คำว่าของแสลง หรืออาหารแสลง เป็นคำที่เรามักได้ยินบ่อยเวลาที่มีอาการเจ็บป่วย หรือต้องผ่าตัด และมักจะถกเถียงกันว่าอะไรกินได้ อะไรห้ามกิน จนเกิดความสงสัยว่าจริง ๆ แล้วของแสลงคืออะไรกันแน่ เป็นแค่ความเชื่อโบราณหรือมีผลต่อสุขภาพจริงๆ เรามีคำตอบในมุมวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือมาให้แล้ว

“ของแสลง” คืออะไร ทำไมถึงเรียกว่า “แสลง”

ของแสลง หรือ อาหารแสลง คือ อาหารที่เราควรงดทานเป็นพิเศษในช่วงที่ร่างกายกำลังอ่อนแอ มีอาการเจ็บป่วย มีบาดแผล หรือมีโรคประจำตัว เพราะอาหารเหล่านี้จะไปกระตุ้นหรือทำปฏิกิริยากับร่างกาย ทำให้อาการป่วยที่เป็นอยู่แย่ลง หายช้าลง หรือเกิดอาการแทรกซ้อนได้ง่ายขึ้น

ส่วนคำว่า "แสลง" นั้น หมายถึงของที่ขัดกัน ไม่ถูกกัน หรือทำให้อาการไม่ดีขึ้น เช่น แสลงกับโรค, แสลงแผล เมื่อทานเข้าไปแล้วจึงไปกระตุ้นให้อาการเจ็บป่วยหรือการอักเสบในร่างกายกำเริบขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม ของแสลงไม่ได้หมายความว่าเป็นอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพเสมอไป แต่เป็นอาหารที่ต้องระวังเป็นพิเศษในช่วงที่ร่างกายเราเจ็บป่วยต้องการฟื้นฟูอยู่

ของแสลงที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย

ของแสลงมักจะแตกต่างกันไปตามอาการป่วยหรือโรคที่เป็น แต่โดยทั่วไปแล้ว ของแสลงที่ควรระวังเป็นพิเศษ มักได้แก่

  • อาหารรสจัด เช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด เค็มจัด หวานจัด จะไปกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ทำให้ธาตุไม่สมดุล ตามหลักแพทย์แผนไทย รสเผ็ดหรือเปรี้ยวทำให้ระคายเคืองกระเพาะอาหาร รสเค็มทำให้แผลบวม
  • ของหมักดอง เช่น ปลาร้า ผักดอง ผลไม้ดอง ปูเค็ม เพราะมีเกลือและน้ำตาลสูงมาก อาจไม่สะอาดและมีเชื้อโรค มีความเชื่อว่าทำให้เกิดการอักเสบหรือน้ำเหลืองเสีย
  • อาหารที่มีไขมันสูงหรือทอด เช่น อาหารทอดน้ำมันท่วม ของมันๆ ทำให้ย่อยยาก มีอาการท้องอืด อาจไปกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย
  • เครื่องดื่มกระตุ้นร่างกาย เช่น แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ น้ำอัดลม โดยแอลกอฮอล์ ทำให้ร่างกายสะสมความร้อน กระตุ้นการอักเสบ ภูมิคุ้มกันต่ำลง ส่วนคาเฟอีนหรือน้ำอัดลม กระตุ้นให้กระเพาะอาหารผลิตกรดมากขึ้น
  • อาหารทะเลบางชนิด เช่น กุ้ง หอย ปู ปลาหมึก โดยเฉพาะผู้มีประวัติแพ้หรือเป็นโรคผิวหนัง อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ กระตุ้นผื่นคัน หรือทำให้แผลหายช้าในบางคน
  • อาหารดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบ สเต๊กเนื้อดิบ ซูชิที่ไม่สด ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค พยาธิ หรืออาหารเป็นพิษ ซึ่งทำให้ร่างกายอ่อนแอลง
  • อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม อาหารสำเร็จรูป มักมีโซเดียมสูง มีสารปรุงแต่งเยอะ อาจกระตุ้นการอักเสบในร่างกายมากขึ้น

...

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock


ใครที่ควรเลี่ยงของแสลงเหล่านี้

แทบทุกคนที่ร่างกายไม่สมบูรณ์แข็งแรงควรระวังของแสลง แต่กลุ่มคนที่ควรเลี่ยงอย่างเคร่งครัดคือ

  1. ผู้ที่เพิ่งผ่าตัดหรือมีบาดแผล เพื่อให้แผลหายเร็ว ลดอาการบวมและอักเสบ และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ
  2. ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยแบบเฉียบพลัน เช่น ไข้หวัด เจ็บคอ ท้องเสีย เพราะของแสลงจะทำให้อาการหายช้าลง
  3. ผู้ป่วยโรคประจำตัว โดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ เช่น โรคกระเพาะ กรดไหลย้อน ริดสีดวง โรคเกาต์ โรคผิวหนังอักเสบ หรือภูมิแพ้ เพราะอาหารแสลงเป็นตัวกระตุ้นอาการได้โดยตรง
  4. ผู้ที่อยู่ในระหว่างการรักษาโรคแผนโบราณหรือสมุนไพร เพราะยาบางชนิดอาจมีปฏิกิริยากับอาหารบางประเภท

ดังนั้น หากกำลังอยู่ในภาวะเจ็บป่วย ไม่ว่าจะด้วยโรคอะไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อขอคำแนะนำเรื่องอาหารที่เหมาะสมกับอาการที่เป็นอยู่โดยเฉพาะ เพราะร่างกายของแต่ละคนตอบสนองต่ออาหารไม่เหมือนกัน การเลือกทานอาหารที่อ่อนโยนต่อร่างกายในยามป่วยถือเป็นส่วนสำคัญในการฟื้นฟูสุขภาพให้กลับมาแข็งแรงได้เร็วขึ้น