Madre Brava องค์กรพัฒนาเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมและอาหาร เปิดเผยแนวโน้มการเติบโตของตลาดเนื้อและอาหารทะเลจากพืช (Plant-based) ทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะยุโรปซึ่งกำลังเปิดกว้างอย่างมากสำหรับผู้ผลิตโปรตีนทางเลือกจากไทย
Euromonitor International ระบุว่า ยอดขายสินค้าแพลนต์เบสทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ ตั้งแต่ปี 2564 และคาดว่าจะเติบโตอีก 43 เปอร์เซ็นต์ ระหว่างปี 2568–2572 ขณะที่ต้นทุนการผลิตโปรตีนจากพืชลดลงต่อเนื่อง ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้นทั้งตลาดท้องถิ่นและสากล
วิชญะภัทร์ ภิรมย์ศานต์ ผู้อำนวยการประเทศไทยของ Madre Brava กล่าวว่า ช่วงเวลานี้คือ “จังหวะเปลี่ยนผ่าน” ที่ผู้ผลิตโปรตีนเนื้อสัตว์ไทยควรใช้โอกาสเข้าสู่การผลิตอาหารยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่และสนับสนุนเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศของไทยตามข้อตกลงปารีส พร้อมยกข้อมูลว่า ผลิตภัณฑ์แพลนต์เบสมีศักยภาพลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ต่ำกว่าเนื้อหมู 88 เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่าเนื้อไก่ 67 เปอร์เซ็นต์ อีกทั้งลดการใช้น้ำได้มากกว่า 94 เปอร์เซ็นต์ และช่วยบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก
...
ด้านการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของไทย มีรายงานว่าอุตสาหกรรมปศุสัตว์เป็นแหล่งปล่อยสำคัญลำดับต้นๆ ของประเทศ และหากรวมการผลิตอาหารสัตว์รวมแล้วมีการปล่อยประมาณ 39 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี สอดคล้องกับความจำเป็นที่ไทยต้องเร่งเพิ่มสัดส่วนโปรตีนจากพืชเพื่อช่วยลดการปล่อยในภาคเกษตร
ขณะเดียวกัน ฝั่งผู้ค้าปลีกยุโรปได้เริ่มส่งสัญญาณชัดเจนถึงความต้องการสินค้าแพลนต์เบส มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Lidl ตั้งเป้าเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์จากพืช 20 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2573 ครอบคลุม 31 ประเทศ
ขณะที่ Ahold Delhaize วางเป้าให้สัดส่วนโปรตีน พืช:สัตว์ เป็น 50:50 ในปีเดียวกัน สะท้อนโอกาสส่งออกสำคัญสำหรับผู้ผลิตไทย ซึ่งมีความพร้อมทั้งเทคโนโลยีการผลิตและความเชี่ยวชาญด้านอาหารในฐานะ “ครัวของโลก”
วิชญะภัทร์ทิ้งท้ายว่า เจตนารมณ์ของผู้ค้าปลีกยุโรปรายใหญ่ทำให้ภูมิภาคนี้เป็นตลาดส่งออกที่น่าจับตามองสำหรับผู้ผลิตไทย ที่ต้องการขยายตลาดและยกระดับธุรกิจสู่ความยั่งยืน ควบคู่กับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม