ขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารสไตล์ตะวันตก นอกจากเรื่องรสชาติแล้ว ที่สำคัญสำหรับอาหารสไตล์นี้ก็คือความสวยงาม และบรรยากาศที่ต้องลงตัวกันอย่างพอดิบพอดี วันนี้เลยสรรหามาให้เลือกไปนั่งกันกับ 2 ร้านสุดหรูในกรุงเทพฯนี่เอง
Brasserie Europa กายไทย ใจยุโรป
Brasserie Europa ห้องอาหารใหม่ล่าสุดของโรงแรมสยาม เคมปินสกี้ ให้บริการอาหารยุโรปแบบออลเดย์ไดนิง โดยมีเชฟ Mario Hofmann รองหัวหน้าพ่อครัวของโรงแรมฯ สร้างสรรค์อาหารจานสวย
Brasserie Europa ตกแต่งแบบร่วมสมัย มีกลิ่นอายของยุโรปและไทยผสมไว้ด้วยกันในโทนสีเอิร์ทสลับกับโทนสีม่วง โดยเฉพาะ “ดอกบัว” ถูกนำมาผสมไว้ในการตกแต่ง เนื่องจากพื้นที่เดิมของโรงแรมฯ เคยเป็นสระบัวเก่ามาก่อน ทางโรงแรมฯ จึงอยากสะท้อนอารมณ์เดิมไว้ นอกจากนี้ ยังมีการนำเอาฉากกั้นที่ทำเหมือนฝาปะกนบ้านเรือนไทย เจาะช่องให้โปร่งมาแบ่งพื้นที่ของห้องอาหาร ทำให้เป็นสัดส่วนที่ดูไม่ทึบจนเกินไป และไฮไลต์สำคัญที่สื่อความเป็นยุโรปก็คือครัวเปิดสไตล์ตะวันตก ซึ่งใช้เป็นที่ปรุงอาหารทุกจานเชฟมาริโอได้นำสไตล์การปรุงอาหารเฉพาะตัวมาสร้างสรรค์อาหารสไตล์ยุโรปโมเดิร์นที่ยังคงรสชาติแบบยูโรเปียนแท้ตามคอนเซ็ปต์ของห้องอาหารไว้ เริ่มที่ Modern Lobster Salad เชฟนำล็อบสเตอร์ไปลวกแล้วแช่ในวินีการ์ หัวหอม และเครื่องเทศจากแคว้นโปรวองซ์ แล้วนำไปตกแต่งให้สวยงามด้วยผักสลัดและไข่ปลา ต่อด้วย Pan Fried Cod Fish ปลาค้อดราดซอสที่นำเอาซุปมินิสโตรเนไปปรุง แต่ถ้าชอบอาหารหนักท้องหน่อยต้อง Rotisserie ½ “Truffle Skin” Chicken ไก่ครึ่งตัวนวดเนยและสมุนไพรให้เนื้อนุ่ม ยัดไส้เห็ดทรัฟเฟิลแล้วนำไปอบ เสิร์ฟกับเรดไวน์ซอส และเมนูสุดครีเอตที่นำเอาขนมหวานผสมกับอาหารคาว Salmon Beetroot Macaron มาการองผสมบีตรูตสอดไส้ไข่ปลาแซลมอน เสิร์ฟพร้อมเกสรดอกคาโมมายล์รสซ่าเย็น ช่วยตัดรสคาวของไข่ปลาได้อย่างดี ส่วนขนมหวานเชฟมาริโอยกหน้าที่ให้เชฟคริสเตียน เพสตรีเชฟ โชว์ฝีมือทำ Lemon Mille-Feuille ที่ใช้ช็อกโกแลตแทนแป้งเพสตรีสลับชั้นกับครีมเลมอนหวานอมเปรี้ยว เสิร์ฟพร้อมซอสส้ม
...
พิเศษในวันอาทิตย์ ทาง Brasserie Europa ได้เตรียม “Sunday Family Lunch” กับเมนูอาหารยุโรปที่เหมาะสำหรับกินอาหารร่วมกันในวันหยุดสุดสัปดาห์ไว้รอให้คุณและครอบครัวแวะไปชิมและสานสายใยรักร่วมกัน
อร่อยล้ำสไตล์อังกฤษที่ 'The Cup'
ด้วยระยะเวลาที่ยาวนานกว่า 30 ปีของร้าน The Cup เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพของรสชาติอาหารและบรรยากาศ ซึ่งสิ่งนี้เองที่สร้างความประทับใจให้นักชิมตั้งแต่รุ่นเล็กไปจนถึงรุ่นใหญ่
The Cup นำเสนออาหารโฮมเมดสไตล์อังกฤษ ภายใต้บรรยากาศสบายๆ ที่ให้คุณอิ่มเอมกับอาหารรสเลิศ พร้อมชมวิวทะเลสาบของสวนเบญจกิตติ ใกล้ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามร้านทางร้านคัดเลือกวัตถุดิบระดับพรีเมียมมาสร้างสรรค์เมนูต่างๆ ที่น่าสนใจมากมาย เช่น The Traditional Roast Turkey, Grilled Sausage and Bacon Served with Candied Sweet Potato, Brandied Gravy and Corn Bread with Raspberry Butter ไก่งวงสูตรพิเศษของร้าน เสิร์ฟพร้อมไส้กรอก เบคอน มันเคลือบน้ำเชื่อมบางๆ เพื่อตัดรส และบรั่นดีซอส พร้อมคอร์นเบรด กับเนยราสป์เบอร์รีที่อาจดูแปลกแต่ก็หอมอร่อย ซึ่งมีให้ลิ้มลองเฉพาะวันที่ 24-26 ธันวาคมนี้เท่านั้น
ส่วนเมนูประจำร้านในวันอื่นๆ ที่ไม่ควรพลาด คือ Warm King Prawn on Bed of Artichoke Heart with Orange Butter Sauce รสชาติความสดหวานของกุ้งเมื่อผสานเข้ากับออร์เรนต์บัตเตอร์ซอส ยิ่งทำให้สลัดกุ้งจานนี้ถูกใจใครหลายๆ คน หรือจะลอง Penne Sausage, Salad เส้นเพนเนผัดกับกระเทียม พริก และไส้กรอกอิตาเลียน เคียงด้วยสลัด รสชาติจัดจ้านถูกใจคนไทยยิ่งนัก
...
ส่วนของหวานนั้นขอแนะนำ Cherry Crepe แผ่นเครปบางเนื้อนุ่มสอดไส้ด้วยเชอร์รีลูกใหญ่และเชอร์รีซอสผสมคัสตาร์ด เครปอุ่นๆ กินพร้อมกับไอศกรีมวนิลลาและได้ความกรุบกรอบจากคาราเมลกรอบที่โรยหน้า นับเป็นการปิดท้ายมื้อแห่งความอร่อยได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ข้อมูล/ภาพ : Gourmet&Cuisine