เห็ดหูหนู ผักราคาประหยัด รสชาติอร่อย ที่พบเห็นและหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาด มีประโยชน์และสรรพคุณที่ดีต่อร่างกายน่าสนใจหลายอย่าง แถมยังนำไปทำได้หลายเมนูอีกด้วย
เห็ดหูหนู โดยเฉพาะเห็ดหูหนูดำ (Black Fungus) และเห็ดหูหนูขาว (White Fungus) มีการนำมาใช้ประโยชน์ทั้งในด้านโภชนาการและทางการแพทย์แผนโบราณมาเป็นเวลานาน ซึ่งงานวิจัยในปัจจุบันได้สนับสนุนสรรพคุณหลายด้าน ได้แก่
ประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการของเห็ดหูหนู
- สารต้านอนุมูลอิสระสูง เห็ดหูหนูอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) และโพลีฟีนอล (Polyphenols) เช่น ซีลีเนียม (Selenium), พอลิแซ็กคาไรด์ (Polysaccharides) และฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) ซึ่งช่วยต่อสู้กับอนุมูลอิสระและปกป้องเซลล์จากความเสียหายจากการออกซิเดชัน (Oxidative Damage)
- บำรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด มีคุณสมบัติในการต้านการแข็งตัวของเลือด และยับยั้งการรวมตัวของเกล็ดเลือด ซึ่งช่วยปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตและอาจลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง
- มีฤทธิ์ลดไขมันในเลือด งานวิจัยในสัตว์ทดลองพบว่าสารสกัดจากเห็ดหูหนูช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลรวม, คอเลสเตอรอล LDL (ไม่ดี) และไตรกลีเซอไรด์ได้อย่างมีนัยสำคัญ
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เส้นใยอาหารชนิดละลายน้ำ ในเห็ดหูหนูอาจช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและปรับปรุงการตอบสนองต่ออินซูลิน ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ในการจัดการโรคเบาหวาน
- บำรุงระบบภูมิคุ้มกันและทางเดินอาหาร มีส่วนประกอบของพรีไบโอติกส์ เช่น เบต้ากลูแคน (Beta-glucan) ที่ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้ และอาจช่วยเสริมสร้างการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน
- มีฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์ และต้านไวรัสบางชนิด
- บำรุงสมอง งานวิจัยในหลอดทดลองบางชิ้นระบุว่าเห็ดหูหนูอาจช่วยยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ที่เกี่ยวข้องกับการปลดปล่อยโปรตีนเบต้าแอมีลอยด์ (Beta Amyloid Proteins) ซึ่งเชื่อมโยงกับโรคความเสื่อมของระบบประสาท เช่น อัลไซเมอร์
- อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุ เป็นแหล่งที่ดีของใยอาหาร และวิตามินบีต่างๆ เช่น วิตามิน B5, B2, B1, B6, โฟเลต (B9) รวมถึงแร่ธาตุสำคัญ เช่น ทองแดง, ซีลีเนียม, เหล็ก และแมกนีเซียม
...
สรรพคุณของเห็ดหูหนูตามการแพทย์แผนจีน
เห็ดหูหนูดำ (Black Fungus)
- บำรุงไตและเลือด เชื่อว่าช่วยบำรุงพลังยิน (Yin energy) ของไตและบำรุงสมอง
- หยุดเลือด ใช้รักษาภาวะเลือดออกผิดปกติ เช่น อุจจาระเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด หรือประจำเดือนมามากผิดปกติ ที่เกิดจาก “เลือดร้อน”
เห็ดหูหนูขาว (White Fungus)
- บำรุงปอดและสารน้ำ ช่วยบำรุงพลังยินของปอด และเสริมสร้างสารน้ำในปอด ช่วยบรรเทาอาการไอแห้งๆ หรือไอมีเลือดปน (เนื่องจากปอดแห้ง) และช่วยบำรุงผิวพรรณ
อย่างไรก็ตาม การรับประทานเห็ดหูหนูก็มีข้อควรระวัง เนื่องจากเห็ดหูหนูมีฤทธิ์คล้ายสารต้านการแข็งตัวของเลือด จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนบริโภคในปริมาณมาก หากคุณกำลังใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น วาร์ฟาริน
เห็ดหูหนู ทำเมนูอะไรได้บ้าง
นอกจากประโยชน์ที่ดีต่อร่างกายแล้ว เห็ดหูหนูยังนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เช่น
- เห็ดหูหนูผัดไข่ เมนูคลาสสิก ทำง่าย อร่อย และมีประโยชน์
- ลาบเห็ดหูหนู (หมูสับ/เจ) รสชาติแซ่บจัดจ้าน นำมาทำเป็นลาบได้ทั้งแบบใส่เนื้อสัตว์และแบบเจ
- เห็ดหูหนูผัดวุ้นเส้น เป็นอีกเมนูที่นิยม ทำเป็นอาหารจานเดียวก็อิ่มอร่อย
- ยำเห็ดหูหนู ไม่ว่าจะเป็นยำแบบไทยรสจัด หรือยำแบบจีนที่ปรุงรสน้ำมันงา ก็อร่อยได้ความกรุบกรอบ
- ซุป/ต้มจืด เช่น ซุปเห็ดหูหนู หรือนำไปใส่ในต้มจืดต่างๆ เพื่อเพิ่มเนื้อสัมผัส
ที่มา: Healthline