วันนี้ใครๆ ก็รู้ว่า “นัตโตะ” หรือถั่วเน่าญี่ปุ่นนั้นมีประโยชน์สูง ทั้งบำรุงหัวใจ ลดความดันโลหิต ดีต่อสุขภาพลำไส้ แถมยังช่วยลดการอักเสบในร่างกายอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจไม่รู้ว่าการกินนัตโตะคู่กับอาหารบางชนิดอาจทำให้เกิดโทษต่อร่างกายได้ ดังนั้นเราจึงควรระวังอะไรบ้าง
ข้อควรระวังก่อนกินนัตโตะ
แม้ว่านัตโตะจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายสูง แต่ใช่ว่าทุกคนจะเหมาะกับการรับประทานนัตโตะ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาต่างๆ เหล่านี้
1. ผู้ที่รับประทานยาละลายลิ่มเลือด (Warfarin)
- นัตโตะมี วิตามินเค (Vitamin K) สูงมาก ซึ่งวิตามินเค มีส่วนสำคัญในการทำให้เลือดแข็งตัว
- การรับประทานนัตโตะจะลดประสิทธิภาพของยาวาร์ฟารินในการป้องกันการแข็งตัวของเลือด ดังนั้นผู้ที่รับประทานยานี้อยู่ ควรหลีกเลี่ยง การรับประทานนัตโตะ
2. ผู้ที่มีปัญหากรดยูริกสูง หรือโรคข้ออักเสบหรือเกาต์
- การรับประทานนัตโตะในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้ได้รับ พิวรีน (Purine) มาก ซึ่งอาจทำให้ระดับกรดยูริกในเลือดสูงขึ้นและเกิดอาการปวดข้อได้ จึงควรจำกัดปริมาณการบริโภค
3. ผู้ที่แพ้ถั่วเหลือง
- เนื่องจากนัตโตะทำจากถั่วเหลือง ผู้ที่แพ้ถั่วเหลืองจึงไม่ควรรับประทาน
4. ไม่ควรบริโภคในปริมาณมากเกินไป
- นัตโตะมีไฟเบอร์สูง การรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิด แก๊สและท้องอืด ได้
- ปริมาณที่แนะนำโดยทั่วไปของคนญี่ปุ่นคือประมาณ 1 กล่อง (40-50 กรัม) ต่อวัน
...
ไม่ควรกินนัตโตะคู่กับอะไร
นอกจากผู้ที่มีข้อจำกัดด้านร่างกายบางประการแล้ว การกินนัตโตะคู่กับอาหารบางอย่าง อาจไปลดทอนคุณค่าหรือก่อให้เกิดโทษต่อร่างกายด้วยเช่นกัน
1. อาหารที่มีความร้อนสูง
- ไม่ควรนำนัตโตะไปปรุงอาหารด้วยความร้อนสูง เช่น การทอด, ผัด หรือเทบนข้าวสวยที่ร้อนจัดมาก เพราะความร้อนจะทำให้เอนไซม์นัตโตะไคเนส (Nattokinase) และแบคทีเรียที่มีประโยชน์เสียสภาพและลดคุณค่าหรือประโยชน์ลง
2. การปรุงรสด้วยโซเดียมสูงเกินไป
ควรหลีกเลี่ยงการเติมซีอิ๊วหรือเครื่องปรุงรสที่มีโซเดียมสูงเกินไป เพื่อป้องกันภาวะความดันโลหิตสูง
3. การเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องนานเกินไป
- เพื่อรักษาคุณสมบัติและประโยชน์ของนัตโตะ ควรรับประทานในขณะที่ยังเย็นอยู่ หรือไม่ปล่อยทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องนานเกินไป
ควรกินนัตโตะคู่กับอะไร ที่ช่วยเสริมประโยชน์ให้ร่างกายได้ลงตัว
เมนูที่แนะนำให้รับประทานคู่กับนัตโตะแล้วดีต่อร่างกาย มักจะเป็นการรวมกันของโปรไบโอติกส์ (จากนัตโตะ), พรีไบโอติก (อาหารของโปรไบโอติกส์), ไฟเบอร์, โปรตีน, และไขมันดี เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดและช่วยเสริมรสชาติพร้อมทั้งกลบกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของนัตโตะได้
1. นัตโตะกับกิมจิ เป็นคู่ที่เสริมประโยชน์กันได้อย่างดี
- นัตโตะมีโปรไบโอติกส์กจากเชื้อ Bacillus subtilis ส่วนกิมจิก็มีโปรไบโอติกส์จาก Lactobacillus kimchii การรวมกันของอาหารหมักสองชนิดนี้จะช่วยเพิ่มความหลากหลายของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น
- วิธีทำ: คลุกนัตโตะ (ที่ปรุงด้วยซอสโชยุหรือมัสตาร์ดแล้ว) เข้ากับกิมจิที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วทานคู่กับข้าวสวย (อุ่น) หรือเป็นเครื่องเคียง
2. นัตโตะกับไข่ดิบ หรือไข่ออนเซ็น เป็นเมนูคลาสสิกของคนญี่ปุ่นที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง
- นัตโตะให้โปรตีนและเอนไซม์ที่ดีต่อสุขภาพ ส่วนไข่ก็เพิ่มโปรตีนและไขมันดี โดยเฉพาะไข่แดงที่เยิ้มๆ จะช่วยเพิ่มความนุ่มนวลและลดความรู้สึกเหนียวหนืดของนัตโตะได้
- วิธีทำ: คนนัตโตะให้ขึ้นฟอง ใส่ซอสที่ให้มา แล้วตอกไข่แดง (หรือไข่ออนเซ็น) ลงไปคลุกให้เข้ากัน ราดบนข้าวสวยอุ่นๆ
3. นัตโตะกับอะโวคาโด เป็นการรวมพลังของซูเปอร์ฟู้ด
- นัตโตะให้โปรตีน ไฟเบอร์ และเอนไซม์ที่ดีต่อเลือดและลำไส้ ส่วนอะโวคาโดอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ที่เป็นประโยชน์ต่อหัวใจและช่วยในการดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามินเคในนัตโตะ ได้ดียิ่งขึ้น
- วิธีทำ: ทำเป็นสลัดนัตโตะ โดยหั่นอะโวคาโด, มะเขือเทศเชอร์รี่, แตงกวา แล้วคลุกกับนัตโตะ ราดด้วยน้ำสลัดงา หรือซอสพอนซึ
4. นัตโตะกับกระเจี๊ยบ หรือผักเส้นใยสูงอื่นๆ เพิ่มพรีไบโอติกให้กับจุลินทรีย์ในนัตโตะ
...
- กระเจี๊ยบก็มีเมือกเหนียวคล้ายนัตโตะ และอุดมไปด้วยใยอาหาร (พรีไบโอติก) ซึ่งทำหน้าที่เป็นอาหารให้กับโปรไบโอติกส์ในนัตโตะ ทำให้โปรไบโอติกส์ทำงานได้ดีขึ้น ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย
- วิธีทำ: นำกระเจี๊ยบไปลวกหรือต้ม แล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ผสมกับนัตโตะและปรุงรส
5. นัตโตะกับเต้าหู้เย็น เมนูโปรตีนสูงไขมันต่ำ เหมาะสำหรับผู้ที่คุมอาหาร
- เต้าหู้เป็นแหล่งโปรตีนจากถั่วเหลืองที่ดีเยี่ยม เมื่อรวมกับนัตโตะจึงได้โปรตีนเต็มๆ และมีไขมันต่ำ
- วิธีทำ: วางนัตโตะที่ปรุงรสแล้วบนเต้าหู้ขาวเย็นๆ โรยด้วยต้นหอมซอย ขิงขูด และโชยุ