มีเมนูอาหารไทยไม่กี่อย่าง ที่แค่เอ่ยชื่อขึ้นมา กลิ่นหอมของสมุนไพรและเครื่องเทศก็ลอยมาแตะจมูก ราวกับว่าหม้อแกงร้อนๆ ตั้งอยู่ตรงหน้า และเมนูแกงเขียวหวานไก่ ก็คือหนึ่งในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย

เมนูนี้เป็นมากกว่าแค่อาหาร แต่เป็นตัวแทนของวัฒนธรรม และเป็นรสชาติที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี 

วันนี้เราจะชวนคุณมาปลุกเสน่ห์ปลายจวัก ลองเข้าครัวทำแกงเขียวหวานไก่ฉบับโฮมเมด ที่รับรองว่าถ้าได้ลองทำสักครั้ง จะกลายเป็นเมนูโปรดประจำบ้านไปเลย

หัวใจความอร่อยของพริกแกงเขียวหวาน

เคล็ดลับสำคัญที่สุดของแกงเขียวหวานที่อร่อยอยู่ที่ "พริกแกง" สำหรับมือใหม่หรือใครที่ไม่มีเวลา การเลือกใช้พริกแกงสำเร็จรูปเจ้าอร่อยที่ไว้ใจก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่ถ้าใครอยากท้าทายฝีมือขึ้นอีกนิด การตำพริกแกงเองจะให้กลิ่นหอมสดใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครได้เช่นกัน

เตรียมวัตถุดิบให้พร้อม (สำหรับ 2-3 ที่)

  • เนื้อไก่ 300 กรัม เลือกส่วนที่ชอบแต่ถ้าเน้นความนุ่มส่วนสะโพกจะนุ่มกว่า หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
  • พริกแกงเขียวหวาน 2-3 ช้อนโต๊ะ 
  • หัวกะทิ 250 มิลลิลิตร 
  • หางกะทิ หรือน้ำเปล่า 300 มิลลิลิตร
  • มะเขือเปราะ 5-6 ลูก ผ่าสี่ส่วน แช่น้ำเกลือป้องกันไม่ให้ดำ
  • มะเขือพวง 1/4 ถ้วย แล้วเด็ดเป็นช่อๆ
  • ใบมะกรูด 4-5 ใบ โดยฉีกก้านกลางออก
  • ใบโหระพา 1 กำมือ
  • พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด หั่นแฉลบสำหรับตกแต่ง
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำแกงเขียวหวานไก่

  • ตั้งกระทะหรือหม้อบนไฟกลาง ใส่น้ำมันพืชเล็กน้อย ตามด้วยหัวกะทิประมาณครึ่งหนึ่ง ผัดจนกะทิเริ่มเดือดและแตกมันสวยงาม สังเกตจากน้ำมันสีเขียวใสๆ ที่ลอยขึ้นมา
  • นำพริกแกงเขียวหวานลงไปผัดกับกะทิที่แตกมัน ใช้ไฟอ่อนค่อยๆ ผัดจนส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วครัว ขั้นตอนนี้คือช่วงเวลาที่วิเศษที่สุดเลย
  • เมื่อพริกแกงหอมได้ที่แล้ว ใส่เนื้อไก่ที่เตรียมไว้ลงไป ผัดให้เข้ากับพริกแกงจนเนื้อไก่เริ่มสุกและตึงตัว
  • ค่อยๆ เติมหัวกะทิที่เหลือและหางกะทิลงไป คนให้เข้ากันแล้วรอจนเดือดอีกครั้ง
  • เมื่อแกงเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ คนให้น้ำตาลละลายดี ชิมรสชาติให้ออกเค็มนำและหวานตามเล็กน้อย กลมกล่อมกำลังดี
  • ใส่มะเขือเปราะและมะเขือพวงลงไป เคี่ยวต่อด้วยไฟกลางจนมะเขือสุกนิ่มตามความชอบ 
  • เมื่อทุกอย่างสุกได้ที่แล้ว ใส่ใบมะกรูดฉีก พริกชี้ฟ้าแดง และใบโหระพาเป็นลำดับสุดท้าย คนให้เข้ากันเล็กน้อยแล้วปิดไฟทันที ความร้อนที่ยังเหลืออยู่จะทำให้ใบโหระพาสลดและส่งกลิ่นหอมอบอวลพอดี

...

เคล็ดลับเพิ่มความอร่อย

  • หากใช้กะทิคั้นสด จะได้ความหอมมันที่เป็นธรรมชาติมากกว่ากะทิกล่อง
  • สามารถใส่เลือดไก่ก้อน หรือลูกชิ้นปลากรายเพิ่มเข้าไปได้ จะทำให้น่าทานยิ่งขึ้น
  • หลังจากใส่ใบโหระพาแล้วไม่ควรเคี่ยวต่อ เพราะจะทำให้ใบโหระพาดำและเสียกลิ่นหอมไป