ด้วยวิถีชีวิตที่ยุ่งเหยิงในแต่ละวันอาจทำให้ตารางการใช้ชีวิตของหลายคนผิดเพี้ยนไป รวมถึงเวลารับประทานอาหารเย็นที่ดึกดื่น ซึ่งความจริงแล้วช่วงเวลาก่อนนอน เป็นช่วงที่ควรปล่อยให้ท้องว่าง เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่มบางประเภทที่อาจส่งผลต่อปัญหาการนอนหลับและระบบย่อยอาหารได้

อาหารและเครื่องดื่มที่ควรเลี่ยงในช่วงก่อนนอน

1. อาหารที่มีไขมันสูง เช่น ของทอด, อาหารผัดที่ใช้น้ำมันเยอะ, เนื้อแดง

เนื่องจากเป็นอาหารที่ย่อยยากและใช้เวลานานในการย่อย ทำให้ระบบย่อยอาหารต้องทำงานหนักในช่วงที่เราควรพักผ่อน อาจทำให้รู้สึกอึดอัดท้อง ท้องอืด จนรบกวนการนอนหลับได้ รวมทั้งยังเพิ่มความเสี่ยงของกรดไหลย้อนอีกด้วย

2. อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนมหวาน, ไอศกรีม, น้ำอัดลม

ความหวานจะเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและตื่นตัว ซึ่งขัดขวางวงจรการนอนหลับ ขณะเดียวกัน ระดับน้ำตาลในเลือดที่ลดลงอย่างรวดเร็วตอนหลับก็อาจกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ทำให้ตื่นตัวได้เช่นกัน

ภาพจาก iStock
ภาพจาก iStock

...


3. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา, กาแฟ, น้ำอัดลม, ช็อกโกแลตร้อน, เครื่องดื่มชูกำลัง

คาเฟอีนในเครื่องดื่มเหล่านี้จะไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ร่างกายตื่นตัว หัวใจเต้นเร็ว และสมองทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้นอนไม่หลับ หรือหลับได้ไม่สนิท แนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนอย่างน้อย 6 ชั่วโมงก่อนนอน

4. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

แม้ว่าแอลกอฮอล์จะทำให้รู้สึกง่วงและหลับง่ายในช่วงแรก แต่จะส่งผลรบกวนวงจรการนอนหลับ โดยเฉพาะช่วงหลับลึก ทำให้การนอนไม่มีคุณภาพ อาจตื่นกลางดึกบ่อยขึ้น ทำให้ตื่นมาจะรู้สึกไม่สดชื่น นอกจากนี้ยังทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารคลายตัว ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงของกรดไหลย้อน และยังเป็นยาขับปัสสาวะ อาจทำให้ต้องลุกเข้าห้องน้ำกลางดึกบ่อยๆ

5. อาหารรสจัด

สารแคปไซซินในอาหารรสเผ็ด จะไปเพิ่มอุณหภูมิร่างกายและอาจทำให้กระเพาะอาหารระคายเคือง ทำให้รู้สึกกระสับกระส่าย นอนหลับไม่สบาย ส่วนอาหารรสเปรี้ยวจัดหรือรสจัดจะไปกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งกรดเพิ่มขึ้น เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นกรดไหลย้อน

6. การดื่มน้ำในปริมาณมากเกินไป

การดื่มน้ำหรือเครื่องดื่มอื่นๆ ในปริมาณมากก่อนนอนส่งผลให้ต้องลุกขึ้นมาปัสสาวะบ่อยครั้งในเวลากลางคืน ทำให้นอนหลับไม่ต่อเนื่อง ทำให้การนอนไม่มีคุณภาพ

นอกจากอาหารและเครื่องดื่มที่ควรเลี่ยงเป็นพิเศษในช่วงก่อนนอนแล้ว ยังไม่ควรกินอาหารมื้อหนักหรืออาหารที่ย่อยยากก่อนนอนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง รวมถึงควรหลีกเลี่ยงผักบางชนิด เช่น หอมหัวใหญ่ สะระแหน่ กะหล่ำปลี เพราะอาจเพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้

หากต้องการให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ควรรับประทานอาหารเย็นให้เสร็จและเว้นระยะห่างก่อนเข้านอนอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายมีเวลาเพียงพอในการย่อยอาหาร ซึ่งจะช่วยป้องกันภาวะกรดไหลย้อนและทำให้นอนหลับได้ดีมีคุณภาพมากขึ้น