เชื่อมั่นในความจริงใจและใส่ใจการทำงาน จะก้าวไปสู่สิ่งที่หวังไว้
ภาพความสุขในอดีตที่ซึมซับมาตั้งแต่เด็ก ก่อให้เกิดแรงจูงใจในการทำงานได้อย่างที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน เหมือนอย่าง “ณัฐวุฒิ มันทรานนท์” ช่างภาพหนุ่มมาดเซอร์ ที่บินไปหาแรงบันดาลใจในต่างแดน ก่อนที่จะค้นพบตัวตนว่า ชื่นชอบและมีความสุขกับการทำอาหารมาก จึงกลับมาสานต่อธุรกิจร้านอาหารของที่บ้าน ก่อนที่จะก้าวมาเป็นเชฟ เปิดร้านอาหารของตัวเอง โดยนำสูตรเด็ดของคุณยายที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นมาสร้างสรรค์ความสุขให้แก่นักชิม
เชฟณัฐ-ณัฐวุฒิ ออกตัวว่าขอเป็นแค่คนทำอาหาร เล่าถึงชีวิตกว่าจะได้ค้นพบความต้องการในชีวิตของตัวเอง ตนเป็นคนหลังสวน จ.ชุมพร ที่บ้านเปิดร้านอาหารใต้ “แม่เฉลียว” ซึ่งเป็นชื่อคุณยาย (เฉลียว มันทรานนท์) อยู่ที่ตลาดหลังสวน เมื่อก่อนยายจะขายแบบหาบเร่ไปตามโรงเรียนแต่พอถึงรุ่นแม่ (งามนิตย์ มันทรานนท์) เปิดเป็นร้าน ตนเกิดมาก็เห็นภาพยายและแม่ตำน้ำพริกเครื่องแกงขายอาหารจนกระทั่งโต ซึ่งพอเรียนจบจาก ร.ร.นวมินทราชูทิศ ทักษิณ ที่ จ.สงขลา ก็มาเรียนต่อคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่จริงที่บ้านอยากให้รับราชการ เพราะพ่อ (ไพฑูรย์) รับราชการเป็นตำรวจ แต่ด้วยอารมณ์ติสต์ในตัว เลยมาทำงานเป็นช่างภาพอิสระ ทำได้สักพักก็อยากไปหาประสบการณ์ชีวิต จึงบินไปเรียนและทำงานที่ Pub ในประเทศออสเตรเลียอยู่ 3 ปี ที่กลับมาเมืองไทย เพราะได้ฉุกคิดจากเพื่อนฝรั่งที่คุยกัน เขาถามว่ามาทำอะไรที่ออสเตรเลีย ทั้งที่มีความสามารถในการทำอาหาร แม่และยายก็เปิดร้านอาหารที่เมืองไทย เลยทำให้ตัวเองแพ็กกระเป๋ากลับเมืองไทยไปช่วยแม่ทำร้าน “แม่เฉลียว” ที่หลังสวน จ.ชุมพร
“ผมหนีการทำร้านอาหารมาตลอด เพราะเห็นแม่และยายทำมาตั้งแต่เกิด แต่พอกลับมาช่วยแม่ เห็นแม่เหนื่อย วันหนึ่งนอนไม่กี่ชั่วโมง ต้องตื่นตี 3 ไปซื้อของ ผมเลยรู้สึกว่าเราต้องรับผิดชอบ จะล่องลอยไม่ได้แล้ว ไปช่วยแม่ก็ช่วยเต็มตัว ไปจ่ายกับข้าว ไปซื้ออาหารสดด้วยตัวเอง แล้วมาโขลกน้ำพริกเครื่องแกง และปรุงอาหารตามรสมือของแม่ ที่ได้สูตรมาจากยาย ทำที่ชุมพรได้เป็นปี ผมคิดว่าต้องปักหลักให้มั่นคง เลยมาเปิดร้านที่กรุงเทพฯ พอดีได้ทำเลดีที่ต้องการ จึงเปิดร้านอาหารใต้ “คลังสวน” ที่ซอยสายน้ำทิพย์ 2 สุขุมวิท 13 เลยโรงเรียนสายน้ำผึ้งไปนิดเดียว ทำร้านมาครบ 1 ปีแล้ว โดยยังยึดหลักเดิมคือ วัตถุดิบหลัก ไม่ว่าจะเป็นพริก หรือปลา เราจะสั่งจากทางใต้ ส่งตรงมาจากชุมพร เพราะกลัวจะไม่ได้รสชาติแบบเดิมที่เราเคยทำและเคยกิน ซึ่งพอมาทำร้านอาหาร ภาพเก่าๆ ความทรงจำสมัยเด็กที่ผมเห็นทั้งยายและแม่ช่วยกันทำมันปรากฏทุกครั้ง การเปิดร้านอาหารเลยกลายเป็นความรู้สึกแบบ Emotional มากกว่าการทำธุรกิจ ผมมีความสุขที่ได้ทำอาหาร ดังนั้น ถ้าทำแล้วไม่อร่อยเหมือนรสมือแม่ผมก็เททิ้งเลย หรือบาง วันที่เราไม่ได้ ปลาอินทรีย์ หรือปลาทรายจากทางใต้ ผมก็จะบอกลูกค้าว่า ไม่มีเมนูนั้นๆ จะเอาปลาชนิดอื่นมาทำก็คงไม่ใช่ จะบอกลูกค้าอย่างจริงใจ หรือบางทีอาหารออกมาช้าหน่อยเพราะลูกน้องไม่มีก็ต้องขอโทษบอกให้เขาเข้าใจ ทุกจานอาหารของผมผมทำเองทุกจาน ไม่ได้ฝึกให้ลูกน้องทำ เพราะอาหารทุกจานล้วนมาจากความทรงจำของผมที่มีต่อยายและแม่” หนุ่มณัฐเล่าด้วยความรู้สึกของคนทำอาหารด้วยใจ
...
สำหรับความสำเร็จจากการทำงานในวันนี้ของ เชฟณัฐ เจ้าของร้านอาหารใต้ “คลังสวน” เขาบอกว่า “เวลามีคนมาชมอาหารที่ร้านว่าอร่อย ผมถือว่าผมประสบความสำเร็จ ซึ่งความสำเร็จของลูกก็เหมือนเป็นความสำเร็จของพ่อแม่ด้วย เวลาที่ผมยิ้ม นั่นก็เป็นรอยยิ้มของแม่ด้วย ผมเชื่อในความใส่ใจ เชื่อในความจริงใจในการทำงานจะทำให้ก้าวไปสู่สิ่งที่เราหวังได้”.......นี่สูตรลับความสำเร็จของเชฟอินดี้คนนี้.