ถ้าเดินตลาดแถบชายแดนมีโอกาสที่จะสะดุดพบกับเนื้อก้อนแดงๆ ซ้อนชั้นในตะกร้าไม้ไผ่ นั่นคือ “เนื้อส้มตาก” เมนูแปลก หากยาก ซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้านของชาวไทใหญ่ ที่คนเมืองไม่ค่อยคุ้นตา หน้าตาคล้ายแหนม แต่มีเสน่ห์และสูตรต่างออกไปชัดเจน

ปกติแล้วชาวไทใหญ่เรียกเนื้อแทนคำว่า หมู ดังนั้น “เนื้อส้มตาก” จึงทำจากหมูเป็นหลัก ให้รสชาติ เปรี้ยวเค็มมัน ใกล้เคียงจิ้นส้มและแหนม ทางภาคเหนือ 

ทว่าสูตรไทใหญ่จะไม่ใส่กระเทียม แต่ผสมเลือดหมู ช่วยให้สีแดงสวยและกลิ่นลุ่มลึกแบบดั้งเดิม สมัยก่อนเป็นเมนูที่บรรพบุรุษทำเก็บสำหรับพกพาเวลาเดินทาง ถ้าเก็บนอกตู้เย็นเก็บได้ราว 1 สัปดาห์ และแช่เย็นได้ราว 1 เดือน

นางแสง ณรงค์สุข
นางแสง ณรงค์สุข


นางแสง ณรงค์สุข อายุ 52 ปี ชาวบ้านผาแตก ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย เล่าว่า สูตรที่เธอทำขายในตลาดสดนายบุญมั่น ชุมชนผาแตก นำมาจากเมืองปางซาง ติดพรมแดนจีน ทำต่อเนื่องมา 3 ปี ลูกค้าหลักคือคนเชื้อสายไทใหญ่ในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวที่แวะมาลองของหายาก

...

ส่วนผสมมีหมูบด หนังหมู เลือดหมู เกลือ ผงชูรส ข้าวสวย คลุกให้เข้ากัน แล้วอัดเป็นชั้นๆ ในภาชนะคั่นด้วยใบตอง ใช้ของหนักทับให้แบน หมักทิ้งไว้ 3 วัน จึงพร้อมจำหน่าย ราคากิโลกรัมละ 300 บาท และมีแบ่งขายเป็นขีดๆ ด้วย ความต่างที่ชัดจากแหนมไทยคือ ไม่มีใบหรือกลิ่นของกระเทียม แต่ได้สัมผัสหนึบจากหนังหมูและกลิ่นรสเฉพาะตัวของเลือดที่ผ่านการหมัก

เนื้อส้มตาก ควรต้องผ่านความร้อนก่อนรับประทาน
เนื้อส้มตาก ควรต้องผ่านความร้อนก่อนรับประทาน


วิธีกินให้อร่อยและปลอดภัย แนะนำให้ปรุงสุกทุกครั้ง จะย่างหรือทอดก็ได้ ทำให้ผิวด้านนอกเกรียมนิดๆ เสิร์ฟกับขิงสด พริกขี้หนู ถั่วลิสง หรือซอยโรยบนข้าวสวยร้อนๆ ก็เข้ากัน 

เนื้อส้มตาก หาได้ตามตลาดที่มีกลุ่มชาติพันธุ์ไทใหญ่อาศัย โดยเฉพาะ ตลาดสดนายบุญมั่น ชุมชนผาแตก ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ของนางแสง หากไปช่วงเช้ามีโอกาสได้ของใหม่หมักครบเครื่องกำลังดี