ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายในตอนนี้ คงไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการปล่อยใจไปกับการใช้เวลาอยู่ในห้องครัว ท่ามกลางกลิ่นหอมหวานของกะทิ และน้ำตาลมะพร้าว ด้วยเมนูของหวานแสนอร่อยอย่าง บัวลอยไข่หวาน
แน่นอนว่าการทำบัวลอยไม่ใช่แค่การทำของหวานธรรมดาๆ แต่เปรียบเสมือนงานศิลปะที่ต้องใช้เวลา เพราะต้องปั้นแป้งกลมๆ กลายเป็นกิจกรรมยามว่างท่ามกลางสายฝน ที่จะเปลี่ยนครัวของคุณให้กลายเป็นพื้นที่แห่งความผ่อนคลายและสร้างสรรค์
วัตถุดิบบัวลอยไข่หวาน
แป้งบัวลอย
- แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม (สำหรับแป้งสีขาว)
- แป้งข้าวเหนียว 150 กรัม (สำหรับแป้งสีต่างๆ)
- น้ำใบเตยคั้นสด, น้ำดอกอัญชัน, หรือเนื้อฟักทองนึ่งบดละเอียด (สำหรับสีสันจากธรรมชาติ)
- น้ำสะอาด
น้ำกะทิ
- หัวกะทิคั้นสด 250 มิลลิลิตร
- หางกะทิ 400 มิลลิลิตร
- น้ำตาลมะพร้าวอย่างดี 150 กรัม แต่ปรับความหวานได้ตามชอบ
- น้ำตาลทรายขาว 2 ช้อนโต๊ะ เพื่อรสหวานที่กลมกล่อม
- เกลือป่น ¼ ช้อนชา
- ใบเตย 2-3 ใบ มัดเป็นปมเพื่อความหอม
วัตถุดิบไข่หวาน
- ไข่ไก่สดใหม่ 4 ฟอง
- น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำสะอาด
วิธีการทำบัวลอยไข่หวาน
บัวลอยที่ต้องคู่กับไข่หวาน
เสน่ห์ของบัวลอยไข่หวานถ้วยนี้อยู่ที่ไข่แดงที่สุกกำลังดี เป็นยางมะตูมเยิ้มๆ เริ่มจากการต้มน้ำในหม้อใบเล็กให้เดือด ใส่น้ำตาลทรายลงไปคนให้ละลาย จากนั้นลดไฟลงให้อ่อนที่สุดจนน้ำเกือบนิ่ง ตอกไข่ไก่ใส่ถ้วย แล้วค่อยๆ เทลงในหม้ออย่างแผ่วเบา อย่าให้ไข่แตก ช้อนฟองออกเพื่อให้ไข่สวยงาม ต้มทิ้งไว้ประมาณ 3-4 นาทีจนไข่ขาวสุกและไข่แดงเป็นยางมะตูมตามต้องการ ตักขึ้นมาพักไว้
...
วิธีการปั้นแป้งบัวลอย
นี่คือขั้นตอนที่เพลินที่สุด แบ่งแป้งข้าวเหนียวใส่ชามผสม ค่อยๆ เทน้ำสะอาด (หรือน้ำสีจากธรรมชาติ) ลงไปทีละน้อย ใช้ปลายนิ้วนวดคลึงเบาๆ จนแป้งเนียนนุ่ม ไม่ติดมือ และสามารถปั้นเป็นก้อนกลมได้ หากต้องการทำหลายสี ให้แยกแป้งเป็นส่วนๆ แล้วผสมกับน้ำใบเตย, เนื้อฟักทองบด หรือน้ำดอกอัญชัน จากนั้นคลึงแป้งเป็นเส้นยาวๆ แล้วตัดเป็นชิ้นเล็กๆ เท่าๆ กัน คลึงแป้งแต่ละชิ้นให้เป็นเม็ดกลมมนน่ารัก วางเรียงบนถาดที่โรยแป้งนวลไว้เพื่อไม่ให้แป้งติดกัน
ปรุงน้ำกะทิให้หอมละมุน
ตั้งหม้อบนไฟกลาง ใส่หางกะทิ, น้ำตาลมะพร้าว, น้ำตาลทราย, เกลือ และใบเตยมัดปมลงไป คนเบาๆ ให้น้ำตาลละลายจนหมด พอน้ำกะทิเริ่มร้อนและส่งกลิ่นหอม ให้ใส่หัวกะทิลงไป คนให้เข้ากันแล้วรีบปิดไฟ
เคล็ดลับสำคัญ: อย่าปล่อยให้กะทิเดือดพล่าน เพราะจะทำให้กะทิแตกมันและเสียรสชาติที่ดีที่สุดไป
รวมทุกอย่างให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อให้เป็นบัวลอยไข่หวานที่สมบูรณ์
ตั้งน้ำในหม้อให้เดือดพล่าน นำเม็ดบัวลอยที่ปั้นไว้ลงไปต้ม เมื่อแป้งสุกจะลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ รอสักครู่แล้วใช้กระชอนตักขึ้นมาแช่ในน้ำเย็นทันทีเพื่อความหนึบหนับ จากนั้นจึงตักเม็ดบัวลอยใส่ลงในหม้อน้ำกะทิที่เตรียมไว้
การเสิร์ฟบัวลอยไข่หวาน ตักบัวลอยพร้อมน้ำกะทิอุ่นๆ ใส่ลงในถ้วยเซรามิกใบสวย วางไข่หวานลงตรงกลางอย่างบรรจง ราดด้วยหัวกะทิข้นๆ อีกเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความหอมมัน เสิร์ฟทันทีในขณะที่ยังอุ่นๆ เพื่อสัมผัสรสชาติที่ดีที่สุด