หากจะพูดถึงสุดยอดผักพื้นบ้านจากแดนใต้ที่ครองใจนักชิมและสายสุขภาพทั่วประเทศ ชื่อของ “ใบเหลียง” หรือที่ชาวใต้เรียกกันว่า “ผักเหมียง” ย่อมต้องติดโผอย่างไม่ต้องสงสัย จากเดิมที่เป็นเพียงผักป่าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ วันนี้ใบเหลียงได้ก้าวขึ้นมาเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญ และเป็น "ราชินีผักพื้นบ้าน" ด้วยรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ที่หวานมัน ไม่มีกลิ่นเหม็นเขียว และไม่ขมเหมือนผักใบเขียวอื่น ๆ ทำให้กลายเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศที่สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลายเมนู
ประโยชน์ของใบเหลียง
ใบเหลียงไม่ได้มีดีแค่ความอร่อย แต่ยังมีคุณค่าทางโภชนาการและมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย โดยจัดเป็นซูเปอร์ฟู้ดพื้นบ้านที่อุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญ โดยเฉพาะสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของวิตามินเอ และสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ ดังนี้
1. บำรุงสายตาและชะลอความเสื่อม
ใบเหลียงมีเบต้าแคโรทีนและวิตามินเอสูงมาก ซึ่งทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันดวงตา ช่วยให้มองเห็นในที่มืดได้ดีขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงของโรคเกี่ยวกับตา เช่น โรคต้อกระจก
2. เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง
เป็นผักที่มีแคลเซียมสูง จึงช่วยส่งเสริมการสร้างกระดูกและฟัน ลดปัญหาโรคกระดูกพรุนในวัยสูงอายุ
...
3. ต้านอนุมูลอิสระและชะลอวัย
เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยปกป้องเซลล์ร่างกายจากความเสียหาย ลดความเสี่ยงของเซลล์มะเร็งบางชนิด และยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น ดูอ่อนเยาว์
4. ดีต่อระบบประสาทและสมอง
อุดมไปด้วยวิตามินบี ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาท ช่วยบำรุงสมอง เสริมสร้างความจำ และช่วยป้องกันอาการชาตามปลายมือปลายเท้า
5. ช่วยระบบขับถ่าย
มีไฟเบอร์สูง ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้การขับถ่ายดีขึ้น ป้องกันอาการท้องผูก และยังช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลในกระแสเลือดได้อีกด้วย
ใบเหลียง ทำเมนูอะไรได้บ้าง?
ด้วยรสชาติที่โดดเด่นและเนื้อสัมผัสที่หวานมัน ทำให้ใบเหลียงสามารถนำมาสร้างสรรค์เมนูอร่อยได้ตั้งแต่แบบคลาสสิกไปจนถึงแบบฟิวชัน ซึ่งเมนูยอดนิยมที่ห้ามพลาด ได้แก่
1. ใบเหลียงผัดไข่ เมนูคลาสสิกที่ทุกคนหลงรัก
เป็นเมนู Signature ที่โด่งดังที่สุดของภาคใต้ ด้วยรสชาติหวานมัน กลมกล่อมของใบเหลียงผัดเข้ากับไข่ไก่หอม ๆ ปรุงรสด้วยน้ำปลาและซีอิ๊วขาวเล็กน้อย เป็นเมนูที่ทำง่าย อร่อย และมีเบต้าแคโรทีนสูง เพราะวิตามินในใบเหลียงจะละลายออกมาในน้ำมัน ทำให้ร่างกายดูดซึมไปใช้ประโยชน์ได้ดีขึ้น
2. ต้มกะทิใบเหลียง
เมนูน้ำกะทิรสชาติเข้มข้น หอมมัน กลมกล่อม ใส่ใบเหลียงอ่อน ๆ กับกุ้งสดหรือกุ้งแห้ง มักจะปรุงรสให้มีรสเค็มหวานนำ สามารถใส่ลูกเหลียงต้มเพิ่มลงไปได้ เป็นแกงที่รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ แล้วเข้ากันอย่างลงตัว
3. ใบเหลียงลวกจิ้มน้ำพริก
สำหรับคนที่รักการกินผักแบบดั้งเดิม การนำใบเหลียงไปลวกน้ำร้อนพอให้ใบอ่อนตัวแล้วนำมาจิ้มกับน้ำพริกต่าง ๆ เช่น น้ำพริกกะปิ หรือน้ำพริกมะม่วง ก็เป็นเมนูง่าย ๆ ที่ดึงความหวานตามธรรมชาติของใบเหลียงออกมาได้อย่างดีเยี่ยม
4. เมนูอื่นๆ ที่น่าลอง
- แกงส้มใบเหลียง สำหรับคนที่ชอบรสชาติเผ็ดเปรี้ยวจัดจ้านแบบอาหารใต้
- ใบเหลียงชุบแป้งทอด เมนูทานเล่นกรุบกรอบ ที่ให้รสชาติหวานมันของใบเหลียงคู่กับความเค็มมันของแป้งทอด
- ยำใบเหลียง เมนูยำรสแซ่บ เปรี้ยว เผ็ด สดชื่น
ไม่ว่าจะนำไปผัด ไปต้มกะทิ หรือกินคู่กับน้ำพริก "ใบเหลียง" ก็ยังคงความเป็น "ผักพื้นบ้านที่ไม่ธรรมดา" ที่มอบทั้งความอร่อยและคุณประโยชน์แก่ร่างกายได้อย่างดี
...