สมัยก่อนเราเคยมองว่า สมุนไพร เป็นเรื่องของคนแก่ คนรุ่นใหม่อย่างเราไม่ค่อยสนใจเท่าไร แต่ไม่น่าเชื่อว่า 2-3 ปีมานี้คำว่าสมุนไพรไทยกลับน่าตื่นตาตื่นใจกว่าที่เคย
ไม่ว่าจะเป็นอาหารออร์แกนิก อาหารสมุนไพรต้านโรค สมุนไพรเพื่อความงาม กำลังบูมมากทั้งในไทยและต่างประเทศ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ เห็นมีงาน สมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 15 เราไม่รอช้า...ไปลุยเสาะหาสมุนไพรบำรุงสุขภาพ และอาหารสุขภาพ มาฝากเพื่อนๆ ซะหน่อย
1. แกงเห็ด 3 อย่าง
เห็ด เป็นอาหารที่มีไขมันต่ำ และไม่มีคอเลสเตอรอล มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์อย่างโพแทสเซียมซึ่งช่วยลดความดันโลหิต และซีลีเนียมซึ่งเป็นตัวสารต้านมะเร็ง รวมทั้งยังมีวิตามินต่างๆ และกรดอะมิโนต่างๆ ที่ร่างกายต้องการในปริมาณพอสมควร

การรับประทาน "เห็ดสามอย่าง" ก็จะยิ่งได้ประโยชน์ยิ่งกว่ากินเห็ดเพียงอย่างเดียว โดยมีสรรพคุณทางยาช่วยต้านโรคร้ายต่างๆ ได้แก่

...
- มีค่ากรดอะมิโนที่สามารถลดอัตราการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้
- ช่วยล้างพิษที่สะสมในตับ พิษจากสุรา สารตกค้างในเนื้อสัตว์
สารเคมีจากเครื่องสำอาง
- ล้างไขมันในตับ ทำให้ตับเเข็งแรง สร้างเม็ดเลือดแดงได้ดี
- ลดอนุมูลอิสระที่จะเกิดขึ้นเป็นเซลล์มะเร็ง
2. ฟักข้าว
ต้นฟักข้าว มีถิ่นกำเนิดตั้งแต่ในประเทศจีนตอนใต้ พม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และบังกลาเทศ โดยจัดเป็นพรรณไม้ล้มลุก เป็นไม้เถาเลื้อย ผลสุกมีสีส้มแดง มีหนามแหลมกระจายอยู่บนเปลือกผล

ฟักข้าวมีไลโคปีนชนิดพิเศษ เรียกว่า ไลโปแคโรทีน เป็นกรดไขมันสายยาวที่ดีที่สุด ในฟักข้าวมีไลโคปีนมากกว่ามะเขือเทศ 20-70 เท่า มีเบต้าแคโรทีนมากกว่าในแครอท 10 เท่า มีสารซีแซนทีนมากกว่าข้าวโพด 28 เท่า และมีวิตามินซีมากกว่าส้ม 40-60 เท่า ทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินอี วิตามินเอ กรดไขมันโอเมก้า 3 6 9 สรรพคุณของฟักข้าว ได้แก่


- ช่วยลดน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานได้ (ผลอ่อน, ยอดฟักข้าว)
- ช่วยบำรุงปอด ช่วยแก้ฝีในปอด แก้ท่อน้ำดีอุดตัน ขับปัสสาวะ (เมล็ด)
- รากช่วยถอนพิษไข้ ช่วยขับเสมหะ
3. อินทผลัม

อินทผลัม จัดเป็นพืชตระกูลปาล์มชนิดหนึ่ง มีหลากหลายสายพันธุ์ เป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดีในเขตที่มีอากาศร้อนและแห้งแล้งอย่างทะเลทราย โดยอินทผลัมมีถิ่นกำเนิดในแถบตะวันออกกลาง เช่น อียิปต์ ซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน อาหรับ แอลจีเรีย สามารถกินได้ทั้งแบบตากแห้ง และผลสดๆ สีเหลือง กัดกินแบบลูกพุทราได้เลย
...

ส่วนสรรพคุณของอินทผลัม ได้แก่
- ช่วยบำรุงร่างกาย ขจัดความเมื่อยล้า ช่วยแก้อาการหนาวผิดปกติ
- แก้อาการอ่อนเพลีย กินอินทผลัมภายในครึ่งชั่วโมงทำให้ร่างกายสดชื่นขึ้น
- บำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกพรุน
- บำรุงและรักษาสายตา ช่วยป้องกันโรคตาบอดแสง ดูแลระบบประสาท
- ช่วยบำรุงตับอ่อน รักษาโรคเบาหวาน
- มีโพแทสเซียมสูง จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดในสมองได้มากถึง 40%
4. กระชายดำดองน้ำผึ้ง
ต้นกระชายดำ พบได้หนาแน่นในแถบมาเลเซีย สุมาตรา เกาะบอร์เนียว อินโดจีน และในประเทศไทย สำหรับประเทศไทยนั้นมีการปลูกกระชายดำมากในจังหวัดเลย ตาก กาญจนบุรี และจังหวัดอื่นๆ ทางภาคเหนือ ผิวเหง้ามีสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลเข้ม เนื้อภายในมีสีม่วงอ่อน สีม่วงเข้ม ไปจนถึงสีม่วงดำ เหง้ามีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและมีรสชาติขมเล็กน้อย


สรรพคุณของกระชายดำ ได้แก่
- ช่วยบำรุงประสาท ทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย แก้อาการเหน็บชา
- ช่วยในการนอนหลับ แก้อาการนอนไม่ค่อยหลับในตอนกลางคืน
- ช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยขยายหลอดเลือดหัวใจ
- ช่วยบำรุงโลหิตของสตรี ช่วยประจำเดือนมาปกติ ผิวพรรณสดใส
- ช่วยในระบบหมุนเวียนโลหิตของร่างกาย ทำให้โลหิตไหลเวียนได้ดีขึ้น
- ช่วยขับสารพิษจากตับ ขับเหงื่อ ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
5. ชาสมุนไพรบุฟเฟ่ต์
สนนราคาเพียงถุงละ 50 บาท เลือกตักผสมสมุนไพรได้ตามใจชอบ ใครไปเที่ยวงานนี้อย่าพลาดบูธชาสมุนไพรอภัยภูเบศร

...
- ว่านสาวหลง : ช่วยผ่อนคลาย บำรุงหัวใจ ช่วยให้นอนหลับสบาย
- เกสรบัวหลวง : บำรุงหัวใจ บำรุงครรภ์ ช่วยให้นอนหลับสบาย
- ฝาง : บำรุงโลหิต แก้ร้อนใน บำรุงปอด แก้หอบหืด
- อัญชัน : บำรุงสายตา เพิ่มการไหลเวียนเลือดที่ตา ต้านอนุมูลอิสระ
- ชะเอมเทศ : ช่วยให้ชุ่มคอ แก้น้ำลายเหนียว แก้อ่อนเพลีย
- มะตูม : แก้อ่อนเพลีย บำรุงไฟธาตุ ช่วยย่อยอาหาร



- กระเจี๊ยบแดง : ขับปัสสาวะ ลดไขมันในเลือด ลดความดันโลหิต
- อบเชยเทศ : ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ ลดระดับน้ำตาลในเลือด
- เถาวัลย์เหล็ก : บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง แก้กษัย ไตพิการ
- มะขามป้อม : แก้ไอ ขับเสมหะ ช่วยระบายอ่อนๆ ต้านอนุมูลอิสระ
- ฮ่อสะพานควาย : บำรุงกำลัง แก้ปวดเมื่อย ช่วยเรื่องเลือดลม
- เถาวัลย์เปรียง : คลายกล้ามเนื้อ แก้ปวดเมื่อย ขับปัสสาวะ
