ขนมปิงเฟิ่น คือ ขนมหวานชนิดหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมในโลกโซเชียล ด้วยขนมที่มีสีสันสวยงาม รสชาติหวานอมเปรี้ยว กินแล้วเย็นชื่นใจคล้ายกับวุ้นสมุนไพร ทั้งนี้ ขนมปิงเฟิ่นมีประวัติที่มาเป็นอย่างไร ใครเป็นคนริเริ่ม ไทยรัฐออนไลน์สรุปข้อมูล พร้อมแจกสูตรให้ทำตามกันได้ง่ายๆ ที่บ้าน
รู้จัก "ปิงเฟิ่น" คืออะไร
ปิงเฟิ่น ภาษาจีนเขียนว่า "冰粉" ซึ่งมาจากคำว่า "冰" หมายถึง น้ำแข็งหรือความเย็น ส่วน "粉" หมายถึง ผง หรือเมล็ดสำหรับทำวุ้น ดังนั้น ปิงเฟิ่นจึงหมายถึง วุ้นจีน หรือเยลลี่น้ำแข็ง
ทั้งนี้ ขนมปิงเฟิ่นทำจากเมล็ดปิงเฟิ่น เมื่อนำเมล็ดมาแช่ในน้ำ แล้วนวดจะทำให้แข็งตัวกลายเป็นวุ้นนั่นเอง นิยมกินคู่กับน้ำเชื่อม น้ำแข็ง หรือท็อปปิ้งหลากหลาย เช่น ถั่วลิสง งา อัลมอนด์ ผลไม้ หรือเม็ดบุก เพื่อเพิ่มรสสัมผัสและความหอมมัน
ประวัติที่มาของขนมปิงเฟิ่น
ขนมปิงเฟิ่นมีต้นกำเนิดจากมณฑลเสฉวน ประเทศจีน จากชาวบ้านคิดหาขนมกินเล่นที่ช่วยคลายร้อนได้ เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงฤดูร้อนที่มีอากาศร้อนจัด โดยจากการเล่าต่อกันมาเชื่อว่า ขนมชนิดนี้ได้เริ่มแพร่หลายตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิง และได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในหลายๆ ประเทศ รวมถึงในประเทศไทยอีกด้วย
...
วิธีทำขนมปิงเฟิ่นง่ายๆ ที่บ้าน
การทำปิงเฟิ่นเองไม่ยาก เพียงเตรียมวัตถุดิบ และทำตามขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้
วัตถุดิบทำปิงเฟิ่น
- เมล็ดปิงเฟิ่น หรือผงปิงเฟิ่น 30 กรัม
- น้ำสะอาด 1 ลิตร
- น้ำเชื่อม (ใช้น้ำตาลทรายแดง หรือน้ำผึ้งก็ได้)
- น้ำแข็ง
- ท็อปปิ้งตามชอบ เช่น ถั่ว งา ผลไม้สด หรือเม็ดบุก
วิธีทำปิงเฟิ่น
1. แช่เมล็ดปิงเฟิ่นในน้ำสะอาด แล้วใช้มือนวดหรือขยำเบาๆ ประมาณ 10-15 นาที
2. กรองเอาเฉพาะน้ำที่มีลักษณะข้นใส แล้วพักไว้จนเซ็ตตัวเป็นวุ้น
3. ตักวุ้นใส่ถ้วย เติมน้ำแข็งบด ราดน้ำเชื่อม และใส่ท็อปปิ้งตามใจชอบ
4. เสิร์ฟเย็นๆ เพื่อความสดชื่น
ทั้งนี้หากแช่ในตู้เย็นนานประมาณ 1-2 ชั่วโมง เนื้อวุ้นจะยิ่งหนึบและเด้งน่า กินยิ่งขึ้น
ขนมปิงเฟิ่นเป็นขนมหวานพื้นบ้านจากประเทศจีนที่ผสมผสานความอร่อยและความสดชื่นได้อย่างลงตัว นิยมกินกับน้ำแข็ง น้ำเชื่อม และเติมท็อปปิ้งได้ตามใจชอบ ทำให้เป็นอีกหนึ่งขนมหวานดับร้อนที่ได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน