมจีน สุดท้ายต้องเลิกเพราะสู้แพอาหารไม่ไหว สู่เจ้าตำรับบ้าบิ่น 46 ปี ที่หลานยังต้องมาขอสูตรไปสร้างตัว

ที่ทางลงท่าน้ำ บ้านท่าเรือ อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ มีกลิ่นหอมหวานของมะพร้าวและควันเตาถ่านลอยโชยมาแต่ไกล กลิ่นนั้นคือ ขนมบ้าบิ่นของ ยายสีวรรณ แก้วเงิน วัย 72 ปี ที่ยืนหน้าเตาปิ้งขนมสูตรโบราณนี้เลี้ยงชีพมานานถึง 46 ปี

ยายสีวรรณ เจ้าของสูตร
ยายสีวรรณ เจ้าของสูตร


ขนมบ้าบิ่นของยายเป็นสูตรดั้งเดิมที่ใช้เตาถ่านแท้ๆ ทำให้มีกลิ่นหอมไม่เหมือนใคร ลูกค้ามีทั้งคนในหมู่บ้าน นักท่องเที่ยว นักตกปลา และชาวแพ ที่แวะเวียนมาซื้อไม่ขาดสาย

เมื่อถามถึงสูตรเด็ด ยายสีวรรณก็ยิ้มใจดีก่อนตอบว่า "บอกไปก็ทำไม่เหมือนกัน"

เมื่อถามถึงสูตรเด็ด ยายสีวรรณก็ยิ้มใจดีก่อนตอบว่า
เมื่อถามถึงสูตรเด็ด ยายสีวรรณก็ยิ้มใจดีก่อนตอบว่า "บอกไปก็ทำไม่เหมือนกัน"

...


ยายสีวรรณเล่าว่า เริ่มขายขนมมาตั้งแต่ปี 2522 นับถึงวันนี้ก็ 46 ปี แต่เดิมนั้นขายขนมจีนควบคู่ไปด้วย แต่ช่วงหลังมีแพอาหารมาเปิดให้บริการที่ท่าน้ำหลายร้าน นักท่องเที่ยวจึงหันไปนั่งรับประทานอาหารที่แพกันหมด

ด้วยความเปลี่ยนแปลงนี้ ยายจึงตัดสินใจ "เลิก" ขายขนมจีน และหันมาทุ่มเทให้กับขนมบ้าบิ่นอย่างเดียว ซึ่งรายได้จากขนมบ้าบิ่นก็ดีพอที่จะเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบาย

ขนมบ้าบิ่นยายสีวรรณ
ขนมบ้าบิ่นยายสีวรรณ


ทุกๆ เช้ายายสีวรรณจะตื่นตั้งแต่ตี 5 เพื่อทำกับข้าวใส่บาตร จากนั้น 6 โมงเช้าก็จะเริ่มตั้งเตาปิ้งขนมบ้าบิ่น ขายไปเรื่อยๆ จนกว่าของจะหมด ซึ่งส่วนใหญ่จะหมดตั้งแต่ครึ่งวันเช้า โดยเฉพาะวันหยุด จากมะพร้าวขูด 3 กิโลกรัม สามารถทำรายได้ให้ยายวันละ 800 - 1,000 บาท

ความอร่อยและเรื่องราวของยายสีวรรณไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่ท่าเรือ เพราะล่าสุด หลานของยายก็ได้มาหัดทำและขอสูตร เพื่อนำไปเปิดร้านขายสร้างอาชีพของตัวเองที่โคราชแล้ว